รีวิว Pokemon Sword & Shield เปิดโลกใหม่ ก้าวใหม่ของเกมส์โปเกม่อน

รีวิว Pokemon Sword & Shield เปิดโลกใหม่ ก้าวใหม่ของเกมส์โปเกม่อน

รีวิว Pokemon Sword & Shield เปิดโลกใหม่ ก้าวใหม่ของเกมส์โปเกม่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาถึงเกมส์สุดท้ายของขบวนรถไฟเกมส์ AAA ท้ายปีจนได้ กับเกมส์ที่แฟนๆ ทั้งน้อย ทั้งใหญ่รอคอยกันทั่วโลกอย่างซีรีย์เกมส์โปเกมอนในตำนาน กับภาคใหม่ล่าสุดแพคคู่ Pokemon Sword & Shield ซึ่งมีช่วงเวลาก่อนวางขายเกมส์ที่ไม่ดีเท่าไรนัก เพราะ Leak ข้อมูลกับภาพในเกมส์หลายๆ อย่างที่ดันตรงเผงประหนึ่งคนปล่อยมันอยู่ในบริษัท ไม่ก็ได้แผ่นไปก่อนชาวบ้านซะงั้น ทำให้หลายๆอย่างในเกมส์ก็ไม่ค่อยเซอร์ไพรซ์เท่าไร เรียกได้ว่าตัดเรื่องความตื่นเต้นไปก่อนได้เลย

แต่! ถ้าผู้เขียนจะบอกว่าที่ Leak มันหลุดออกมานั้นเป็นแค่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เกมส์ Pokemon ภาคนี้จะนำเสนอให้คุณได้ล่ะ? ไม่น่าเชื่อว่าเกมส์โปเกมอนที่เราเห็นๆกันมาหลายสิบปีแล้ว ก็จะยังทำสิ่งใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้ดำดิ่งไปในโลกของเกมส์ได้เสมอ ต้องบอกเลยว่า แค่ผู้เขียนจะเล่นเกมส์ให้จบยังยากเลย ไม่ใช่เกมส์มันยากจนผ่านไม่ได้ แต่มันเพลินจนไม่มีเวลาไปเล่นเนื้อเรื่องต่อ!

เกมส์ Pokemon Sword และ Pokemon Shield (หลังจากนี้จะขอเรียกรวมๆว่า Sword & Shield) พัฒนาโดย Game Freak เจ้าประจำผู้พัฒนามาตั้งแต่ภาคแรก โดยเป็นเกมส์ RPG ที่ใช้รูปแบบมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งแนวเกมส์จะยังคงรูปแบบคลาสสิกที่สุดอยู่ คือการเดินทาง จับโปเกมอน ใช้ชีวิตในโลกโปเกมอน และตะลุยเคลียร์ยิม เพื่อรวบรวมตรายิม และเข้าแข่งชิงแชมป์เพื่อเป็น Champion ของภูมิภาคใหม่ Galar ให้จงได้ ซึ่งระหว่างทางนอกจากการเดินทางสายกีฬาแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องอีกเส้นสำหรับการเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลัง อดีตของทวีป และกลุ่มปริศนาผู้คิดทำลายล้างทวีปนี้ โดยนำภัยในอดีตกลับมาอีกครั้ง

เนื้อเรื่องเริ่มต้นได้เรียบง่ายเหมือนภาคที่ผ่านๆ นั่นคือเราจะออกเดินทางตามความฝันเพื่อเป็นเจ้าแห่งโปเกมอนแบทเทิลหรือเป็น Champion ของทวีป Galar ที่ในทวีปนี้มีรูปแบบการแข่งพิเศษไม่เหมือนที่ผ่านมาคือจะวางระบบและความรู้สึกเหมือนแข่งกีฬากัน นั่นเพราะทวีปใหม่นี้ออกแบบ และหยิบยืมธีม หรือเมืองมาจากเกาะอังกฤษผู้เป็นต้นกำเนิด Soccer รวมๆ เช่นชื่อเมืองอย่าง Wyndon (London) หรือ Circhester (Manchester) เป็นต้น

ทำให้ในการแข่งขันลีคนั้นเราจะเปลี่ยนชุดคล้ายนักฟุตบอล และแข่งขันกันในสเตเดี้ยมขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเตะบอลกันจริงๆ ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทำออกมาได้สนุก และอินกับเนื้อหาด้วยทั้งเพลงและบรรยากาศ กองเชียร์ก็จัดเต็ม ทุกคนรู้จักเรา ไปไหนก็มีคนจำได้ มีคนเป็นแฟนคลับเรายังกับทีมฟุตบอล เทรนเนอร์บางคนก็มีกลุ่มกองเชียร์ของตัวเองติดสอยห้อยตาม ทำตัวเป็นฮูลิแกนก็มี

เนื้อหาหรือการเล่าเรื่องมีการปรับจากภาคก่อนๆ ที่เราจะดำเนินเนื้อเรื่องสองเส้นที่กล่าวไว้ข้างต้นไปพร้อมกัน เช่นไปเมืองหนึ่งๆ เพื่อทดสอบฝีมือเก็บเข็มกลัด ในภาคก่อนๆ จะดำเนินเนื้อเรื่องอีกสายไปพร้อมกันเลยเช่นไปปะทะกับแกงค์ ร็อคเกตที่มาก่อกวนเมืองนั้นๆ เป็นต้น แต่ภาคนี้จะเปลี่ยนเป็นให้เรามุ่งตรงสายกีฬาเต็มสูบไปเลย ก่อนจะไปดำเนินเนื้อเรื่องอีกเส้นหนึ่งภายหลัง ทำให้ผู้เล่นอาจจะรู้สึกงงได้ว่า ทำไมเทียบกับภาคก่อนมันเร็วจัง

การท้าทายโรงยิมของภาคนี้ก็มีลูกเล่นแปลกๆ หลายอย่างที่สร้างความแตกต่างให้แต่ละโรงยิมอยู่บ้างเหมือนกัน เป็นเหมือนการพักจากช่วงต่อสู้ มาใช้สมองแก้ปริศนาในด่านแทนบ้าง ทั้งต้องจดจำข้อมูลของหัวหน้าโรงยิมไปตอบปัญหาแฟนพันธ์แท้ หรือเปิดปิดวาล์วน้ำให้ถูกเพื่อเปิดทาง หรือกระทั่งการที่เราขึ้นเครื่องเล่นถ้วยน้ำชาหมุน หมุนเพื่อไปให้ถึงตัวหัวหน้าโรงยิมให้ได้ ไปจนถึงแค่ไล่สู้เทรนเนอร์ในยิมไปเรื่อยๆจนจบ เรียกว่ามีมาทุกแบบเลย

กราฟฟิคของเกมส์พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง ทั้งในด้านโมเดลตัวละคร และพื้นหลังของเกมส์ทั้งหมด อาจจะมีเว้นว่างไปบ้างในการพัฒนาโมเดลโปเกมอนในฉากต่อสู้ ซึ่งเข้าใจได้หลังจากเล่นแล้ว เพราะทีมงานเลือกจะลดปริมาณงานที่ไม่สร้างความแตกต่างให้เห็นชัดเจนอย่างการปั้นโมเดลใหม่ ไปเป็นการเพิ่มความลึกของโปเกมอนแต่ละตัวแทน ทั้งอนิเมชั่นการเดินไปมาใน Wild Area หรือตอนตั้งเต๊นท์ ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์การโปเกมอนของเราได้ในแบบมุมมองบุคคลที่ 1

พูดถึง Wild Area และตั้งเต๊นท์แล้วก็จะขอแนะนำระบบใหม่ของเกมส์ด้วยอย่างการที่ Pokemon ที่เราเจอในภาคนี้ จะยืนตระหง่านให้เห็นกันจะๆ บนฉากตอนเดินทางเลย ซึ่งพวกเขาจะเดินไปเดินมาตามปกติในพุ่มไม้ (คล้ายภาค Let's Go) แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือระบบ Wild Area ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษ ที่จะแผ่นขยายไปทั่วทั้งทวีป Galar ที่ซึ่งเราจะไม่เจอโปเกมอนแค่ในพุ่มไม้ แต่พวกเขาจะวิ่งไป บินมา ว่ายน้ำ อยู่ในพื้นที่นั้นเต็มไปหมด (ยังกะโซนซาฟารี)  แถมมีโปเกมอนแทบทั้งหมดของเกมส์จะอยู่โซนนั้นๆด้วย โดยนอกจากจะวิ่งไปมา สู้กับโปเกมอน จับพวกเขาแล้ว เรายังตั้งเต๊นท์ฟื้นพลัง เล่นกับโปเกมอน ตกปลา เขย่าต้นไม้หาเบอร์รี่ เรียกว่าเมื่อก้าวเข้ามาแล้ว แฟนๆโปเกมอนคงหาทางออกยากหน่อย เพราะเพลินจริง!

ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ถอดเอาการใช้ท่าอย่าง Z-Move ในภาคที่แล้วออก และแทนด้วยระบบ Dynamax เข้ามาแทน ซึ่งโปเกมอนจะสามารถใช้พลัง Dynamax เพื่อขยายร่าง และต่อสู้กันด้วยพลังและท่าที่อลังการยิ่งกว่าเดิมได้ในพื้นที่เฉพาะเรียกว่า Power Spot ซึ่งเจ้าจุดพวกนี้ก็จะมียิมไปตั้ง สเตเดี้ยมไปสร้างทับไว้ เพื่อให้การโปเกมอนแบทเทิลให้ผู้ชมในสนามดูนั้น อลังการงานสร้างที่สุด (เหมือนจัดงานแข่งกีฬาให้มีคนมาดูเยอะๆ)

อีกหนึ่งระบบใหญ่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเช่นกันคือระบบ Raid Battle โดยเป็นการที่เราจะเข้าเผชิญหน้ากับโปเกมอนป่าที่ใช้พลัง Dynamax ขยายร่างในจุดพิเศษ ซึ่ง Power Spot พวกนี้จะกระจายกันอยู่ใน Wild Area ในรูปแบบคล้ายประการังซึ่งพวกมันจะแข็งแกร่งและหายากเป็นพิเศษ ทำให้เกมส์ทดแทนด้วยการที่เราสามารถเรียกพวกมาช่วยกันรุมมันได้ถึง 4 คน! ทำให้เราสามารถเล่น Co-op ออนไลน์กับเพื่อน ให้มาช่วยกันสู้กับบอสโปเกมอน และจับพวกมันได้นั่นเอง แต่แน่นอนว่าสำหรับคนไม่มีเพื่อน เกมส์ก็ยังมีทางออกให้ โดยการใส่เทรนเนอร์ NPC มาช่วยแทน ซึ่งก็นับเป็นจุดอ่อนในตัวเอง เพราะเทรนเนอร์ AI พวกนี้มักไม่เก่ง และไม่ฉลาดเท่าไร 

พูดถึงระบบออนไลน์กันบ้าง สิ่งนี้น่าจะเป็นจุดอ่อนสำคัญที่สุดของเกมส์ภาคนี้เลย เนื่องจากการที่เกมส์พยายามส่งเสริมระบบออนไลน์ แต่การออนไลน์เจอกับเพื่อนที่เราอยากเจอนั้นทำได้ยากมาก เนื่องจากภาคนี้เปลี่ยนจากการสร้างห้อง Lobby ให้เพื่อนๆ มาวิ่งเจอกันแล้ว จะเปลี่ยนเป็นตั้งตัวเลข ให้แมชต์กับใครสักคนเพื่อที่เราจะเจอกับเขาได้ ทั้งในแง่การเทรดตัว และการลง Raid แต่ปัญหาคือเลขนี้ตั้งได้แค่ 4 หลัก ซึ่งในระดับของเกมส์ที่ขายได้เป็นล้านชุดนั้น ไม่พอแน่นอน ทำให้ต้องใช้เวลาสักหน่อยในการเจอกับคนที่เราต้องการจริงๆ (มองอีกแง่ ทางผู้พัฒนาอาจจะอยากให้เราไปหาเจอกับคนที่เราไม่รู้จักมากกว่ารึเปล่านะ?)

ในอีกด้านที่คนบ่นกันเยอะ ผู้เขียนก็อยากแก้ตัวให้หน่อย คือการที่จำนวนท่าที่ลดลงของโปเกมอน รวมถึงท่าที่ใช้เดินทางเช่น บิน ผลักหิน ไต่น้ำตก ฯลฯ ได้ถูกเอาออกนั้น ทีมงานผู้พัฒนาดูจะเลือกเพิ่มการใช้ท่าที่สวยงาม และมีความอลังการขึ้นกับท่าใหม่ๆ แทน ทำให้บางท่าเช่นที่ Leak ออกมาก่อนนั้นมีรายละเอียดลดลงจนน่าเกลียด ในส่วนของท่าที่ใช้เดินทางก็ถูกเอาออกไปเปลี่ยนเป็นการที่เราใช้อุปกรณ์ หรือระบบของเกมส์ช่วยแทน เช่นบิน เราก็ไม่ต้องมีท่าบิน เราสามารถวาปไปยังสถานที่ ที่เคยไปได้ ตั้งแต่แรกๆ อุปสรรคก็ถูกเอาออกไปเลย ไม่ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือของโปเกมอนแทน ซึ่งก็เป็นทั้งข้อดี และข้อเสีย ที่ผู้เล่นแต่ละคนคงให้คะแนนต่างกันนะครับ

มาในส่วนเพลงประกอบกันบ้าง ต้องขอบอกว่านี่น่าจะเป็นส่วนหลักที่ Game Freak ไม่เคยพลาดมาก่อน แต่ละภาคจะมีเพลงประกอบตอนต่อสู้ที่เข้ากับธีมของภาค ฟังเพลิน ฟังสนุกตลอด มาในภาคนี้เพลงถูกออกแบบมาให้เราตื่นเต้น และสนุกกับการแข่งขัน แถมมีเสียงเชียร์ประกอบเหมือนบรรยากาศ การเชียร์บอลในสนามอีก เพลงไฮป์มาก!

จริงๆ มีระบบย่อยๆ ที่ถูกเพิ่มเข้าใหม่อีกมากที่พูดถึงยังไงก็ไม่หมด (และคงยาวเกินไปแล้ว) ก็ต้องขอให้คนที่มีเครื่อง Switch ไปหามาลองกันให้ได้ครับ ขอปกป้องตัวเกมส์ว่าไม่ได้แย่อย่างที่มี Leak ออกมาก่อนเกมส์ออกจริงๆ นะ และใครที่เป็นแฟน Pokemon นี่ก็เป็นอีกภาคที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า 

Review Score: 8/10

นับเป็นก้าวที่เสี่ยงมากๆ ของทีมงาน Game Freak ที่เลือกจะไม่เอาใจแฟนทั้งหมด แต่เลือกที่ลดทอนบางสิ่งที่แฟนๆคิดว่าควรจะได้ และมอบบางสิ่งที่แฟนๆ คาดไม่ถึงให้แทน ทั้งระบบการเล่นใหม่ๆ การใช้ชีวิตในโลกโปเกม่อนที่ทำให้เราดิ่งลึกลงไปในเกมส์ได้มากกว่าเดิม การตัดทอนองค์ประกอบที่เคยมีมาออกทั้ง Pokedex หรือการรีโมเดล และท่าการโจมตีที่คุ้นชิน แทนที่ด้วยการใส่ใจในรายละเอียดท่า Highlight สำคัญๆ แต่ละท่า รวมถึงสมดุลของระบบมากกว่าเดิม ซึ่งอันนี้ผู้เล่นที่แข่งเกมส์ Pokemon การันตีเองเลยครับ

ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เกมส์ Pokemon Sword & Shield เป็น Gen ใหม่ของซีรีส์ที่เล่นสนุก เพลินจนวาปยิ่งกว่าเดิม แถมยังเอาใจสาย Battle ด้วยระบบการต่อสู้ที่สมดุลและเข้าถึงได้เร็วกว่าเดิมด้วย เรียกได้ว่าทีมงานสามารถเรียกฟอร์มระดับท็อปกลับมาได้อีกครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้พูดปากเปล่า เพราะยอดขายติดท็อปบนสุดในสัปดาห์แรกทั้งสองภาคแพ็คคู่ ช่วยให้รู้ว่าเกมส์เต็มที่ถึงมือผู้เล่นแล้ว สำคัญกว่า Leak ที่หลุดออกมาล่วงหน้าแค่ไม่กี่ช็อตจริงๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook