เจาะลึกเกมส์ Home Sweet Home กับคุณศรุต ทับลอย Game Director ภาคล่าสุด!

เนื่องในโอกาสที่เกมส์ Home Sweet Home Ep.2 จะมีอัพเดตเพิ่มเติมในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ประหนึ่งฉลองวันฮาโลวีน ทีมงาน Sanook Game เลยขอใช้โอกาสพิเศษนี้ ไปสัมภาษณ์คุณศรุต ทับลอย Game Director เกมส์ Home Sweet Home 2 ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังในการพัฒนาเกมส์ผีสัญชาติไทยเกมส์นี้ รวมถึงความเห็น และมุมมองต่อสังคมเกมส์ไทยในตอนนี้ด้วยไปพร้อมกันเลย ไปดูกันว่าคุณศรุต หรือคุณแซ็ค แห่งบริษัท Yggdrazil จะมีความเห็นอย่างไร!

 

ทีม Sanook: อยากให้คุณแซ็คเล่าถึงที่มาที่ไป ทำไมถึงได้มาเป็นผู้พัฒนาเกมส์ Home Sweet Home ครับ?

คุณแซ็ค: ส่วนตัวผมเป็นคนชอบเล่นเกมส์อยู่แล้ว โดยจะไปทางสาย Adventure หรือ Horror เช่นเกมส์หลักๆ ที่ชอบก็อย่าง Silent Hill, Resident Evil อีกส่วนหนึ่งก็คือเพื่อนๆ น้องๆ ในบริษัทนี่ละครับ ที่หลายคนก็คุยกันนานแล้วละ คือในบริษัทผมมีเครื่องเกมส์ ที่พอมีคนว่างก็จะมาเล่นด้วยกัน ก็จะมีคุยกันบ้างว่าอยากทำเกมส์ เพราะพนักงานส่วนใหญ่ที่ทำ CG ก็มีเกมส์เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน ทำให้พอเราเห็นเขาอยากทำ เราก็อยากทำด้วย ก็เลยคุยกันว่าถ้าเป็นไปได้เราก็จะลงมือทำมันด้วยกันนะ

ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยมานานนะครับ เป็นสิบปีเลย จนเราคิดว่าเราพร้อมแล้ว แต่น้องๆ ที่เราคุยไว้ตอนนั้น ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้วละ เราก็เลยคิดว่าเราเคยพูดไว้แล้ว เราก็จะทำ ซึ่งเราคิดว่าเราทำเกมส์แล้วทั้งที เราไม่อยากทำเกมส์ที่มันไม่มีผลต่อสังคมอะไรเพิ่ม เพราะงั้นเราก็เลยขอทำเกมส์ที่มันเป็นไทยเลยก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะใช้เป็นจุดขายว่า เราทำเกมส์ไทย เท่านั้น แต่เราอยากแสดงให้ชาวต่างชาติเห็นถึงวัฒนธรรมไทย และเห็นว่าประเทศไทยมีดี และทำเกมส์ที่มีสายเลือดไทยออกมาได้เหมือนกัน

 

ทีม Sanook: นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ในภาค 2 นี้เลือกหยิบผีนางรำ ผีกระสือ หรือศิลปะนาฏศิลป์มาใช้ใช่มั้ยครับ? มีเหตุผลอะไรมั้ย?

คุณแซ็ค: ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เกมส์ภาคสองเสียทีเดียว มันก็คือภาคแรก เพียงแต่ว่าเราตัดแบ่งท่อนในการจัดจำหน่าย เพราะมันทำไม่เสร็จนั่นแหละ เพราะงบมันหมด และเราก็ต้องหาทางลง ซึ่งหากฝืนทำต่อ ก็คงเนี่ยแหละช่วงนี้ถึงจะทำเสร็จ ต้องรออีกหลายปี เลยตัดสินใจแบ่งพาร์ทแทนครับ เพราะงั้นในทีแรกสุดที่เป็นเกมส์เดียวต่อกันเนี่ย ก่อนจะมีเบล มีตัวละครอื่นๆ เราคิดถึงผีนางรำไว้แต่แรกแล้วครับ ทำให้ในทีแรกสุดนั้น มีโปสเตอร์ผีนางรำออกมาก่อน

ทีม Sanook: คิดว่าความท้าทายในการทำเกมส์แนว Horror อย่างเกมส์ Home Sweet Home นี้คืออะไรครับ?

