Review One Piece Pirate Warriors 4 เส้นทางสู่การเป็นราชาโจรสลัด กับความมันที่ไม่เคยเปลี่ยน

Review One Piece Pirate Warriors 4 เส้นทางสู่การเป็นราชาโจรสลัด กับความมันที่ไม่เคยเปลี่ยน

Review One Piece Pirate Warriors 4 เส้นทางสู่การเป็นราชาโจรสลัด กับความมันที่ไม่เคยเปลี่ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เดินทางมาถึงภาคทีสี่แล้วสำหรับ One Piece Pirate Warrior หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า One Piece Musou กับการยึดมั่นเป็นเกมแนวแอคชั่นต่อยตีกับศัตรูจำนวนมหาศาลที่มีมาอย่างยาวและได้รับความนิยมมาตลอด และในภาคนี้พวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ One Piece ผิดหวังอีกเช่นเคย

Story

 

เรื่องราวใน One Price Pirate Warrior 4 จะเริ่มตั้งแต่ตอนที่ลูฟี่เริ่มออกเดินทางจากหมู่บ้านของตนเพื่อรวบรวมพรรคพวกและทำตามเป้าหมายในการเป็นราชาโจรสลัด ได้พบเจอผู้คนมากมายทั้งสหายที่กลายมาเป็นลูกเรือกลุ่มหมวกฟาง เหล่าศัตรูที่ได้เจอ กับเรื่องทั้งประทับใจและสะเทือนใจ เรียกว่าเก็บเอาส่วนสำคัญของเนื่องเรื่องมาเล่าใหม่ได้ยอดเยี่ยม ทั้งศึกชิงตัวนิโค โรบิน สงครามที่มารีน ฟอร์ด และอีกมากมาย เรียกว่าครบถ้วนและถ่ายทอดอารมณ์ได้ไม่ขาดตกบกพร่องกันเลย

ส่วนเนื้อเรื่องล่าสุดอย่างภาควาโนะคุนินั้น เนื่องจากตอนนี้ในหนังสือการ์ตูนยังไปไม่ถึงบทสรุป ดังนั้นตัวเกมจึงมีการดัดแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อยให้ลงตัว ถึงแม้จะไม่ใช่เนื้อเรื่องจริง แต่ส่วนที่เสริมขึ้นมานั้นบอกได้เลยว่าทำได้ไม่เลวทีเดียวครับ

 

ในจุดนี้สำหรับเนื้อเรื่องนั้นแทบไม่มีจุดให้ติเลย เพราะทั้งคนที่ติดตาม One Piece มาอยู่แล้ว หรือคนที่ไม่รู้เรื่องราวมาก่อนก็สามารถเล่นได้อย่างสบาย เพราะตัวเกมได้รับการแปลภาษาไทยมาเป็นอย่างดี ซึ่งตรงจุดนี้ต้องขอบคุณมาตรฐานการแปลไทยที่ทำได้อย่างดีเยี่ยมมาตั้งแต่เกม Dragonball Z Kakarot และคงความยอดยี่ยมมาจนถึงเกมนี้ได้ มุกตลกหลายอย่างก็ถอดความแปลตรงกับในหนังสือการ์ตูน เรียกว่าอารมณ์ไม่สะดุดแน่นอน

Presentation

 

สำหรับการนำเสนอของเกมยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิม นั่นก็คือการลุยฝ่าศัตรูกลุ่มใหญ่รวมพันกว่าคนในฉากเดียว ลุยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอกับบอส ซึ่งด้วยประสบการณ์ของ Team Ninja ที่คุ้นชินกับการสร้างเกมแนว Musou นี้มานานแล้ว ก็ทำให้การต่อยตีกับศัตรูในเกมนี้ทำได้สนุกประทับใจไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับตัวละครที่มีให้เลือกเล่นนั้นก็จัดเต็มแทบจะทุกฝั่งมากถึง 43 ตัว(และมีตัวละคร DLC เพิ่มอีก 9 ตัว) ทั้งลูฟี่ โซโร ซันจิ นามิ โรบิน หรือฝ่ายอื่น ๆ อย่างมิฮอค แชงคูส โดฟามิงโก้ โบอา เอส หรือกระทั่งไคโด ก็มีให้เล่นกันแบบจัดเต็ม และการปลดล็อกตัวละครเหล่านี้มาใช้ในเนื้อเรื่องก็เป็นอะไรที่บันเทิงไม่น้อยเหมือนกัน

 

ส่วนความยาวของเกมนั้นก็เรียกว่าจัดเต็ม ด้วยเนื้อเรื่องที่มีมากมายและฉากให้เล่นเพียบ ทำให้การเล่นจนจบเนื้อเรื่องหลักจะใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง แต่ในบางฉากนั้นอาจจะดูน่าเบื่อไปหน่อย เพราะมีความยาวเกินไป แถมศัตรูก็ค่อนข้างง่าย ไม่ได้มีความท้าทายมากนัก อาจเป็นเพราะผู้พัฒนาต้องการให้แฟนๆ One Piece สามารถเข้าถึงได้ทุกระดับ โดยที่ไม่ยากจนเกินไปนั่นเอง

โดยรวมแล้วการนำเสนอของเกมไม่ค่อยมีจุดบกพร่องใด ๆ ให้เห็นนัก เพียงแต่ฉากต่อสู้บางฉากอาจจะยาวไปเสียหน่อยจนแอบน่าเบื่อไปหน่อยก็ตาม

Gameplay

 

ลุยแหลกไปจนถึงจุดหมาย หรือต่อกรกับศัตรูจนกว่ากองกำลังของพวกมันจะล่าถอย แม้โดยหลักการต่อสู้ของเกมคือการเผชิญหน้ากับฝูงศัตรูจำนวนนับไม่ถ้วน แต่บางครั้งก็มีภารกิจพิเศษให้ผู้เล่นได้ทำด้วยเหมือนกัน และที่สำคัญภาคนี้ผู้เล่นสามารถกดกระโดดเพื่อทำคอมโบกลางอากาศได้แล้วด้วย

ซึ่งตัวละครในเกมนี้จะมีหลายประเภท เช่นสายพลัง เทคนิค ความเร็ว และต่อสู้กลางอากาศ ซึ่งเลือกใช้ได้ตามความถนัด ส่วนการใช้เกจ Musou นั้นจะแตกต่างจากภาคก่อนเล็กน้อยตรงที่เราสามารถเลือกติดตั้งท่าพิเศษต่าง ๆ ได้ทั้งหมด 4 ท่าจากหลายๆ ท่า ตามความถนัดของคนเล่น จะเล่นใหญ่ใช้ท่าไม้ตายตูมเดียวหายทั้งฉาก หรือใช้ได้บ่อยๆ ก็ทำให้ได้ไม่จำกัด เรียกว่าความเป็นไปได้ในการพัฒนาตัวละครนั้นเปิดกว้างมหาศาลไม่น้อยทีเดียว

 

ทว่าสิ่งที่ดูแย่ไปหน่อยคือบรรดาตัวละครที่ถูกปรับรูปร่างให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง ซึ่งว่ากันตามตรงมันก็ดีอยู่ แต่หลายครั้งมันก็ทำให้เกมง่ายขึ้นจนเกินไป เพราะพลังโจมตีของตัวละครเหล่านี้กลับสูงตามร่างกายของตัวเองด้วย(เช่นไคโดกับบิ๊กมัม) แม้ในช่วงที่ปะทะกันในฐานะของศัตรูจะไม่ยากมาก แต่ก็จัดว่าลำบากอยู่ขั้นหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การเล่นไปตามเนื้อเรื่องและจัดการกับศัตรูในเกมนี้ก็ถือว่าสนุกสนานและบันเทิงใจ แม้ในภาพรวมอาจจะง่ายกว่าเกมแนว Musou อื่นๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีความท้าทายในระดับที่น่าพอใจ รวมไปถึงการออกท่าคอมโบต่างๆ ก็ลื่นไหลสะใจ เรียกว่าไม่ผิดหวังสำหรับคนชอบแนวนี้แน่นอน

performance

 

แม้ตัวเกมจะรันบนเครื่อง PlayStation 4 แต่ตัวเกมก็สามารถเล่นได้ลื่นไหลพอสมควร แม้เฟรมเรทในการเล่นจะไต่ไปไม่ถึง 60 เฟรม แต่ก็ไม่ได้ตกวูบจนกระตุกอย่างน่าเกลียดนัก แม้รายละเอียดในบางจุดอาจจะดูหยาบไปบ้างเพราะจำนวนของศัตรูในหน้าจอที่มหาศาลมากก็ตาม แต่ตัวเกมก็ไม่ได้มีปัญหาถึงขั้นเกมล่ม เรียกว่าเล่นได้ลื่น ๆ จนจบเกมอย่างแน่นอน

Conclusion

 

One Piece Pirate Warrior 4 เป็นเกมภาคต่อที่พัฒนาขึ้นในทุกส่วน ทั้งตัวละครที่หลากหลาย และการแปลไทยที่ทำได้ดีเยี่ยม เป็นเกมที่สนุกไม่ว่าเล่นคนเดียวหรือกับเพื่อน รวมไปถึงแฟน One Piece เองก็ต้องประทับใจ เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทั้งแฟนเกมและแฟนการ์ตูนไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ

 

คะแนน 8.9/10

แม้จะมีปัญหาด้านสมดุลกับความน่าเบื่อของเกมในบางฉาก แต่ในภาพรวมก็คือเกมที่เล่นได้สนุกเหมือนกับเรื่องราวในหนังสือการ์ตูนหรืออนิเมชั่นที่เรารู้จักกันแทบจะพิมพ์เดียวกันเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook