รีวิว Resident Evil 3 Remake หลังจากได้เล่นจบแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง

ขอขอบคุณ : Sicom Amusement สำหรับโค้ดเกมที่ใช้รีวิวในครั้งนี้ครับ

ผ่านมาซักพักใหญ่ๆแล้ว สำหรับ Resident Evil 3 ฉบับ Remake จากค่าย Capcom หลังจากที่มีหลายคนได้เข้าไปเล่นแล้ว มีเสียงแตกระหว่างผู้เล่นหลายคนที่ได้เล่นเกมนี้ ส่วนจะคุ้มหรือไม่คุ้ม วันนี้ทีมงาน Sanook! Game จะมารีวิวในมุมมองของทางทีมงานดูบ้าง หลังจากที่ได้เล่นจบไปแล้ว จะมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง และมีจุดไหนที่ตรงกับเพื่อนๆและผู้อ่านท่านอื่นๆบ้างก็ลองดูกันได้เลยครับ

เนื้อเรื่อง

 

ในเกมภาค Remake นั้นมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องของตัวเกมจากเดิมแทบจะเป็นคนละเกมเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Jill Valentine ตัวละครหลัก ถึงแม้ว่าจะเริ่มจากจุดแรกอย่างอพาร์ตเม้นท์ของตัวละครหลักก็ตาม หรือ Carlos Olivera ทหารรับจ้างจากหน่วย U.B.C.S. ที่ถูกส่งมาในภารกิจช่วยเหลือและกอบกู้เมือง Raccoon City แต่สุดท้ายก็มีภารกิจแฝงที่ได้รับมอบหมาย รวมไปถึงศัตรูตัวร้ายอย่างพี่เหงือกร่น Nemesis ของเรา ที่ในภาคนี้กระโดดมาทักทายเรากันตั้งแต่เริ่มเกมยังไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ จะให้บทกับตัวละครอื่นๆอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น Nikolai, Tyrell และ Mikhail ก็มีบทบาทต่อเนื้อเรื่องอยู่ไม่น้อย

ระบบการเล่น

 

ภาคนี้ยังคงอิงจากภาค 2 Remake มาเช่นเคย ในส่วนของการเล่น ทั้งเวอร์ชั่น PC และ Console แต่มีการเพิ่มระบบ Dash หรือ Dodge ให้ผู้เล่นได้ใช้สำหรับการหลีบหลีกการโจมตีจากศัตรูภายในเกม ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายในการเล่นได้เป็นอย่างดี เมื่อเปรียบเทียบจากเกมภาคที่แล้ว ถ้าเกิดสู้ไม่ได้ก็ต้องวิ่งหนี แต่ภาคนี้เราสามารถหลบการโจมตี เพื่อโต้กลับในจังหวะ Slow Motion ได้อีกด้วย ตรงจุดนี้ค่อนข้างถูกใจเกมเมอร์หลายคน รวมไปถึงผู้เขียนอีกด้วย ทำให้สามารถกลับมาเล่นเกมนี้ได้อีกรอบ แม้ว่าจะเคลียร์จบไปแล้วก็ตามที

การนำเสนอ

 

ตรงนี้อาจจะมีเสียงแตกจากผู้เล่นที่บอกว่าตัวเกมนั้นค่อนข้างสั้น เหมือนกับภาคที่แล้วเลย แต่จริงๆก็มองได้อีกมุมหนึ่งคือเรื่องของความกระชับ เพราะเนื้อหาในเกมจริงๆ มันก็วนอยู่ไม่กี่ที่ เช่น Downtown, สถานีตำรวจ R.P.D., โรงพยาบาล เป็นต้น ดังนั้นผู้เล่นบางคนอาจจะรู้สึกได้ว่าตัวเกมนั้นค่อนข้างที่จะสั้นนั่นเอง และด้วยการพัฒนาของทาง Capcom เองที่อยากจะให้เกมนี้ออกมาต่อเนื่องกับเกมภาคที่ 2 ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2019 ก็เลยต้องตัดเนื้อหาบางส่วนที่ยืดออกไป เช่น หอนาฬิกา หรือแม้แต่สวนสาธารณะในภาคต้นฉบับ ซึ่งหลังจากนี้ก็มีข่าวออกมาว่าทางผู้พัฒนาจะมีการขยายเนื้อหาส่วนนี้ออกไปให้ผู้เล่นได้เข้าไปผจญภัยกันอีกครั้งก็เป็นได้

ภาพรวม

 

เมื่อเล่นจบไปแล้ว ทางผู้เขียนก็สรุปได้ว่ามันก็ยังคงเป็น Resident Evil 3 ที่เปลี่ยนรสชาติใหม่ ให้มีความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ในมุมมองของ Third-Person ซึ่งสนุกกันคนละแบบกับเกมต้นฉบับ แม้มีบางจุดที่คิดว่าตัวเกมน่าจะเพิ่มเข้ามาได้แต่ก็ถูกตัดทอนออกไป แต่คิดว่าถ้าทางทีมงานจะเพิ่มเข้ามาในภายหลังได้มันก็คงจะดีไม่น้อย แต่ก็ถือว่าทำออกได้ดีตามมาตรฐานของทาง Capcom นั่นแหละครับ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการรีวิวจากทีมงานกับ Resident Evil 3 Remake ฉบับตัวเต็ม ใครที่มีความเห็นว่าตัวเกมภาคนี้มีจุดไหนดี จุดไหนที่รู้สึกขัดใจบ้าง ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดูนะครับ ส่วนใครที่ยังไม่เคยได้ลอง ตอนนี้ตัวเกมมีวางจำหน่ายแล้วทั้งเวอร์ชั่น PS4, Xbox One และ PC ผ่านทาง Steam ซึ่งตัวเกมจะแถม Resident Evil: Resistance มาให้เล่นแบบออนไลน์กันด้วย