Call of Duty: Warzone เปิดตัวให้เล่นฟรีพร้อมกันทั่วโลกวันนี้

ทาง Activision และ Infinity Ward ได้ประกาศเปิดตัว Call of Duty: Warzone ซึ่งเป็นโหมด Multiplayer ใหม่ของเกม Call of Duty: Modern Warfare ที่มาในรูปแบบของเกม Battle Royale โดยจะเริ่มอัพเดทให้ผู้ที่มีตัวเกมได้เล่นกันก่อนในคืนวันที่ 10 มีนาคมนี้ เวลา 21.00 น. พร้อมมีข้อมูลและตัวอย่างความสนุกระเบิดเถิดเทิงของเกมมาให้ได้ชมกันด้วย



สำหรับผู้ที่ไม่มีตัวเกมเต็มของ Call of Duty: Modern Warfare ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะตัวเกมจะเปิดให้สามารถดาวน์โหลดมาเล่นกันได้ฟรีแบบ Free to Play พร้อมกันได้ทั่วโลก โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวเกมหลัก ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม เวลา 02.00น. เป็นต้นไป

ซึ่งผู้เล่นสามารถเล่นร่วมกันข้ามแพลทฟอร์มร่วมกันได้ทั้งหมด ทั้งบน PlayStation4, Xbox One, และ PC โดยจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งตัวเกมทั้งหมดประมาณ 80-100 GB ส่วนผู้ที่มีตัวเกม Call of Duty: Modern Warfare อยู่แล้ว ต้องใช้พื้นที่ในการดาวน์โหลดอัพเดทประมาณ 18-22 GB



Call of Duty: Warzone จะมีโหมดให้ได้เลือกเล่นด้วยกัน 2 โหมด ซึ่งโหมดแรกก็คือโหมดหลักที่เป็นจุดขายอย่าง Battle Royale Mode ที่จะให้ผู้เล่นได้ร่วมลงสนามรบ บนพื้นที่ฉากขนาดใหญ่พร้อมกันถึง 150 คน ซึ่งผู้เล่นสามารถเล่นแบบฉายเดี่ยว หรือรวมทีมกับเพื่อนสนิทมิตรสหายที่รู้ใจกัน เพื่อฟอร์มทีมนำชัยชนะมาด้วยกันก็สามารถทำได้

และนอกจากโหมด Battle Royale ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ก็ยังมีโหมด Plunder ที่ให้ผู้เล่นได้รวมทีมแข่งขันกันสะสมเงินให้ได้มากที่สุดด้วย ซึ่งในแต่ละโหมดก็จะมีสิ่งต่างๆให้ผู้เล่นทำ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บสะสมเงินเพื่อหาซื้ออาวุธใหม่ๆ การค้นหาของใน Supply Boxes การเข้ายึดพื้นที่เพื่อซื้อสถานี หรือการซื้อของแต่งตัวเก๋ไก๋เป็นเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง

ในโหมด Battle Royale ผู้เล่นสามารถรวมทีมจากจำนวนผู้เล่น 150 คน เพื่อต่อสู้และแย่งชิงของจากผู้เล่นคนอื่น และทำทุดวิธีให้ทีมของตัวเองเหลือรอดเป็นทีมสุดท้ายให้ได้

โดยผู้เล่นสามารถนำเงินที่ได้รับหรือสะสมมาซื้อของอัพเกรดต่างๆ หรือซื้อสถานีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมเพื่อพลิกสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ได้ ซึ่งนอกจากเงินและของรางวัลที่ได้รับมาหลังจบเกมแล้ว ผู้เล่นก็จะได้รับ XP และ Weapon XP มากขึ้นจากการที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายด้วย



และความแปลกใหม่ที่พิเศษในการต่อสู้ ที่มีเฉพาะในโหมด Battle Royale ของเกมนี้ก็คือ การที่ผู้เล่นที่ตายไปแล้ว สามารถรับโอกาสที่สองให้กลับมาร่วมลงสนามรบได้อีกครั้ง โดยผู้เล่นที่โดนศัตรูจัดการไปแล้ว จะไม่ได้นั่งรอหรือจบเกมในทันที แต่ผู้เล่นจะถูกส่งไปยังสถานที่ที่ถูกเรียกว่า The Gulag และเจอกับผู้เล่นคนอื่นที่ถูกส่งมาเหมือนกัน ซึ่งผู้เล่นที่ตายมาอยู่ใน The Gulag ต้องต่อสู้กันแบบ 1v1 โดยผู้ที่ชนะจะได้รับโอกาสให้กลับเข้าร่วมเกมอีกครั้งนั่นเอง

หรือถ้าหากว่ายังต่อสู้แบบ 1v1 ไม่ไหวจริงๆ ผู้เล่นก็ยังสามารถซื้ออุปกรณ์ Self-Revive Kit เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตตัวเอง หรือให้เพื่อนร่วมทีมซื้อ Squad Buyback จากสถานีที่ซื้อมาได้ เพื่อชุบชีวิตตัวเองให้กลับมาร่วมทีมได้อีกครั้งเช่นกัน ซึ่งระบบการนำผู้เล่นกลับมาลงสนามอีกครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสช่วยให้ผู้ที่เคยแพ้ไปแล้ว ให้สามารถกลับมาเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดได้ จึงนับเป็นระบบที่น่าสนใจและแปลกใหม่เฉพาะตัวของ Call of Duty: Warzone มากเลยทีเดียว

ส่วนในโหมด Plunder จะเป็นการแข่งขันให้ผู้เล่นได้รวบรวมเงินให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะมาจากการจัดการศัตรู, การสำรวจ Supply Boxes, การทำเงื่อนไข Contracts, และการเข้ายึดพื้นที่ให้สำเร็จ โดยในโหมดนี้ผู้เล่นจะสามารถตายและเกิดใหม่ได้ไม่จำกัด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของโหมดนี้คือการวางกลยุทธ์และความสามารถในการต่อสู้ เพื่อเป็นผู้ชนะในการรวบรวมเงินให้ได้มากที่สุดนั่นเอง ทำให้ใครที่เล่นไม่เก่งในโหมด Battle Royale ก็สามารถสนุกกับการเล่นหาเงินในโหมดนี้ได้ด้วย



แน่นอนว่าในสมรภูมิที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่แบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือยานพาหนะที่มีให้ใช้ในฉาก เพื่อให้ผู้เล่นสามารถใช้ในการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถช่วยป้องกันการโจมตีจากศัตรู หรือใช้บุกไปโจมตีศัตรูได้อีกด้วย โดยยานพาหนะในเกมนี้จะมีทั้งหมด 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่

1. ATV
รถ 2 ที่นั่งซึ่งมีความรวดเร็วและวิ่งในพื้นที่ออฟโร้ดได้ดี แต่มีพลังป้องกันที่ต่ำ

2. Tactical Rover
รถ 4 ที่นั่ง มีความทนทานในพื้นที่ออฟโร้ด แต่มีพลังป้องกันที่ต่ำเช่นกัน

3. SUV
รถ 4 ที่นั่ง มีความเร็วปานกลาง และมีพลังป้องกันที่ดี แต่ไม่เหมาะกับการวิ่งในพื้นที่ออฟโร้ด

4. Cargo Truck
เป็นรถที่มีพลังป้องกันสูง และสามารถบรรทุกอุปกรณ์ของผู้เล่นในทีมไปได้ทั้งหมด
แต่ไม่ใช่รถสำหรับการวิ่งในพื้นที่ออฟโร้ด และเป็นยานพาหนะที่มีความเร็วช้าที่สุด

5. Helicopter
เครื่องบินสี่ที่นั่ง ครอบคลุมการเดินทางบนน่านฟ้าทั่วแผนที่
หากได้มาแล้วหมดห่วงเรื่องการการเดินทางและการโดนโจมตีได้มากเลยทีเดียว



สำหรับผู้เล่นที่มีเกม Call of Duty: Modern Warfare อาวุธและไอเท็มทั้งหมดที่เคยได้รับมาจากในเกม จะถูกโอนไปยัง Call of Duty: Warzone โดยอัตโนมัติ ในขณะเดียวกัน ของที่สะสมมาใน Call of Duty: Warzone ก็จะถูกนับรวมไปไว้ใน Call of Duty: Modern Warfare ด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ที่ไม่มีเกม Call of Duty: Modern Warfare ก็สามารถเล่น Call of Duty: Warzone และได้รับอาวุธกับไอเท็มในเกม ในตอนที่ซื้อเกมเต็มในภายหลังแล้วได้เช่นกัน จึงวางใจได้ว่าไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ ไอเท็มที่ได้รับมาแล้วก็จะยังอยู่กับเราไม่หายไปไหนแน่นอน

และถึงแม้จะเป็นเกม Free to Play ที่เปิดให้ได้เล่นกันได้ฟรี แต่ผู้ที่อยากปลดล็อคอาวุธใหม่ๆมาใช้เพิ่มขึ้นเร็วๆ ก็มีทางลัดด้วยการซื้อของใน Item Shop หรือซื้อ Battle Pass เหมือนกับใน Call of Duty: Modern Warfare เพื่อรับ Call of Duty Points ไว้ใช้สำหรับการปลดล็อคอาวุธและคอนเทนท์ใหม่ๆได้เช่นกัน



Call of Duty: Modern Warfare นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Infinity Ward ด้วยเกมภาคที่เป็นตำนานที่สุดของซีรี่ส์ ซึ่งจนถึงตอนนี้ตัวเกมก็ได้มีการปรับปรุงและอัพเดทโหมด Multiplayer มาให้แฟนๆได้เล่นกันมากมายไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าการมาของ Call of Duty: Warzone จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะขยายตลาดให้กับผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัสตัวเกมมาก่อน ได้ทดลองเล่นกับโหมด Multiplayer ยอดนิยม และซื้อตัวเกมเต็มมาสัมผัสในภายหลังได้ งานนี้ขอแนะนำว่าควรรีบกลับไปเคลียพื้นที่ในเครื่องกันไว้ให้พร้อม และเตรียมตัวไปลงสนามรบด้วยกันได้เลย!