รีวิว Ghost Recon Breakpoint ภารกิจพลิกชะตาจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า

สวัสดีครับ ทาง Sanook Game ขอนำเสนอรีวิวเกมส์แนว Tagtical Shooter จากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Ubisoft และเป็นซีรี่ส์ดังที่สร้างอยู่ในจักรวาลของลุง Tom's Clancy นักเขียนนิยายชื่อดัง โดยงานเขียนของเขานั้นมักมีเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองระหว่างประเทศ จึงทำให้เกม Ghost Recon มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นระทึกใจ และน่าติดตามมาโดยตลอด แถมเฟรนด์ชายนี้ก็มีอายุเกือบ 18 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็มีผลงานภาคใหม่ๆ ให้คอยติดตามออกมาเรื่อยๆเป็นสิบกว่าภาค จนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

จากที่ตัวเกมเป็นแอคชั่นเน้นยิงผ่านฉากไปเรื่อยๆจนจบ พอมาในภาคก่อนหน้านี้อย่าง Wildlands ก็ได้รื้อระบบใหม่ผันตัวเองไปเป็นแนว Open World จนมาถึงผลงานล่าสุดอย่างภาค Ghost Recon Breakpoint ก็เช่นกัน โดยภาคนี้จะมีเนื้อเรื่องต่อจากภาค Wildlands ซึ่งตัวเอกคนเดิมของเราคือ Nomad หน่วย รบพิเศษของสหรัฐสังกัดทีม Ghost ได้รับภารกิจออกไปค้นหาเจ้าหน้าที่วิศวกรของบริษัท Skell Technology ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและพัฒนา อาวุธยุทโธปกรณ์ แบบไฮเทคให้แก่หน่วย Ghost ไว้ใช้ในภารกิจต่างๆที่ผ่านมา แต่แล้ว Nomad ก็ต้องพบกับเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อพบกับกับตัวร้ายคนใหม่หัวหน้าทีมหน่วย Wolves นาม Cold D.Walker และเป็นอดีตสมาชิกเก่าของหน่วย Ghost ซึ่งรับบทโดยคุณ Jon Bernthal ดาราดังที่ได้มารับบทเป็นตัวร้ายในภาคนี้

ธีมหลักของตัวเกมต่างๆของภาคนี้ ถูกเปลี่ยนจากภาคที่แล้วจากเดิมที่ Nomad จะรับบทเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่ถูกส่งไป สังหารและทลายแก๊งค์ยาเสพติด แต่ใน ภาค Breakpoint เรากลับถูกไล่ล่าตามฆ่าแทน ไม่มีลูกทีมที่เป็น AI อีกสามคนแบบในภาคเก่าอีกแล้ว ตัวเกมถูกสร้างมาให้คุณฉายลุยเดี่ยว ซึ่งเหตุการณ์ในภาค Breakpoint เกิดขึ้นหลังจากภาค Wldlands ห่างไป 4 ปี เรื่องราวการผจญภัยในภาคนี้จะอยู่บนเกาะ Aurora แต่คุณก็สามารถไปหาคนอื่น หรือเพื่อนที่เล่นเกมมาร่วมทีมช่วยทำภารกิจได้เพิ่มอีกสามคนเช่นเดิม ผู้เล่นสามารถ Edit เลือกรูปร่าง หน้าตา สีผิว ทรงผม หนวดและเพศของตัวละคร Nomad ในภาคนี้ได้นิดหน่อย

เกมเพลย์ภาคนี้ยังคงให้ผู้เล่นได้ใช้ระบบ Stealth ใช้มีดฆ่า ลอบสังหาร ซุ่มยิงหัว One Hit Kill ได้แบบเดิม แต่ได้ตัดในส่วนที่เป็นจุดเด่นอย่าง Squad Based Tactical ที่เราสามารถสั่ง AI ทีมของเราออกไป เน้นไปทางคุยกับผู้เล่นอื่นหรือเพื่อน ในการวางแผนเพื่อทำภารกิจในภาคนี้แทน ภาคนี้เพิ่มเติมระบบเลือกตอบคำถาม ในส่วนของบทสนทนาต่างๆสามารถเลือก Dialog Choice ตามในสถานการณ์นั้นๆได้

