โปรดิวเซอร์ FF7 Remake บินแนะนำเกมถึงเมืองไทย พร้อมประกาศเปิดพรีออเดอร์

โปรดิวเซอร์ FF7 Remake บินแนะนำเกมถึงเมืองไทย พร้อมประกาศเปิดพรีออเดอร์

โปรดิวเซอร์ FF7 Remake บินแนะนำเกมถึงเมืองไทย พร้อมประกาศเปิดพรีออเดอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Sony Thai จัดงานแถลงข่าว Final Fantasy 7 Remake นำโปรดิวเซอร์มาโปรโมทตัวเกม โดยมีการอธิบายถึงแรงบันดาลใจในส่วนต่าง ๆ ของตัวเกม พร้อมทั้งสอน และเปิดพรีออเดอร์ตัวเกมอีกด้วย

Mr. Yoshinori Kitase - Producer Square Enix และ Final Fantasy VII Remake (FF7Remake) เปิดเผยว่า เกม FF7 Remake เป็นการนำคอนเซ็ปต์ของภาคดังเดิมมาสร้างอีกครั้ง พร้อมทั้งเจาะลึกเข้าไปในโลกของตัวละครให้มีความลึกมากยิ่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเกม RPG สำหรับยุคใหม่ซึ่งไม่ใช่การก๊อปปี้เกม หรือ Remaster เพียงอย่างเดียว ซึ่งเราได้มีการสร้างระบบการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ โดยมีการเพิ่ม Action แบบ Real Time เข้าไปอีกด้วย แต่ว่าเรายังคงให้ความสำคัญในส่วนของการใช้กลยุทธที่เป็นการต่อสู้ซึ่งใช้เป็นประจำในซีรี่ย์ Final Fantasy ที่ผ่านๆมา

เช่นระหว่างการต่อสู้ ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่มเพื่อเลือกใช้ความสามารถพิเศษ รวมไปถึงเวทย์มนตร์ต่าง ๆ ได้ โดยเวลาในส่วนนั้นจะถูกทำให้ช้าลง ซึ่งจะเหมือนในส่วนของ RPG ในรูปแบบเดิม คือมีเวลาให้ผู้เล่นคิดเกี่ยวกับกลยุทธในการต่อสู้นั้น ๆ ทำให้แฟน ๆ ที่ไม่ถนัดในการเล่นในส่วนของแอคชั่นสามารถเล่นได้ ซึ่งจากการที่เราจะต้องสร้างโลก และระบบการต่อสู้ต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ ทำให้ปริมาณข้อมูลมีเพิ่มมากขึ้นกลายเป็นเซ็ตบลูเรย์ 2 แผ่น และจะเป็นเกมที่สนองความต้องการของผู้เล่นได้

ในส่วนของผู้พัฒนานั้น ทางคุณ Yoshinori เปิดเผยว่าการพัฒนาเกม FF7 Remake นั้น ประกอบด้วย 3 สิ่ง ได้แก่ นวัตกรรมแบบใหม่, การท้าทางขีดจำกัด และการทำให้ผู้เล่นเกิดความประหลาดใจ ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะทำให้เกมในภาคนี้สุดยอดเกินกว่าที่ผู้เล่นคาดหมายไว้เพื่อสร้างความแปลกใหม่และความสนุกสนานให้กับผู้เล่นยุคใหม่ โดยในทีมฯได้มีผู้ที่เคยพัฒนาเกม FF7 ในภาคออริจินัลผสมกับนักพัฒนาในยุคใหม่ รวมทั้งยังมีชาวต่างชาติที่มาร่วมพัฒนาอยู่ด้วย โดยมีเป้าหมายไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงกราฟฟิคให้ดีขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ตัวเกมจะมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของเรื่องที่เกี่ยวกับฉากในเกมนั้น โปรดิวเซอร์คนดังกล่าวว่า เมนหลักของภาคนี้ได้แก่เมืองมิดการ์ด เป็นเมืองที่มีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างอยู่ในเมืองนี้ โดยมีคอนเซ็ปต์เดิมกับภาคออริจินัล ได้แก่ Dark, Modern และ Steampunk โดยเราไม่เพียงแต่ใช้ภาพที่สมจริงเท่านั้น ยังเคารพในการใช้สไตล์ของภาพที่ใช้ในการถ่ายทอดของในเวอร์ชั่นดั้งเดิมอีกด้วย ซึ่งในขณะนี้เราก็กำลังพัฒนาในส่วนของตัวเมืองมิดการ์ดอยู่ แต่ก็ยังมีการวางแผนเกี่ยวกับเนื้อหาและคอนเซ็ปต์ในเกมหลักอีกด้วย

ในส่วนของตัวละครนั้นในภาคดั้งเดิมจะไม่มีการพากย์เสียงหรือการนำกล้องมาใช้ นอกจากส่วนของคัตซีนเท่านั้น แต่ในเวอร์ชั่น Remake นี้จะมีการใช้องค์ประกอบทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาร่วมด้วย โดยจะเน้นในการเล่าเรื่อง โดยสิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวละครมีการแสดงออกที่มากขึ้น ทำให้ผู้เล่นสามารถอินไปกับตัวละครได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการใช้นักพากย์รุ่นใหม่เข้ามาให้เสียงตัวละคร โดยเชื่อว่าผู้เล่นจะได้รับอรรถรสได้อย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ตัวเกมได้มีการเปิดรับพรีออเดอร์ในส่วนของรูปแบบแผ่นเกมแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้

  • Standard Edition (แผ่นเกม) ราคา 1890 บาท
  • Deluxe Edition (แผ่นเกม + Steelbook + Hardback Art book + มัลทีเรีย มนต์อสูร Cactuar + แผ่น Mini Soundtrack + มนต์อสูร Chocobo Chick (สำหรับผู้พรีออเดอร์) ราคา 2490 บาท
  • 1st Class Edition (แผ่นเกม + Steelbook + Hardback Art book + มัลทีเรีย มนต์อสูร Cactuar + แผ่น Mini Soundtrack + มนต์อสูร Chocobo Chick (สำหรับผู้พรีออเดอร์) + ฟิกเกอร์ Final Fantasy VII Remake Play Arts KAI Cloud Strife & Hardy Daytona

ส่วนของรูปแบบดิจิตอลมีดังนี้

  • Digital Standard Edition (ตัวเกมแบบดิจิตอล) ราคา 1740 บาท
  • Digital Deluxe Edition (เกมแบบดิจิตอล + Digital Airbook + Digital Mini Soundtrack + มัลทีเรีย มนต์อสูร Cactuar + มัลทีเรีย มนต์อสูร Carbuncle + มนต์อสูร Chocobo Chick (สำหรับผู้พรีออเดอร์) ราคา 2390 บาท

Final Fantasy Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook