Review Nioh 2 ตายเกิดวนเวียน กับเรื่องราวสุดล้ำในดินแดนญี่ปุ่นยุคสงคราม

หากเราเอ่ยชื่อเกมแนว Souls Like หรือเกมที่ขึ้นชื่อว่ายากมากจนผู้เล่นหลายคนท้อ เพราะเราต้องตายซ้ำซากวนเวียนมากกว่าพันครั้งจึงจะจบเกมได้ ชื่อของ Dark Souls จะเป็นชื่อแรกที่คนนึกถึง ทว่าในช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายเกมที่ดำเนินรอยตามแล้วประสบความสำเร็จก็มีอยู่ไม่น้อย และยังทำภาคต่อออกมาได้อีก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Nioh ที่ทำได้ยอดเยี่ยม และภาคที่สองของเกมก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

Story

เรื่องราวของ Nioh 2 จะยังคงวนเวียนอยู่ในประเทศญี่ปุ่นยุค Sengoku ที่สงครามระหว่างแคว้นกินเวลายาวนานหลายสิบปี แต่คราวนี้เป็นการย้อนเวลาไปก่อนที่เกมภาคภาคแรกจะเกิดขึ้นประมาณ 10 ปี ตัวเอกของเกมจะมีชื่อเรียกว่า Hide ลูกครึ่งมนุษย์และ Yokai หรือวิญญาณภูตผีของญี่ปุ่น ออกตามล่าปีศาจ Yokai และเหล่าคนเถื่อนที่ก่อความเดือดร้อนไปทั้ว ซึ่งในยุคสงครามนี้ การกำเนิดของเหล่า Yokai นั้นมีมากเนื่องจากมีคนตายจำนวนมาก เศษซากของวิญญาณที่ทับถมกันเรื่อยมาจึงทำให้พวกมันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก การออกตามล่า Yokai และค้นหาความจริงของตัวเอกก็ได้เริ่มต้นขึ้น

Nioh ถือเป็นเกมแนว Souls Like ที่มีเนื้อหาในเกมแน่นมากอีกหนึ่งเกม ไม่ว่าด้วยฉากหรือเหล่าตัวละครที่น่าสนใจชวนค้นหา และยังมีปูมหลังเป็นยุคประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวเอามาพูดได้ไม่รู้จบอย่างยุค Sengoku ทำให้บางทีการอ่านเอกสารดูว่า Yokai หรือศัตรูเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรทำให้กลายร่างเป็นเช่นนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ผสมกับการดำเนินเรื่องที่อยู่ในมุมมองของเราเองก็ช่วยให้เราอยากเล่นต่อไปจนจบด้วยเหมือนกัน รวมๆ แล้วในด้านเนื้อเรื่องสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลย

Presentation

แม่ภาพจำของญี่ปุ่นในยุคสงครามแห่งความวุ่นวายหรือ Sengoku จะถูกหยิบยกมาใช้จนเกร่อไปหมดแล้ว ทว่าเนื้อหาของเกมก็ยังคงดัดแปลงออกมาให้ดูดิบเถื่อนและดูดีไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งบรรยากาศของเมืองในสภาวะสงคราม ถ้ำลึกที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเหล่าปีศาจหลายชนิด รวมกับเสียงเพลงประกอบที่เร้าอารมณ์ ทำให้การต่อกรกับศัตรูทั้งแบบธรรมดาและบอสต่าง ๆ นั้นสนุกเร้าใจขึ้นไปอีก

ระบบการสร้างตัวละครนั้นทำได้ดีเยี่ยมสมกับฝีมือของ Koei Tecmo เราสามารถปรับได้ทั้งโครงหน้า สีผมว่าจะมี Highlight แบบไหน โครงสร้างร่างกาย และอีกมากมาย อยากจะจัดให้สวยหล่อหรือน่าเกลียดแค่ไหนก็ทำได้ตามใจชอบเลย

ส่วนความยากนั้นก็ยากสมกับเป็นเกมแนว Souls Like จริงๆ แม้แต่ศัตรูธรรมดาในเกมนี้ก็ยังตีแรงจนเราตายได้ในไม่กี่ครั้ง แถมพวกมันบางตัวยังมีมุกกินศพเพื่อนแล้วแปลงร่าง หรือดักรอตีเราแล้วแปลงร่าง กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขให้ได้อีก และนี่ยังไม่รวมการออกแบบฉากที่กวนประสาท พาเราไปตายง่ายๆ แบบไม่รู้ตัวอีกเพียบ เรียกว่าสมเป็นเกมที่จะทำให้ทุกคนหัวร้อนแบบไม่มีเกรงอกเกรงใจกันเลย

น่าเสียดายนิดหน่อยที่แม้ตัวเกมจะทำระบบช่วยนำทางมาให้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังดูเหมือนว่าหลายจุดผู้เล่นนั้นต้องคลำหาทางไปต่อเองเยอะไปหน่อย แม้หลายคนจะบอกว่า “ก็นี่มันเกมแนว Souls จะทำให้ง่ายไปทำไม?” แต่ส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่ามันน่าจะทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่านี้เสียหน่อยก็ไม่น่าเสียหายอะไรก็น่าจะดี แต่โดยรวมจริงๆ ก็อยู่เกณฑ์ที่ดีมากแล้ว

Gameplay

หัวใจสำคัญของเกมนี้ก็คือ Gameplay ที่ดัดแปลงจากเกมแนว Action RPG ที่มีอยู่ในท้องตลาดได้เนอย่างดี ความคล่องตัวของผู้เล่นขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้ โดยจะมีอายู่ให้มากมายเช่นดาบคาตานะ โอดาฉิ ดาบคู่ หอก ทอนฟา ตะขอ ขวาน ปืน ธนู และอีกมากมาย ซึ่งอาวุธไหนยิ่งใช้งานบ่อย ก็จะได้รับ Skill Point มาอัปเกรดให้ทรงพลังมากขึ้น แต่ก็ต้องสับเปลี่ยนใช้งานอาวุธในแต่ละแบบด้วยเพื่อรับแต้มที่มากกว่าเดิม เหมือนกับว่าตัวเกมจะบังคับให้ผู้เล่นหาอาวุธเปลี่ยนอยู่เรื่อย เพื่ออัปเกรดตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าเข้าท่าเหมือนกัน เพราะอาวุธใหม่ในเกมนี้หาไม่ยาก แค่อาจมีค่าพลังที่ขัดใจบ้างเล็กน้อย

ระบบการพัฒนาตัวละครจำเป็นต้องใช้แต้ม Amrita ที่ได้จากการฆ่าศัตรู เมื่อเราตาย แต้มทั้งหมดจะหล่นออกจากตัวให้ไปเก็บ แต่ถ้าหากตายอีกรอบก่อนได้เก็บ แต้มเหล่านี้ก็จะหายไป รวมไปถึง Soul Core ที่หามาได้ด้วย(แต่อาวุธจะไม่หล่น) ซึ่งการหาจังหวะปราบศัตรูแล้วเอาแต้มอัปเกรดที่ศาลเจ้านั้นก็เป็นสิ่งที่ท้าทายผู้เล่นอยู่ไม่น้อย แถมศัตรูในเกมนี้ก็แกร่งทุกตัว ทำให้เราต้องเล่นอย่างใจเย็น หากใจร้อนก็มีแต่ทำให้ตัวเองตายเปล่า การบริการแต้มเหล่านี้ด้วยฝีมือของตนเองจึงจำเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนอาวุธที่หามาได้นั้น ถ้าไม่ได้ใช้ก็สามารถนำไปทำได้หลายอย่าง ทั้งขายเอาเงิน แยกเอาแต่วัตถุดิบเพื่อทำขึ้นมาใหม่ อาบพลังเวทย์ หรือมอบให้ศาลเจ้าเอาเงินพิเศษมาแลกของช่วยเล่นได้ และนอกจากนั้นก็จะมี Souls Core ที่ผู้เล่นเอาไว้อัปเกรดเพิ่มค่าพลังและเป็นไม้ตายพิเศษให้ได้ใช้งานยามขับคันได้ด้วย แม้ท่าเหล่านี้จะออกได้ช้า แต่ก็มีความรุนแรงในระดับสูงมากเช่นกัน

อีกอย่างหนึ่งที่ลืมไปไม่ได้คือระบบสัตว์ผู้พิทักษ์ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครมาเป็นผู้พิทักษ์ ซึ่งสัตว์พิทักษ์แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติต่างกันไป บางตัวอาจจะเพิ่มค่าพลังเวทย์ แต่บางตัวก็ทำให้โจมตีได้แรงขึ้น เรียกว่าเปิดกว้างให้ผู้เล่นได้เลือกใช้กันได้อิสระพอสมควร

แม้ของช่วยจะเยอะแต่ก็อย่างที่บอกไปว่าความยากของเกมก็ยังคงสูงเช่นเดิม หาประมาทแค่เล็กน้อยก็อาจตายได้ แต่จากภาพรวมเราก็พอเห็นได้ว่าเกมนี้ค่อนข้างจะเป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่โลกของ Souls Like มากพอตัว แต่ต้องจัดการกับความหัวร้อนของตัวเองให้ได้ไม่งั้นอาจหมดสนุกได้

โดยรวมแล้ว Gameplay ของเกมนี้มีตัวช่วยให้เราเยอะมาก แถมยังแยกย่อยเล่นได้หลายสาย บวกรวมกับความท้าทายของเกมนี้แล้วเรียกว่าลงตัว สะใจคนชอบเกมยากที่มีเนื้อหามากมายแน่นอน

Performance

ต้องยอมรับว่า Nioh 2 ทำตรงจุดนี้มาได้ดีในระดับหนึ่ง ตัวเกมเล่นในแบบเน้น Gameplay ได้ลื่นไหลจนไปแตะระดับ 60 เฟรมได้ในหลายครั้ง แต่ในช่วงที่ศัตรูบุกเข้ามาทีละมากๆ ก็อาจจะมีตกไปบ้าง แต่ก็ยังลื่นไหลเหมือนเดิม ซึ่งแม้จะเล่นในเครื่อง PlayStation 4 ธรรมดาก็รับได้สบาย แต่ตัวเกมก็แอบมี Bug หลุดมาให้เห็นบ้าง เช่นศัตรูหลงทิศ วิ่งสิ่งกีดขวาง หรือตกฉากตายไม่ทราบสาเหตุ แต่โดยรวมแล้วไม่แย่จนเล่นไม่สนุกแต่อย่างใด

Conclusion

โดยรวมแล้ว Nioh 2 เป็นเกม Souls Like ที่สามต่อความดีงามในภาคแรกได้ยอดเยี่ยมมาก พร้อมกับพัฒนาปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แม้เกมที่มีความยากระดับสูงนี้จะไม่เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่ช่ำชองหรืออยากลองเข้าสู่โลกของเกมตายเกิดวนเวียนแบบนี้ นี่ถือเป็นเกมที่ควรเล่นอย่างยิ่ง เชื่อว่าแฟนเกมรุ่นใหม่และเก่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

คะแนน- 8.8/10

ลงตัวในหลายจุด อาจมีปัญหากวนใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่หนักหนาจนหมดสนุกแน่นอน