ตัวเกมยังคงใช้ระบบของ RPG ในการเก็บ Level เพื่อเอาค่า Skill มาอัพเกรตให้ตัวละครเราเก่งและพัฒนาขึ้น ลูกเล่นเดิมอย่าง Drone Gadget ก็ถูกนำกลับมา ใช้ในการช่วยทำภารกิจเช่นเคย แต่จะมีระบบใหม่ในส่วนของการพรางตัวหลบซ่อน ที่ให้ผู้เล่นสามารถนอนคลุกฝุ่น ดิน โคลน ทราย หิมะ เพื่อใช้ในการหลบซ่อน จากศัตรูหรือหุ่นโดรนต่างๆ และในภาคนี้ยังได้เพิ่มเติมในส่วนของแต่งตัว ปืนและอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ โดยถูกแบ่งระดับเป็นขั้นสีๆนั่นคือ Gear Score มีตั้งแต่ปกติ สีฟ้า ม่วง และเหลือง และต่อไปคงอัพเดทเพิ่มสีอื่นๆ ไปจนถึงเพิ่มระดับของ Tier และโหมด Raid ลงไปหาช่วยกันหาของมาในอนาคตแน่นอน คล้ายกับเกมรุ่นน้องจากค่ายเดียวกันอย่าง The Division ซะเหลือเกิน แต่จะต่างกันตรงที่คุณไม่ต้องสาดกระสุนนับร้อยถึงพันนัด เพื่อล้มศัตรูหรือบอสบางตัว

ระบบ Gear Score นี้จะทำให้เราได้โบนัสในส่วนต่างๆขึ้นมาไม่มาก ทั้งยังสามารถไปในพื้นที่ต่างๆในเกาะ Aurora ได้เพราะตัวเกาะกำหนดระดับของแต่ละพื้นที่ไว้ เช่นผู้เล่นเดินเข้า ไปในเขตนี้ ตัวเกมจะมีข้อความเตือนบอก ถ้า Gear Score ของเราน้อยเกินไป ก็อาจถูกยิงหรือโจมตีแบบทีเดียวนอนแมวได้เลย ก็ต้องไปฟาร์มทำเควสหลัก เควสเสริม หรือภารกิจรายวัน เพื่อหาของใส่หรือปลดล๊อคอันที่มีประสิทธิ์เพิ่มขึ้น แล้วค่อยกลับมาลุยในพื้นอันตรายนั้นๆอีกที

ภาคนี้ผู้เล่นยังคงสามารถเลือก ปรับเปลี่ยนมุมมองได้ระหว่างเล่นเป็น Third Person หรือ First Person คือแบบเห็นแต่ปืนหรือเห็นตัวละครเราได้อย่างเคย ระบบ Auto Cover พิงกำแพงหรือสิ่งของแบบอัตโนมัติ ของภาคเก่ายังยังมีให้ใช้อยู่ เราสามารถตั้งแคมป์เพื่อกินอาหาร ปรับเปลี่ยนข้าวของ เลือกพาหนะ สร้างไอเทม ซื้อขายของต่างๆ หรือเลือกเปลี่ยนคลาสสายอาชีพต่างๆ แถมในภาคนี้ตัวละครเรามีอาการบาดเจ็บแสดงเช่นเดินกระเพรก ต้องกดใช้ผ้าพันแผลรักษาเพื่อให้หลอด พลังชีวิตเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเกจหลอด Stamina ค่าความเหนื่อยใช้ในการวิ่ง หรือการไหลกลิ้งตกลงจากหน้าผาเขาที่สูงชัน จะทำให้เราเสียสตามิน่าไปเยอะมาก ผู้เล่นต้องคอยดื่มน้ำจากกระติกเพื่อทดแทน ถ้าน้ำหมดก็ต้องหาลำธารหรือ แอ่งน้ำเพื่อคอยเติมอยู่ตลอดเวลา

ในส่วนของระบบ Class Skill ภาคนี้จะแบ่งออกเป็น 4 สายหลัก ให้ผู้เล่นสามารถเลือกเปลี่ยนได้แก่ Assault, Field Medic, Sharp Shooter, Panther โดยที่แต่ ละสายจะมีความสามารถที่แต่ต่างกัน เช่นแอบลอบฆ่า สายใช้สไนเปอร์ สายแท้งถึกทน รักษาชุบชีวิตตัวเองหรือผู้เล่นอื่นเป็นต้น ทั้งนี้ในแต่ละสายยังสามารถ อัพ เกรตระดับขึ้นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิ์ได้อีกสูงสูดถึงขั้นที่สิบ โดยการทำชาแลนด์ให้ผ่านในแต่ละระดับเลเวล ของแต่ละสายที่ตัวเกมกำหนดมา มาถึงระบบ Skill Tree ที่มีแบบอัพแล้วเป็น Passive คือติดตัวไปเลย และแบบอัพแล้วได้สคิลนั้นๆมาเพื่อไปติดตั้งและกดใช้ แต่ก็จะมีระยะในเรื่องของเวลาในการรอ Cool Dawn เช่นกัน สามารถเลือกติดตั้งสคิลใช้ได้สูงสุด 3 อัน

ด้านระบบอัพเกรตปืนสามารถพัฒนาได้ 3 ระดับเริ่มตั้งแต่ MK1-MK3 โดยการอัพสคิลเพื่อปลดล๊อคในแต่ละขั้น หรืออุปกรณ์ต่างๆมากมาย สามารถเลือกซื้อที่ ร้านค้าในค่ายหลัก และยังไปหาเก็บเอาตามสถานที่ต่างๆในเกมเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนสีในส่วนต่างๆของปืนแต่ละกระบอกนั้นๆอีก รวมไปถึงสีของ เสื้อผ้า แว่น หมวก เป้ใส่ของได้ค่อนข้างอิสระเช่นกัน

ระบบออนไลน์นอกจากการชวนผู้เล่นคนอื่น หรือเพื่อนไปช่วยกันทำภารกิจต่างๆ แล้วยังมี โหมด Ghost War คือการ PVP สู้กับผู้เล่นคนอื่นแบบแบ่งทีมข้างละ 4VS4 ก็จะมีโหมดต่างๆให้เราได้เลือกเล่นกัน นอกจากจะได้รางวัลกับค่า EXP แล้ว ยังมีชาแลนด์ต่างๆให้ทำเพื่อปลดล๊อคของรางวัลพิเศษในส่วน PVP อีกด้วย

กราฟิกของเกมภาคนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว อนิเมชั่นการเคลื่อนไหว ปีนป่าย ท่าทางของตัวละครเรามีความสมจริงมากขึ้น ทั้งในเรื่องของแสงเงา สภาพแวดล้อม ป่าเขาธรรมชาติ ทะเล หิมะ สภาพภูมิอากาศ ฝนตก ทะเลทราย แม้แต่พื้นที่โซนภูเขาไฟก็ถูกใส่มา ต้นไม้ ใบหญ้า พลิ้วไหวตามแรงลมอย่างสวยงาม ทั้งยังสัตว์ ต่างๆที่มีให้เห็นระหว่างทางบ้าง แต่ดันไปตกม้าตายในส่วนของเทคเจอร์ ในบางอย่างที่แทบหยาบบางทีไม่มีรายละเอียดเลย เช่นหิน พื้นดิน ลายไม้ตามบ้านช่อง การออกแบบสถานที่ฉากต่างๆ ค่อนข้างเรียบง่ายไปจะเจอก็แต่ป่ากับภูเขาซะส่วนมาก หมู่บ้านสภาพแวดล้อมชุมชนแบบภาคที่แล้ว แทบหาไม่เจอในภาคนี้

โดยรวมตัวเกมในภาค Breakpoint นี้ยังคงมีกลิ่นไอของ Ghost Recon หลงเหลืออยู่บ้าง และด้วยความที่ตัวเกมเป็น Open World แผนที่กว้างใหญ่ ก็มักจะมี อะไรให้สำรวจหรือตามเก็บข้าวของ ตามแบบสไตล์เกมของ Ubisoft ที่ผ่านๆมา และถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเกมเมอร์ชาวไทย เพราะทาง Ubisoft ได้ทำการ ใส่ภาษาไทยของบ้านเราเข้ามาในเกม Ghost Recon Breakpoint เป็นเกมแรกเลยก็ว่าได้ ถึงการแปลภาษาเราจะออกมาผิดพลาดไม่สมบูรณ์บ้าง แต่ก็นับว่าเป็น นิมิตรหมายก้าวแรกที่พัฒนาเพื่อคนไทย ทั้งยังเป็นโอกาสให้เพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการเล่น และยังเป็นบันไดสู่ความสำเร็จสำหรับเกมต่อๆไป ในอนาคตจาก ทางค่าย Ubsoft ในภายภาควันข้างหน้า

ข้อดี เควสมิชชั่นหลักเยอะ เควสย่อยเสริมอาจจะซ้ำๆไปบ้าง ตามสไตล์เกม Open World เกมที่มีแผนที่ใหญ่มากๆ และจะเพิ่มอรรถรสและความสนุกเฮฮาขึ้น เมื่อคุณ ได้เล่นออนไลน์ร่วมกันไปทำภารกิจกับเพื่อนซี้ของคุณ โดยใช้พาหนะที่มีให้เลือกใช้ต่างๆในเกม ถ้าเล่นคนเดียวอาจจะแอบเหงาเป็นพิเศษได้

ข้อเสีย บัคค่อนข้างเยอะ ที่เพื่อนและผู้เขียนเจอกันมาเอง ก็เรื่องใช้โดรนไม่ได้ ตัวละครลอยโลดโผนอยู่กลางอากาศ แต่งปืนไม่ได้ คงต่อรอให้ทีมงานอัพเดทแพทแก้ใน อนาคต และอีกเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการขายของด้วยเงินจริง หรือสายเปย์ระบบ Microtransactions ที่มีไอเทม ปืน สกิน ของแต่ง หรือ พาหนะต่างๆ ขายกันอย่าง มากมาย นี่ขนาดแค่เกมเพิ่งวางขายมาเพียง สัปดาห์กว่ายังเยอะขนาดนี้ แถมของแต่ละชิ้น ก็ราคาแพงอีกต่างหากด้วย ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เนทเพื่อออนไลน์เข้า ไปเล่นตลอด ไม่สามารถเล่นออฟไลน์คนเดียว ได้ในแบบภาค Wildlands

เรื่องมุมมองในแบบ TPS ทำออกมาค้อนข้างแย่ ซูมตัวละครเข้ามาใกล้เกินไป ทำให้ การมองเห็น ศัตรูรอบข้างตัวอื่นๆตอนเวลากำลังยิง ค่อนข้างดูลำบากและทำให้อึดอัดมาก ขออนุญาตยกตัวอย่างประมานแบบ Resident Evil 6 ที่ออกตอนแรก พอทีหลังออกแพทเพิ่ม มีให้ปรับมุมมองในส่วนของ Field of View ได้ พอเปลี่ยนได้นึ่่อย่างกับคนละเกมเลยครับ อีกเรื่องส่วนของบอสและรองบอส ที่ภาคนี้น้อย มากๆ ถ้าเทียบกะภาคก่อนอย่าง Wildlands แล้วมีเป็นเข่งให้ไปสังหารประมานเกือบ 30 คนได้ จำนวนต่างกันลิบลับครับ

บทความนี้ผู้เขียนรีวิวบน PS4 Pro ในส่วนของเฟรมเรทก็มีตกบ้างแต่ไม่เยอะมากครับ

• กราฟิก 7
• เกมเพลย์ 8
• การเล่าเรื่อง 7
• ความคุ้มค่า 7

Review By โจรป่า เคราแพะ ตาแป๊ะ ผมยาว ขอได้รับความขอบคุณจากทาง Ubisoft ที่ส่งโค๊ดรีวิวตัวเกมเต็มมา ณ ที่นี้ด้วยครับ