บทสัมภาษณ์ Tetsuya Nomura เมื่อ Final Fantasy VII Remake ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมในอดีตอีกต่อไป

บทสัมภาษณ์ Tetsuya Nomura เมื่อ Final Fantasy VII Remake ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมในอดีตอีกต่อไป

บทสัมภาษณ์ Tetsuya Nomura เมื่อ Final Fantasy VII Remake ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมในอดีตอีกต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ได้มีการปล่อย Demo ออกมาให้ชาว PlayStation4 ได้เล่นกันไปแล้ว ตอนนี้ Final Fantasy VII Remake ก็ได้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต เพื่อเตรียมวางจำหน่ายออกมาให้แฟนๆทั่วโลกได้เล่นกันในวันที่ 10 เมษายนนี้แล้ว เนื่องในโอกาสนี้ ผู้รับหน้าที่ Director หลักของเกมอย่างคุณ Tetsuya Nomura จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อจ่างๆ พร้อมให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาเกมในภาค Remake ที่ได้ถูกยกเครื่องใหม่จากเกมต้นฉบับเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ยังคงมนต์สเน่ห์ของ Final Fantasy VII อยู่ไม่เสื่อมคลาย เราลองไปดูความคิดเห็นของคุณ Nomura เกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจของเกมในครั้งนี้กันเลยครับ



- จากการที่ได้มีการประกาศเลื่อนวางจำหน่ายไปเมื่อตอนเดือนมกราคม ไม่ทราบว่าการพัฒนาเกมนั้นเป็นไปด้วยดีรึเปล่า?
Nomura : ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพื่อการเพิ่มคุณภาพในช่วงสุดท้าย จึงจำเป็นต้องมีการใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแน่นอนครับ

- อีกไม่นาน เกมก็ใกล้จะวางจำหน่ายแล้ว ในการรีเมคของ FFVII ก็มีทั้งส่วนที่เปลี่ยนไป และส่วนที่ยังคงอยู่ มีส่วนไหนของการ Remake ที่น่าสนใจเป็นพิเศษรึเปล่า
Nomura : เราคำนึงเรื่องการเข้าถึงเกม ของทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก FFVII ฉบับ Original มาก่อนครับ สำหรับพวกเราแล้ว FFVII เป็นเกมที่มีชื่อเสียง และหลายคนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ทว่า ตัวเกม Original ก็ได้วางจำหน่ายมามากกว่า 20 ปี แล้ว ทำให้มีคนในยุคนี้ที่ไม่รู้จักเพิ่มมากขึ้นอยู่เหมือนกันครับ

- มีเหตุผลอะไรรึเปล่าที่เปลี่ยนแกนหลักของระบบต่อสู้ ให้กลายเป็นแบบ Action
Nomura : กลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เล่นเกมกันแบบ Real Time กันแทบทั้งนั้นแล้ว ถ้าจะสร้าง FFVII ในยุคนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ปฎิเสธไม่ได้ เมื่อคิดถึงจุดนั้นแล้ว การทำเกมให้เป็นแบบ (Action) Real Time จึงเป็นเป็นสิ่งที่มีการตัดสินใจกันในขั้นตอนการวางแผนเป็นอันดับแรกครับ

- นอกจากการมุ่งทำเกมตามเป้าหมายให้เหมือนกับ Original แล้ว กราฟฟิคของเกมก็สวยงามสมกับเป็น FFVII เหมือนกัน
Nomura : มีคอมเมนท์ดีๆ ตอบรับกลับมาอยู่เหมือนกันครับ ถ้าเกิดรีเมคด้วยโครงสร้างแบบเดิมๆ ของในยุคสมัยนั้น พวกผมก็คงทำหน้าที่แค่ตรวจสอบแก้ไข แล้วขอให้ช่วยพัฒนาแค่ส่วนอื่นเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเกมที่พวกเราสร้างกันในตอนนี้แล้ว ก็อยากจะทำให้เป็นเกมที่ได้ลิ้มรสประสบการณ์ที่น่าประหลาดใจมากกว่าเดิม โดยไม่ใช่แค่เกมที่เหมือนกับเกมต้นฉบับเท่านั้น เพื่อการนั้นจึงได้สร้างเกมกันด้วยความพิถีพิถันมากครับ