คุณแซ็ค: สิ่งที่ท้าทายที่สุดคงเป็นเรื่องของยอดขายนี่แหละ(หัวเราะ) เรารู้อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเริ่มทำเกมส์นี้แล้วละ ว่าการทำเกมส์ในประเทศไทยเนี่ยมันไม่ง่ายเลย มีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการเจาะเข้าไปในใจของผู้เล่นเกมส์ที่จะมีกำแพงกันไว้ก่อนว่า เกมส์ไทยไม่ค่อยดีเท่าไรในความรู้สึกของพวกเขา ซึ่งเอาจริงๆ มันก็มีเกมส์ที่ดีนะ เพียงแต่เมื่อผู้เล่นไทยตั้งกำแพงนี้ไว้แล้วเนี่ย มันก็ยากที่จะปีนข้ามมันไปได้

ซึ่งพอเราได้ทำมันจริงๆ ก็เจอกับปัญหานี้พอสมควรเลย ทั้งโดนยกไปเปรียบเทียบกับเกมส์ดีๆ ใหญ่ๆ จากค่ายที่พัฒนามานาน ที่มีเงินทุนหนากว่า กับเราที่ยังเป็นมือใหม่ ทั้งความรู้ ความสามารถ และเงินทุน มีแค่ Passion ที่จะทำมันเท่านั้นเอง ซึ่งมันยากมากที่จะทำเกมส์ให้ดีได้เท่าเขา และเราก็รู้เรื่องนี้แต่แรกแล้วละ แต่ว่าเราก็ยังอยากจะฝืนทำมันดู เผื่อถ้ามันทำได้ขึ้นมา ถึงจะไม่ดีเท่าเกมส์ต่างชาติทุนหนา แต่มันก็น่าจะเปิดใจให้คนไทยมาเฝ้าจับตามองการพัฒนาเกมส์ของคนไทยในอนาคตมากขึ้น

 

ทีม Sanook: คุณแซ็คมองว่าเกมส์ Home Sweet Home ประสบความสำเร็จมั้ยครับ?

คุณแซ็ค: คือถ้าเปิดใจคน ให้คนมาสนใจ มาติดตาม มาเชียร์มันได้ ก็เรียกว่าประสบความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้วครับ เพียงแต่จะให้ประสบความสำเร็จไปมากกว่านั้น มันก็ต้องมีทุนมาพัฒนาต่อยอดเกมส์อื่นๆ ได้ต่อไป ซึ่งจะให้ผมทำเกมส์ผีแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้มันเกิดปรากฏการณ์สนุกๆ แบบนี้ในประเทศไทยไปเรื่อยๆ ทุกปีๆ ผมก็ทำได้นะครับ แต่มันต้องการทุนทรัพย์ในการพัฒนาทีม เพื่อทำเกมส์ที่ดีกว่าเดิมได้

ทีม Sanook: คุณแซ็คคิดว่าการที่สตรีมเมอร์หรือ Game Caster เล่นเกมส์นี้กันเยอะส่งผลต่อเรื่องนี้มั้ยครับ?

