รีวิว Predator: Hunting Grounds ไล่ล่าเอาชีวิตรอดในป่าดงดิบ

ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นต่อสู้กับเอเลี่ยนต่างดาว ก็คงจะต้องรู้จักกับชื่อเสียงของเอเลี่ยนยอดนักล่าอย่าง Predator กันเป็นอย่างดี เพราะความเท่และความโหดดิบเถื่อนในการสังหารนั้น ทำให้เอเลี่ยนนักล่าตัวนี้ได้เป็นหนึ่งในตัวละครชื่อดังของโลกภาพยนตร์เลยทีเดียว แต่จะเป็นอย่างไรล่ะ ถ้าหากเราจะได้เป็นผู้ไล่ล่าหรือเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าในเกม? ทาง IllFonic ได้นำคำตอบนั้นมาให้แล้วในเกม Predator: Hunting Grounds ที่จะให้ผู้เล่นทุกคนได้ไปเอาชีวิตรอดต่อสู้กันในป่าดงดิบได้แล้ววันนี้บน PlayStation 4 และ PC



Predator: Hunting Grounds เป็นเกม First-Person Shooter ที่มาในรูปแบบของ Multiplayer Online ที่จะทำการแบ่งผู้เล่นเป็นฝั่ง Predator และฝ่าย Fireteam ซึ่งเป็นฝ่ายมนุษย์ เมื่อเลือกฝั่งได้แล้วผู้เล่นก็จะถูกส่งไปยังป่าดงดิบ เพื่อทำภารกิจและใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีในการต่อสู้กับศัตรู ในการเล่นแต่ละครั้งนั้นจะมีเวลาให้ 15 นาที ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพราะถ้าหากสามารถเล่นได้ดี ก็สามารถจบเกมได้ก่อนหมดเวลาซะอีก ซึ่งการเล่นเป็นแต่ละฝ่ายก็จะมีความสามารถและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และอาจทำให้ผู้ที่เป็นฝ่ายล่า กลับเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ล่าแทนได้ด้วย



การเล่นเป็น Fireteam หรือฝ่ายมนุษย์ ผู้เล่นจะได้รวมทีม 4 คน เพื่อช่วยกันต่อสู้และทำภารกิจในแต่ละมิชชั่น ซึ่งจะมีการสุ่มมาให้ในการเล่นแต่ละครั้ง อย่างเช่นภารกิจการเก็บกู้ข้อมูลหรือการทำลายฐานของศัตรู และในระหว่างการทำภารกิจนั้น ผู้เล่นก็ต้องต่อสู้กับกองโจรที่เป็น AI และต่อสู้กับ Predator ที่เป็นผู้เล่นคนอื่นด้วย จึงทำให้ต้องอาศัยฝีมือและทีมเวิร์ค ในการรับมือกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งถ้าหากฝ่าย Fireteam สามารถทำภารกิจเสร็จสิ้นและหลบหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ได้สำเร็จ หรือสามารถช่วยกันจัดการ Predator และหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้ เกมก็จะจบโดยเป็นผู้ชนะทันที

ส่วนทางด้านฝ่าย Predator ก็จะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปีนป่ายต้นไม้เพื่อการมุ่งไปยังตำแหน่งเป้าหมาย หรือจะดักซุ่มโจมตีศัตรูอยู่บนต้นไม้ก็ได้ ซึ่งการปีนป่ายนั้นก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และแน่นอนว่าจุดเด่นของ Predator ก็คือการมีอาวุธที่หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะเป็นปืนพลาสม่า ปืนตาข่าย กรงเล็บ มีดดาบ หรือธนู และมันยังมีความสามารถในการพรางตัว รวมถึงการใช้อินฟราเรดตรวจจับหาศัตรูด้วย ถ้าหากฝ่าย Predator สามารถตามหาและไล่ล่าจัดการผู้เล่นอีกฝ่ายได้ทั้งหมด ก็จะเป็นฝ่ายชนะไปทันที



แน่นอนว่านี่เป็นเกมที่แปะชื่อ "Predator" เอาไว้ หลายคนจึงน่าจะสนใจว่าการเล่นเป็น Predator นั้นจะทำออกมาได้ดีอย่างที่หวังเอาไว้มั้ย จากที่สัมผัสดูแล้วก็คงต้องบอกว่าลูกเล่นของ Predator ได้ถูกยกมาใส่ไว้อย่างครบเครื่อง ทั้งอาวุธที่มีให้ใช้ การพรางตัว การเปิดสัญญาณอินฟราเรดตรวจจับความร้อน หรือแม้แต่การปลอมแปลงเสียงมนุษย์ อีกทั้งการสังหารศัตรูก็ยังมีความโหดดิบและรุนแรงตามแบบฉบับอีกด้วย แต่จุดที่ลำบากของการเล่นเป็น Predator นอกจากที่จะต้องท้าทายด้วยการต่อสู้แบบ 4 vs 1 แล้ว ก็ยังเป็นการที่ต้องวิ่งตามหาผู้เล่นคนอื่นด้วยตัวเอง โดยที่ไม่มีสัญญาณตำแหน่งบอกเอาไว้ให้

การต่อสู้กับศัตรูถึง 4 คนนั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยความที่ตัวด่านของเกมนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้มากมาย จึงทำให้มองหาศัตรูได้ยาก และทำให้การเปิดอินฟราเรดเพื่อตรวจหาก็ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่การเปิดอินฟราเรดตรวจหาศัตรู พร้อมกับการเคลื่อนที่ปีนป่ายต้นไม้ไปด้วยนั้น ก็กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เวียนหัวได้ง่ายมากเช่นกัน และบางครั้งก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะระหว่าง AI กับผู้เล่นด้วยกันเอง การเล่นเป็น Predator จึงต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญอยู่พอสมควร ซึ่งถ้าหากคุณเป็นยอดนักล่าตัวจริง ก็สามารถที่จะสร้างความหวาดกลัวให้คู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดกลายเป็นทาร์ซานหลงป่าแทน ก็คงไม่พ้นที่จะจบเกมโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย และน่าจะสนุกกับการเล่นเป็น Fireteam มากกว่า



เมื่อเล่นจบแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะได้รับ XP สำหรับการอัพเลเวลมา เมื่อเลเวลมากขึ้นแล้วจะสามารถปลดล็อคการปรับแต่งความสามารถของทั้ง Predator และ Fireteam ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน Class ที่มีความสามารถแตกต่างกัน 4 แบบ รวมถึงการปลดล็อคความสามารถ Perk และอาวุธต่างๆ ได้มากขึ้น ในส่วนนี้ถ้าหากเล่นเป็น Fireteam ก็จะมีอาวุธให้ใช้ตั้งแต่ปืนทั่วไป ไปจนถึงปืนกลหรือปืนยิงลูกระเบิด และยังสามารถแต่งอาวุธได้มากขึ้นจากการเก็บเลเวลอาวุธปืนแต่ละกระบอกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของการแต่งตัวละคร อย่างเช่นการเปลี่ยนหน้ากากของ Predator หรือการสวมใส่เครื่องประดับจาก Fireteam หรือการเปลี่ยนสีเพ้นท์ลาย ซึ่งของเหล่านี้จะสามารถปลดล็อคได้จากการเปิดกล่อง Loot Box หรือซื้อได้จากการใช้เงินในเกม



ทางด้านภาพของเกมนั้นถือว่าทำมาได้อยู่ในมาตรฐานของเกมสมัยนี้ ซึ่งอาจจะไม่ได้สวยงามมากเกินไปนัก แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำบรรยากาศของป่าดงพงไพรออกมาได้ดี ซึ่งถ้าหากดูสภาพแวดล้อมไม่ดี ก็อาจมีการหลงทางหรือพลัดหลงกับเพื่อนร่วมทีมได้เลยทีเดียว ทว่ากราฟฟิคของเกมนั้นก็ยังมีปัญหาในเรื่องของเฟรมเรทที่ตก หรือการโหลด Texture ไม่ทันอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนทางด้านเสียงนั้นก็สามารถแยกแยะทิศทางเสียงได้ดี โดยเฉพาะเวลาที่ Predator เข้ามาใกล้ ก็จะสามารถได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวว่ามาจากทางไหน และช่วยเพิ่มความตื่นตัวในเวลาเล่นได้มาก



สำหรับใครที่เป็นห่วงว่าเกมจากหนังเกมนี้ จะเป็นเกมแป้กตามรอยเกมอื่นๆ ไปด้วยรึเปล่า คงต้องบอกว่า Predator: Hunting Grounds ไม่ได้เป็นเกมที่เลวร้ายซะทีเดียว การเล่นเป็นทีมเพื่อช่วยกันต่อสู้กับศัตรูที่มีความสามารถมากกว่า ก็สามารถทำให้รู้สึกสนุกกับการเล่นได้ไม่ยาก ยิ่งถ้าหากตัวเราหรือเจอผู้เล่นอื่นที่เล่นเก่งด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกตื่นเต้นขึ้นได้มากทีเดียว การเล่นเป็นฝ่ายเอเลี่ยนที่มีพลังเหนือกว่าเอง ก็ต้องมีการใช้ชั้นเชิงของการเป็นผู้ล่าเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่ามีความสามารถมากกว่าแล้วจะสามารถชนะได้ง่ายๆ หากจะเลือกหยิบเกมนี้มาเล่นกับกลุ่มเพื่อนสนิทหรือเล่นกับคนอื่นก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหา

แต่สิ่งที่ขาดไปนั้น คือการที่ตัวเกมยังดูมีคอนเทนท์ที่น้อยกว่าที่ควร เพราะโหมดของเกมที่มีให้เล่นนั้นมีให้เล่นเพียงโหมดเดียว และระดับความเก่งของ AI ก็มีเพียงระดับเดียว (ซึ่งก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมายนัก) จึงทำให้ดูไม่มีความท้าทายและไม่มีทางเลือกในการเล่น และอาจทำให้รู้สึกขาดแรงจูงใจในการเล่นต่อได้ เพราะถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่เป็นแฟนของ Predator หรือหากลองเล่นแล้วไม่ได้รู้สึกถูกใจกับตัวเกมมากขนาดนั้น ด้วยคอนเทนท์ของเกมที่มีให้เล่นแค่นี้ ก็น่าจะทำให้เล่นได้ไม่นานเท่าไหร่

หากจะเปรียบเทียบกับผลงานในค่ายเดียวกันอย่าง Friday the 13th: The Game ก็คงต้องบอกว่าตัวเกมอยู่ในมาตรฐานเดียวกันเลยก็ว่าได้ แต่ทาง IllFonic ก็ยังคงติดตามปัญหาของผู้เล่น และอัพเดทแก้ไขปรับปรุงตัวเกมให้ดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ ถ้าหากจะมีการอัพเดทคอนเทนท์เพิ่มเติมในอนาคตได้ ก็คงจะทำให้เกมน่าสนใจได้มากขึ้นกว่านี้ ส่วนใครที่เป็นแฟนตัวยงและชื่นชอบ Predator มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็น่าจะสนุกเพลิดเพลินกับการใช้เวลาเป็นผู้ล่าในเกมนี้ได้ไม่ยาก