Epic Games Store คงต้องเก็บเลเวลอีกเยอะก่อนเทียบชั้น Steam

เพื่อนๆ หลายคนที่เป็นเกมเมอร์แพลตฟอร์ม PC ก็คงจะรู้ดีว่าในปัจจุบันเกมส่วนใหญ่นอกจากการดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ปกติแล้วก็ยังมีการร้านค้าจำหน่ายเกมที่เป็นตัวกลางในการจัดหาเกมใหม่มาวางจำหน่ายอยู่เสมออย่าง Steam ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายเกมอันดับหนึ่งที่ยังไงก็คงสู้ยาก แต่แล้วก็มีบริษัทหานกล้าคิดที่จะมีเทียบรัศมีขอส่วนแบ่งทางการตลาดกับการเป็นร้านค้าออนไลน์อย่าง Epic Games Store จากค่าย Epic Games เจ้าของเกมดังระดับโลกอย่าง Fortnite นั่นเอง

ถ้าเรามามองในมุมมองของผู้พัฒนาเกมแล้วละก็ร้านค้า Epic Games Store ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านค้าที่สนใจเพราะส่วนแบ่งทางการเงินเขาให้ผู้พัฒนาถึง 88% และทาง Epic จะรับไปเพียง 12% เท่านั้นจากยอดขายทั้งหมดเมื่อเทียบกับทาง Steam แล้วที่หักเปอร์เซ็นเยอะกว่า ถ้าเป็นเกมที่ทำมาจาก Unreal Engine 4 ก็จะหักเข้าร้านค้า 30% UE4 5% และ 65% สู่มือผู้พัฒนาส่วนถ้าเป็นเกมที่พัฒนามาจา Unity ก็จะแบ่งกันที่ 30% เข้าร้าน 70% เข้าผู้พัฒนา ซึ่งถ้ามองแค่ตัวเลขยังไงแล้ว Epic Games Store ก็ดูน่าสนใจกว่าในเรื่องทำรายได้

แต่ถ้าเมื่อเทียบจำนวนผู้ใช้งานแล้วทาง Steam มีโอกาสที่จะขายได้จำนวนที่เยอะกว่าเห็นได้ชัดเจนยกตัวอย่างเห็นภาพง่ายๆ ขายเกมใน Epic Games Store ในราคา 100 บาท ซื้อไป 10 คนก็จะได้เงิน 880 บาทเข้าผู้พัฒนา แต่ถ้าขายใน Steam ราคาเดียวกัน ขายได้ 15 คน หักเปอร์เซ็นแล้วก็จะได้ 975 บาท ซึ่งมันก็เยอะกว่าอยู่ดี อันนี้เทียบในจำนวนที่น้อยๆ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดแต่ในความเป็นจริงขายได้เยอะกว่านี้แน่นอน ดังนั้นถ้าเทียบจำนวนผู้ใช้งานระหว่าง Epic Games Store กับ Steam มันยังห่างชั้นคนละเลเวลอยู่เพราะล่าสุด Steam พึ่งประกาศว่าพวกเขามี 18.8 ล้านคนใช้งานอยู่

ทาง Epic Games Store ก็ทราบเหตุผลเหล่านั้นดีจึงทำการใช้นโยบายลุยหน้าเซ็นสัญญาเกมแบบ Exlusive ที่จะลงแพลตฟอร์มตัวเองเป็นที่แรงก่อนใครแล้วหลังจากนั้นถึงจะไปสามารถขายที่อื่นได้ ซึ่งรายละเอียดก็ไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาจริงๆ ว่าการที่ลงร้าน Epic Games Store ก่อนจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ เมื่อเห็นข่าว Metro Exodus ที่สามารถขายได้ 2 แสนชุดใน 5 วันทั้งๆ ที่เกมออกมาแล้วหนึ่งปี ก็บอกได้เลยว่า Epic Games Store ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งผู้เล่นและผู้พัฒนามากพอ