คุณแซ็ค: สำหรับผมมองเห็นสตรีมเมอร์เป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนคนที่ช่วยผลักดันเรานะครับ สตรีมเมอร์หลายคนอาจจะชอบหรืออยากสนับสนุนเกมส์เรา หรืออาจอยากผลักดันอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยก็ได้ คือทุกคนมีจุดประสงค์ที่ดีต่อเกมส์เราทั้งนั้นละครับ รู้สึกได้ว่าหลายๆ คนอยากช่วยกันครับ ไม่ใช่แค่สตรีมเมอร์นะ ยูทูปเบอร์ หรือแม้แต่สื่อต่างๆ ในประเทศไทย ทุกคนเป็นเพื่อนเราหมดเลย ทุกคนดีกับเรามากๆ เลยครับ เพราะงั้นตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาของเราหรอก เอาจริงๆ ปัญหาของเราคือคนที่อยากจะเชียร์เรา อยากจะสนับสนุนเรา แต่เขาแค่อยากดูเกมส์ของเราเฉยๆ มากกว่า

ทีม Sanook: นั่นเลยส่งผลให้มีแคมเปญรับ Donate จากแฟนๆ เกมส์ที่ไม่กล้าซื้อไปเล่นเอง แต่อยากสนับสนุนผู้พัฒนาใช่มั้ยครับ?

คุณแซ็ค: เราไม่ได้มองว่ามันเป็นเพียงแค่ธุรกิจน่ะครับ ไม่ได้มองแค่ว่าเราจะหาเงินจากตรงนี้ เราแค่อยากพัฒนา อยากผลักดันอะไรใหม่ๆ อยากแก้ปัญหาบางอย่างในสังคมไทย ซึ่งก็มีหลายฝ่ายที่พยายามจะช่วยกันอยู่แล้ว เพียงแต่อุปสรรคหลักๆ คือเกมส์เราเป็นเกมส์ผีนี่ละ ทำให้คนที่อยากจะเล่นเองอาจจะน้อยไป ถ้าเกิดมันไม่ใช่เกมส์ผีเป็นเกมส์ประเภทอื่นๆ เขาดูสตรีมเมอร์ เขาก็อาจอยากเล่นเองก็ได้ เพียงแต่เพราะมันเป็นเกมส์ผี บวกกับความยากของมันด้วย ก็อาจจะทำให้กลุ่มคนที่เล่นได้เองจริงๆ อาจจะน้อยอยู่แล้วน่ะครับ

 

ทีม Sanook: ถึงแม้ตลอดสองภาคที่ผ่านมาจะเลือกหยิบผีไทยอย่าง เปรต และ กระสือ แต่ในอนาคตทางผู้พัฒนามีแผนจะหยิบใช้ตำนานผีจากต่างประเทศบ้างมั้ยครับ?

คุณแซ็ค: มีคิดไว้อยู่เหมือนกันครับ เพราะบางทีถ้ามัน(เซ็ตติ้งของเกมส์)กว้างขึ้น ก็น่าจะขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราคิดว่าผีไทยกับผีต่างประเทศก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ครับ (หัวเราะ) ซึ่งมันก็เป็นไปได้ที่ตัวละครในเกมส์เราจะไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วก็เจอผี ก็เป็นไปได้นะครับ

ทีม Sanook: น่าสนใจว่าแก่นหลักอีกอย่างของเกมส์ซีรีส์ Home Sweet Home นี้คือความรัก ความแค้นระหว่างตัวละครในเกมส์ อยากทราบว่าเพราะอะไรจึงเลือกให้ต้นตอของปัญหาเกิดจากเรื่องนี้ครับ?

คุณแซ็ค: ไม่ใช่ซะทีเดียว เพียงแต่การที่คนเราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง มันจะต้องมีสิ่งที่อยู่ในใจ เป็นดั่งเหตุผลที่จะขับเคลื่อนการกระทำบางอย่าง ยิ่งสิ่งที่มันยากมาก มันก็ยิ่งต้องการแรงขับเคลื่อนที่มีพลังสูง ซึ่งความรัก ความแค้น ความห่วงใย มักเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนคนเราได้เยอะเป็นพิเศษ และผมมองว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ขับเคลื่อนตัวเกมส์ Home Sweet Home จริงๆ แต่เรื่องหลักคือสิ่งที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์มากกว่าครับ

 

ทีม Sanook: อะไรเป็นหลักการ / เหตุผล ที่ตัดสินใจทำให้ภาค 2 มีการโจมตีผีแทนการหนีเอาตัวรอดอย่างเดียวได้ครับ?

คุณแซ็ค: ตอนแรกที่เราทำเกมส์ เราก็คิดไว้ว่าจะให้มันมีหลากหลายวิธีการเล่นแต่แรกแล้วละครับ เพราะมันคงยากมาก ที่จะทำให้ผู้เล่นหนีอย่างเดียวไปตลอด ซึ่งต้องย้อนกลับไปย้ำจุดเดิมว่า เกมส์สอง EP นี้ต่อกันเป็นท่อนเดียวกันทั้งหมด ซึ่งมันคงน่าเบื่อเหมือนกัน ที่เราทำได้แค่เปลี่ยนผีใหม่ เปลี่ยนเมคานิคไปเรื่อยๆ โดยตัวผู้เล่นไม่มีการพัฒนาเลย มันก็อาจจะไม่สนุกหลังเล่นไปนานๆ ได้ และมันก็คงจะดูมีความเป็นเกมส์ที่น้อย เหมือนเป็นแค่การเดินชมสถานที่ แล้วเจอฉากตุ้งแช่มาหลอกเราเป็นช่วงๆ

ก็เลยคิดไว้ว่าตัวละครติมเนี่ยจะเริ่มจากการเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผี แล้วก็จะค่อยๆ เชื่อเรื่องผีจนถึงจุดที่อินกับเรื่องผี กับการต่อสู้กับผี และเรื่องไสยศาสตร์ในที่สุด และอีกส่วนหนึ่งคือทีมงานก็จะได้ทำงานที่หลากหลายขึ้น ไม่ใช่อยู่กับแค่ความรู้เดิมๆ การตัดสินใจเดิมๆ แก้ปัญหาแบบเดิมๆ มันก็เพื่อฝึกทักษะของทีมงานเพิ่มขึ้น เพื่อจะสามารถทำเกมส์ที่หลากหลายแนวขึ้นในอนาคตได้ด้วยครับ

ทีม Sanook: แล้วในอนาคตจะมีแผนเพิ่มระบบ Co-op หรือการเล่นเกมส์แบบ Multiplayer เข้าไปด้วยมั้ยครับ?

คุณแซ็ค: ต้องรอติดตามครับ เพราะจริงๆ เราก็มีแผนจะทำไว้อยู่แล้ว คือทีมเราเนี่ยฟังเสียงแฟนเกมส์ค่อนข้างมาก เช่นการใส่ระบบที่สู้ผีได้เข้ามาเนี่ย ก็เพราะเสียงของแฟนเกมส์ด้วย เพราะเราก็โดนติมาเยอะว่าผู้เล่นเกมส์นี้ทำอะไรไม่ได้มากเลย นอกจากหนีผีอย่างเดียว หรือแม้แต่การเข้าไปหลบในตู้ก็เหมือน Outlast คือเราก็พยายามแก้ไขปัญหาพวกนั้นด้วยเหมือนกัน ซึ่งเจ้าระบบ Coop หรือ Multiplayer เนี่ยก็มีเสียงเรียกร้องเข้ามาค่อนข้างมากเหมือนกัน ซึ่งถ้าเรามีทุนพอ เราก็อยากจะทำเหมือนกันครับ

 

ทีม Sanook: พอจะบอกได้มั้ยครับว่า สุริยคราสที่ปรากฏในเกมส์สองภาคนั้น จะส่งผลสำคัญต่อเรื่องราวในเกมส์อย่างไร?

คุณแซ็ค: จริงๆ ทุกคนน่าจะเดากันออกแล้วละ ว่าเจ้าสุริยคราสเนี่ย ในความเชื่อของคนไทย ถ้าจะทำคุณไสย หรือเวทย์ขั้นสูง มันต้องอาศัยเรื่องของดวง เวลาที่เหมาะสม ซึ่งสุริยคราสเนี่ยถือว่าแรงมากๆ เรื่องของพิธีกรรม ไสยศาสตร์อยู่แล้ว และจะได้เป็นจุดขมวดว่าผีแต่ละตัวมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรด้วย

ทีม Sanook: เคยมีใครขอเอาเนื้อเรื่องในเกมไปสร้างเป็นภาพยนต์มั้ยครับ?

คุณแซ็ค: มีครับ มีเยอะด้วย ทั้งจากต่างชาติ ทั้งจากคนไทย เป็นค่ายหนังก็มีด้วย คือใจจริงแล้วผมเองก็อยากทำมันเป็นหนังอยู่แล้วครับ เพราะมีท่อนหนึ่งของเกมส์ที่เล่าออกมาในแบบของเกมส์ไม่ได้ ถ้าไม่เล่าออกมาเป็นหนังเนี่ย ข้อความมันก็อาจจะสื่อออกไปไม่ครบถ้วน แต่ปัญหาคือค่ายหนังที่ติดต่อมาส่วนใหญ่จะอยากได้แค่ชื่อ อยากได้อะไรๆ ของเกมส์เราไปเท่านั้นเอง และเขาจะเขียนบทขึ้นมาใหม่ ซึ่งเราก็กลัวมันจะเพี้ยนไป และเราก็อยากให้เส้นเรื่องเดิมมันยังอยู่นะครับ ก็ต้องคุยให้ลงตัวในจุดนี้ให้ได้

ทีม Sanook: หนึ่งในเสน่ห์ของ Home Sweet Home หรือเกมส์ผี คือการได้ดู Reaction ของผู้เล่น คุณแซ็คคิดว่าผู้พัฒนาเกมส์สามารถทำอะไรเพิ่มได้หรือไม่ ในแง่ของการอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นได้สร้าง Content จากเกม

คุณแซ็ค: จริงๆ เราก็วางแผนจะทำกันไปแล้วละครับ แต่พอทำปุ๊บ เราก็ไม่มีเวลาไปโฟกัสกับการทำงานให้เต็มที่เหมือนกัน ก็คือเราพยายามจะให้สตรีมเมอร์หรือคนดู เข้าถึงทีมเราได้ง่าย เพื่อที่เวลาใครมีความเห็น มีไอเดียอะไร ก็เสนอเราได้ หรือแม้แต่สิ่งที่เราทำอยู่ ถ้ามันไม่ดีอะไร ก็วิจารณ์ ติชมตามหลักเหตุผลได้ เพื่อที่เราจะได้รู้แนวทาง รู้สิ่งที่คนอยากได้มากขึ้น

ทีม Sanook: แล้วทีมงานมีวิธีไหนในการสำรวจความเห็นพวกนี้บ้างครับ?

คุณแซ็ค: ทุกวันนี้ผมก็พยายามไปอ่านคอมเมนต์ Feedback ต่างๆ มีการไปตอบคอมเมนต์ของสตรีมเมอร์ แคสเตอร์ แต่ละช่องทาง มีการไปแฝงตัวอยู่ในสังคมของเขาด้วย คือพยายามพูดคุยถามตอบกับแฟนเกมส์ให้มากที่สุดละครับ

ทีม Sanook: คิดเห็นอย่างไรต่อการที่เกมส์นี้เป็นที่โด่งดังไปถึงสตรีมเมอร์ต่างประเทศ อย่างล่าสุดก็มีคนญี่ปุ่นเอาไปเล่นออกไลฟ์สตรีมด้วย

คุณแซ็ค: ก็รู้สึกดีครับ เพราะจุดประสงค์หนึ่งของเราที่ทำเกมส์นี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้ต่างชาติหันมาสนใจอะไรที่เป็นไทยๆ มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสผลิต Content อื่นออกไป ที่จะพาวัฒนธรรมเราออกไปเผยแพร่ด้วย และเราจะได้เห็นมุมมองของต่างชาติด้วยว่า ถ้าไม่ใช่คนไทย ถ้าไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมของเราเนี่ย เขาจะคิดยังไง หรือเขาจะเข้าใจมันจริงๆ มั้ย?

ทีม Sanook: ในการสร้างเกมส์ Home Sweet Home เนี่ย คุณแซ็คมีเกมส์ไหนในอดีตเป็นแรงบันดาลใจบ้างมั้ย? แล้วอยากจะแนะนำเกมส์อะไรให้ผู้เล่นที่ชอบเกมส์ Home Sweet Home ได้ลองเล่นดูครับ?

คุณแซ็ค: ช่วงที่ผมเริ่มทำเกมส์เนี่ย ผมมีโอกาสได้ไปเล่น P.T. บ่อยมากเลย เพราะผมก็เป็นแฟนของเกมส์ Silent Hill ด้วย รวมถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่างก็หยิบมาจาก P.T. ด้วย แต่ว่าเกมส์ที่มีผลกระทบต่อ Home Sweet Home มากที่สุด น่าจะเป็นเกมส์ Clocktower ครับ มันเป็นเกมส์ที่มีฆาตกรคนหนึ่ง เดินไปมาในคฤหาสต์ ซึ่งมันจะอยู่ห้องไหน มันจะเข้ามาทำร้ายเราเมื่อไรก็ไม่รู้ ส่วนถ้าชอบเกมส์ Home Sweet Home ก็เล่นเกมส์เราดีกว่า เกมส์นั้นเก่าแล้วละ (หัวเราะ)

ทีม Sanook: ทราบมาว่าที่มาของคำว่า Yggdrazil (อิกดราซิ่ล) คือความชื่นชอบการเล่นเกม Ragnarok สมัยเด็กใช่มั้ยครับ?

คุณแซ็ค: ใช่เลยครับ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราติดเกมส์กันอยู่ แล้วพอเพื่อนจะขอให้ช่วยตั้งชื่อบริษัท ซึ่งในทีแรก เราก็ไม่รู้ว่าคำว่า Yggdrazil มันอ่านว่าอะไร เลยไปหาข้อมูลมา ซึ่งความหมายมันก็ดีนะ เราเลยเอามาตั้งชื่อบริษัท

ทีม Sanook: คิดว่านักพัฒนาเกมสามารถเรียนรู้อะไรจากเกม Ragnarok สมัยช่วงที่โด่งดังได้บ้างครับ?

คุณแซ็ค: ผมไม่คิดว่าแค่ในยุคนั้นนะ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญในทุกยุคที่สมัยที่ต้องคิดถึงผู้เล่นไว้ก่อน คือเกมส์มันไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อแค่ให้เราสนุกที่ได้สร้างมันขึ้นมา แต่เราสร้างมาให้ผู้เล่นได้เล่น เพราะงั้นการสนใจความคิดของผู้เล่นก็จะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเกมส์ครับ อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของสังคมในเกมส์ที่เกมส์ Ragnarok มีสังคมในเกมส์ที่เราก็เห็นว่ามันสวยงามมากเลย สักวันหนึ่งถ้ามีทุน มีโอกาสก็อยากทำเกมส์ที่มีสังคมในเกมส์แบบนั้น

ทีม Sanook: ในฐานะที่เป็นผู้พัฒนาเกมส์ผีแล้ว คุณแซ็คมีผีที่กลัวเป็นพิเศษมั้ยครับ?

คุณแซ็ค: ผมมองว่าตัวผี วิญญาณพวกนี้เป็นพลังงานบางอย่าง ที่เป็นพลังงานตกค้างของจิตใจมนุษย์ เพราะงั้นผีที่ผมกลัวเนี่ย ผมกลัวพวกผีที่เกิดจากความอาฆาตแค้นต่อสังคม ต่อโลกอะไรพวกนี้มากกว่า เพราะมันจะเป็นผีอันธพาลไป

ทีม Sanook: สุดท้ายนี้ ปกติเราจะเห็นแต่ผู้เล่นส่ง feedback ให้กับผู้พัฒนาเกม คุณศรุตอยากจะส่ง feedback อะไรให้ผู้เล่น หรือเหล่าสตรีมเมอร์มั้ยครับ?

คุณแซ็ค: Feedback ยังไงเหรอครับ? ก็เครียดนิดนึง (หัวเราะ) เอาจริงๆก็ รู้สึกดีใจที่ผู้เล่นหลายคน เล่นแล้วชอบ แต่อาจจะมีผู้เล่นบางกลุ่มที่เขาเล่นเกมส์ของเราครั้งแรก แล้วเขาไม่เจอเคยเบลมาก่อน แล้วมาเจอนางรำเลย ทำให้บางอย่างมันคาดเดาไม่ได้ ไม่เหมือนที่เบลเป็น ซึ่งก็มีคนมาคอมเม้นต์เรื่องนี้เหมือนกัน และมันก็ยากมากที่จะทำเกมส์นี้ให้ตอบโจทย์ของผู้เล่นที่เป็นสายฮาร์ดคอร์ กับสายเล่นเพื่อความบันเทิง เสพบรรยากาศ แต่จะให้เราทำเกมส์ที่มีสามารถเลือกระดับความยากได้ ก็ยากอีกเพราะทุนเราไม่เยอะ และมันก็ต้องมีการทดสอบหลายครั้ง

ถ้ามีระดับการเล่นหลายระดับ ก็จะใช้เวลา ใช้งบประมาณมากขึ้นอีก เราเลยต้องคิดถึงระดับความยากที่พอดีกับความต้องการของผู้เล่นที่มีจำนวนเยอะที่สุด อย่างในตอนแรกก็มีคอมเมนต์บอกว่ายากไม่เท่าเจอกับผีเบล ก็เลยปรับเกมส์ใหม่ให้ยากขึ้น แล้วลองให้ผู้เล่นที่เก่งขึ้น หรือสตรีมเมอร์ที่เน้นแคสต์เกมส์พวกนี้มาลองเล่นดู เขาก็เล่นได้ เราก็เลยรู้สึกว่ามันพอดีแล้ว แต่พอปล่อยไป ก็ดันมีผู้เล่นที่เล่นไม่ได้เยอะขึ้นไปแทน แต่เรากำลังคิดถึงเรื่องการปรับบาลานซ์อีกที ซึ่งวันที่ 31 นี้ เราก็จะมีการปล่อยแพชท์ปรับออกไปพร้อมกันอีกทีครับ

ซึ่งก็อย่างที่คุณแซ็คว่าไว้ วันที่ 31 ตุลาคม นี้เกมส์ Home Sweet Home Ep.2 จะมีการอัพเดตแพทช์ใหม่ ปรับบาลานซ์บางส่วนของเกมส์นั่นเองครับ โดยจะเพิ่มระบบการเลือกระดับความยากของเกมส์เข้ามาให้แฟนๆ เลือกระดับที่เหมาะกับตัวเองได้เลย

ส่วนกำหนดการอัพเดตเนื้อหาตอนจบของเกมส์ที่เดิมวางแผนไว้ว่าจะปล่อยมาพร้อมกันในวันที่ 31 นั้น จำเป็นต้องขอเลื่อนกำหนดการเป็นภายในปีนี้แทน เพื่อที่ทีมงานจะได้ปรับปรุงให้สมบูรณ์ที่สุดครับ