- ในสมัยก่อนนั้นมีความยากลำบากในการเปลี่ยนแปลง 3D กราฟฟิคจากเครื่องเกม Super Famicom มาเป็นเครื่องเกม PlayStation FFVII จึงกลายเป็นเกมที่มี 3D กราฟฟิคที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจ ถ้าเทียบกับยุคนี้ในความยากลำบากระดับเดียวกันแล้ว ถือว่ามีความกดดันบ้างรึเปล่า?
Nomura : ผมไม่รู้สึกกดดันอะไรเลยครับ เรื่องจุกจิกในการทำเกมคราวนี้ก็คือ การดีไซน์ให้เป็นเกมแบบเรียลไทม์ตั้งแต่เริ่ม เพื่อให้สามารถเป็นที่พอใจได้กับกับทั้งแฟนๆหน้าเก่า และแฟนๆหน้าใหม่ เพราะว่าพวกเรามุ่งตรงไปที่จุดนั้น จึงไม่มีเวลาจะมามัวรู้สึกกดดันเลยครับ คิดว่าในระหว่างการพัฒนาก็มีคนที่รู้จักผลงานต้นฉบับ รู้สึกกังวลกับเรื่องหลายๆ อยู่อย่างด้วย แต่ถ้าได้ลองเล่นดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแฟนหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็จะต้องได้รับเรื่องราวอันน่าประทับใจกันแน่นอนครับ



- ระบบต่อสู้ได้สร้างขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ของความแอ็คชั่นเป็นหลัก แต่ก็ยังมีความประทับใจแบบ FFVII ฉบับดั้งเดิมอยู่ ไม่ทราบว่าตรงจุดนี้มีเรื่องราวอย่างไรบ้าง
Nomura : กว่าจะเป็นระบบต่อสู้ในตอนนี้ ได้มีการแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายครั้ง จนได้สิ่งที่สุดยอดที่สุดจากการทำเวอร์ชั่นต่างๆ มามากมาย เรียกได้ว่าอาจจะเป็นงานส่วนที่ใช้เวลามากที่สุดจนกว่าจะตกลงเห็นชอบตรงกันได้ครับ

- มีระบบต่อสู้อะไรในยุคนี้ ที่คิดว่าใกล้เคียงกับ FFVII ในยุคก่อนรึเปล่า?
Nomura : นั่นสินะครับ ในฉบับออริจินัลนั้นใส่ความทะเยอทะยานกันไปมาก อาจจะไม่ใช่ส่วนที่เป็นแอ็คชั่น แต่เป็นการมีส่วนที่เหมือนกับ ATB (Active Time Battle) อยู่ครับ แรกเริ่มเดิมที ผมได้เสนอออกไปแบบไม่ทันคิดว่า “ถ้าต้องทำเกมแอ็คชั่นแบบเรียลไทม์ แล้วต้องควบคุมการต่อสู้ใน Final Fantasy ยังไงก็ขาดระบบวางแผน ATB ของ FFVII ไปไม่ได้เด็ดขาด” หลังจากนั้นจึงได้พยายามลองใส่นู่นนี่นั่นเพิ่มเข้าไปจนสำเร็จออกมาได้ ซึ่งก็ถือเป็นผลลัพธ์จากความพยายามของทีมงานทั้งหลายครับ

- ไม่เพียงแต่การเล่นแบบแอ็คชั่นเท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดองค์ประกอบของ FFVII ออกมาตั้งแต่แรกด้วย
Nomura : หนึ่งในเรื่องที่ได้มีการตกลงกันไว้ก็คือ การที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวละครที่ใช้เล่นได้ สำหรับเกมแอ็คชั่นแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ควรจะบังคับตัวละเพียงคนเดียว แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ VII เพราะงั้นเพื่อทำให้สามารถเปลี่ยนไปควบคุมหลายตัวละครได้ จึงต้องมีการพูดคุยวางแผนกันตั้งแต่แรกอยู่มากพอสมควรครับ ทำให้ในฉบับออริจินัลนั้นจะเหมือนมุมมองจากมุมสูงที่ห่างออกไป แต่ใน FFVIIR จะทำให้รู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์มากกว่าเดิมครับ

- เสียงตอบรับจากคนที่ได้ทดลองเล่น Demo แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
Nomura : เท่าที่ได้ยินจากคนที่ได้ทดลองเล่นและทีมตรวจสอบมา ก็พบว่าตอนนี้เป็นไปในทางที่ดีมากครับ คิดว่าอาจจะมีคนที่ยังคงกังวลอยู่ แต่สำหรับผมแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงแล้วครับ (หัวเราะ)

- ความสนุกที่รู้สึกได้ในระหว่างการต่อสู้ มีทั้งจากการสนทนาของตัวละครที่จับคู่กัน และการแสดงบทพูดมากมาย ทำให้รู้สึกอยากทดลองทำสิ่งต่างๆ ดูมากกว่าเดิม
Nomura : ได้ยินแบบนั้นก็ชื่นใจแล้วครับ….. เสียงพูดที่บันทึกไว้นั้นมีจำนวนมหาศาลมาก ลำบากกันมากจริงๆ ครับ…… ด้วยจำนวนที่มีมาก ทำให้รู้สึกว่าลำบากกว่าที่ผ่านมามาก ขนาดทีมงานยังบอกกันว่า “ทำเยอะเกินไปแล้ว” จนต้องมีการตัดออกไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนที่มากล้นอยู่ดี พอได้ยินคำชมแบบนี้แล้ว ปัญหาก็คือ “ต่อไป” หลังจากนี้นี่แหละครับ… แถมการบันทึกเสียงไม่ได้มีแค่ 7 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ยังมีถึง 8-9 ครั้งด้วยครับ ทำให้ต้องใช้สตูดิโอบันทึกเสียงพร้อมกัน 2-3 ที่ เป็นสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบซะทีเลยครับ

- ดูเหมือนทีมงานจะตั้งใจกับการรีเมค FFVII กันมากเลยทีเดียว
Nomura : ผมเองก็ทำเกมมานานกว่า 20 ปีแล้ว บอกตามตรง นี่เป็นโปรเจ็คต์ที่เหนื่อยที่สุดเลยครับ (หัวเราะ) คิดว่าคงจะมีคนที่กังวลกับการที่รีเมค Part 1 จะได้เล่นแค่อยู่ในเมืองมิดการ์ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะแค่นี้พวกเราสามารถปรับปรุงใส่รายละเอียดไปได้มากขึ้น และทำให้ใช้เวลาเล่นจบได้นานกว่าตัวออริจินัลแล้วครับ มีอีเวนท์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นการไปกินข้าวที่บ้านของ เจสซี่ หรือสมาชิก Avalanche คนอื่นๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในฉบับออริจินัล ปกติแล้วตัวละครจะดำเนินไปตามเนื้อเรื่องหลัก แต่ถ้าไม่อยากเล่นก็มี Sub Story ดีๆ เตรียมไว้ให้อยู่ จนถึงตอนออกมิดการ์แล้วจะต้องพึงพอใจกันอย่างแน่นอนครับ



- ส่วนไหนของมิดการ์ในคราวนี้ ที่คุณ Nomura อยากให้ติดตามดูกันเป็นพิเศษ
Nomura : ส่วนตัวแล้วผมอยากจะนำเสนอตัวละครคุณลุงนะครับ เพราะตัวละครหลักอย่าง Barret นั้นน่าสนใจมากจริงๆ ผมคิดว่าเป็นตัวละครที่สุดยอดมากครับ คุณ Kobayashi Masahiro (ผู้ให้เสียงพากย์ Barret ในเกมเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น) แสดงได้สุดยอดมากๆ ทางนี้ไม่ต้องให้คำแนะนำอะไรก็สามารถแสดงแบบนั้นได้เลย ทำให้สนุกมากๆ และบอก OK ไปทั้งแบบนั้นได้เลยครับ

- หลังจาก “FINAL FANTASY VII ADVENT CHILDREN” Cloud เป็นตัวละครที่เท่จากความสุขุมมาก แต่ใน FFVII นั้นจะมีความตลกขบขันอยู่มากกว่า คิดว่าความจริงแล้วเป็นตัวละครแบบไหนมากกว่ากัน
Nomura : Cloud ใน FFVIIAC เป็นคนที่ผ่านเรื่องราวใน FFVII มาแล้ว จึงได้เขียนให้เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่อยู่ใจกลางของภาพยนตร์ แต่พอมาดูภาพลักษณ์แบบนั้นใน FF7R แล้วอาจจะนึกสงสัยกันก็เป็นได้ ซึ่งการที่มีส่วนที่ดู “ไม่เท่เอาซะเลย” ก็เป็นส่วนที่อยากให้ได้เห็นแล้วหัวเราะกันครับ

- สุดท้ายนี้ อยากให้ช่วยบอกอะไรถึงแฟนๆ ที่กำลังรอคอยวันวางจำหน่ายที่ใกล้มาถึงแล้ว
Nomura : ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่ทำให้ทุกคนรู้สึกพึงพอใจได้ สำหรับเรื่องราวนั้นถึงแม้จะดำเนินอยู่แค่ในมิดการ์ แต่สำหรับ FFVII แล้วจะยังคงมีเรื่องราวดำเนินต่อไป หากได้ลองสัมผัสกันแล้วจะต้องอยากเล่นต่อกันอย่างแน่นอน เพราะงั้นขอให้ช่วยติดตามเล่นกันให้ได้ครับ



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook