รีวิว Legends of Runeterra คนชอบเกมการ์ดควรได้สัมผัส แฟน LoL ยิ่งต้องลอง!
หนึ่งในเกมยุคใหม่ของค่าย Riot Games ที่หลังจากครบรอบ 10 ปีเกม League of Legends ในปีที่ผ่านมา ก็ได้ทำการแตกขยายสาขาเกมของตัวเองออกไปชนกับเกมประเภทอื่นอย่างที่เรียกได้ว่าบ้าบิ่นเลย เพราะแค่วันเดียวพวกเขาก็เปิดตัวเกมมากมายมากกว่า 5 เกม และเกมการ์ดก็เป็นหนึ่งในนั้นกับเกม Legends of Runeterra การ์ดเกมที่สร้างโดยใช้โลกของเกม LoL เป็นพื้นฐาน
เกม Legends of Runeterra หรือ LoR เป็นเกมการ์ดในแนวทางเดียวกับ Hearthstone คือใช้มานาในการเล่น มี Cost ที่ต้องการของการ์ดแต่ละใบที่แตกต่างกัน และหากใครเคยสัมผัสเกม Hearthstone มาก่อนก็ต้องบอกว่ามีกลิ่นที่คล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย เพราะ Cost ต่างแล้ว แต่ละใบก็จะมี Health และ Damage ที่ทำได้ด้วยเช่นกัน
แต่จุดเด่นที่เกมนี้สร้างขึ้นไม่เหมือนทั้ง HS และ Shadowverse ก็คือการเล่นในเฟส Attack และ Block ที่จะให้ผู้เล่นได้เลือกว่าจะส่งตัวละครใดลงไปต่อสู้ในสนามตรงกลางบ้าง จะเก็บใครไว้แนวหลัง ซึ่งการ์ดแต่ละใบก็ทำงานได้แตกต่างกันในแต่ละตำแหน่งอีกต่างหาก ช่วยสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ของเกมได้เป็นอย่างดี
ความสามารถของการ์ดก็ค่อนข้างหลากหลายมากในขณะที่เป็นเกมพึ่งเปิดตัว เกมจะแบ่งรูปของการ์ดหลักๆ ออกเป็นแต่ละ Region หรือเมืองที่ตัวละครหรือการ์ดนั้นๆ สังกัดอยู่ และการ์ดในสังกัดต่างๆ ก็จะมีสายการเล่น รูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลต่อการจัดเด็คด้วย เพราะในหนึ่งเด็คจะมีการ์ดจากแต่ละสังกัดได้ไม่เกินสองสังกัด แม้อิสระจะน้อยลง แต่ก็ช่วยให้ผู้เล่นจัดเด็คได้ง่ายขึ้นมาก เพราะในสังกัดนั้นๆ ก็มักจะมีการ์ดที่ส่งเสริมความสามารถกันและกัน
อีกหนึ่งรูปแบบการ์ดที่โดดเด่นเหนือเกมการ์ดอื่นก็คือการ์ด Champion หรือก็คือการ์ดที่มีต้นแบบมาจากตัวละครในเกม LoL นั่นเอง ซึ่งความสามารถก็มักจะอ้างอิงตาม Lore หรือรูปแบบการเล่นของตัวละครนั้นๆ ในเกม LoL ซะด้วย ถ้าใครเล่น LoL มาก่อนจะเข้าใจความสามารถของการ์ดตระกูลนี้ได้อย่างง่ายดายเลยละ ซึ่งจุดเด่นที่การ์ด Champion มีเหนือกว่าการ์ดอื่นคือพวกเขาสามารถ Level Up ได้! โดยหากเราสามารถทำเงื่อนไขของการ์ดเหล่านี้ที่แตกต่างกันได้ พวกเขาจะพัฒนาความสามารถระหว่างเล่นได้ และจะเก่งขึ้นอย่างมาก อาจเป็นหนึ่งในจังหวะพลิกเกมให้เข้าช่วงที่ Champion เหล่านี้เก่งที่สุด และช่วยให้จากแพ้เป็นชนะได้เลย
ตัวอย่างง่ายๆ เช่นการ์ด Champion Elise เจ้าแม่แมงมุมที่จะ Level Up ได้เมื่อตอนเริ่ม Round มีการ์ดแมงมุมในฝั่งตัวเองสามตัวขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ทีแรกความสามารถของเธอจะสร้างลูกแมงมุมขึ้นมาเมื่อโจมตีสำเร็จ แต่เมื่อ Level Up เธอจะเสริมพลังให้แมงมุมทั้งหมดในฝั่งเธอให้โจมตีแรงขึ้น มีสกิลเพิ่มขึ้นอีกถึงสองสกิล ซึ่งเป็น Ace Unit ของเด็ค Aggro ที่โหดเหี้ยมหนึ่งตัวเลย
ว่าในฝั่งยูนิท ตัวละครที่ใช้ต่อสู้ไปแล้ว ในฝั่ง Spell ก็มีจุดที่แตกต่างไม่เหมือนชาวบ้านในเกมการ์ดตระกูลเดียวกันอีกเช่นกัน โดยการ์ด Spell ของเกมนี้ (ในตอนนี้) จะแบ่งออกเป็นสามแบบหลักๆ คือ Burst, Speed และ Slow ที่มีจังหวะการใช้งานที่แตกต่างกันเช่น Slow จะใช้ได้นอกจังหวะการต่อสู้เท่านั้น ในขณะที่ Burst สามารถใช้ตอนไหนก็ได้ เป็นต้น
อาจจะต้องพูดถึงเล็กน้อยคือในการจัดเด็คของเกมนี้นั้นสามารถจัดได้รวมกันสูงสุดที่ 40 ใบ และสามารถมีการ์ดแชมป์เปี้ยนได้ไม่เกิน 6 ใบในเด็ค เพราะการ์ดตระกูลนี้ค่อนข้างทรงพลังไม่เหนือตัวอื่นๆ ใน Cost เดียวกันนั่นเอง
อีกส่วนสำคัญของเกมที่ทีมงาน Riot Games ค่อนข้างภูมิใจ และเชื่อมั่นว่าเกมของพวกเขาจะแตกต่างจากคนอื่นคือรูปแบบ วิธีการที่จะได้มาซึ่งการ์ดแต่ละใบ โดยในเกมนี้การ์ดทุกใบสามารถใช้เงินในเกมที่ได้มาจากการเล่นตามปกติ ในการซื้อมาได้ทุกใบ มี Shard พิเศษที่แตกต่างกันถึง 4 ชนิด เขียว, ฟ้า, ม่วง, ทอง ในการเอาไปแลกการ์ดในระดับนั้นๆ มาใช้ได้ทันที ไม่พอคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นเล่นการ์ดในสังกัดไหนเป็นพิเศษ เพื่อที่คุณจะเก็บเลเวลในสังกัดนั้นๆ และปลดล็อคการ์ดในสังกัดที่เล่นมาใช้ได้ฟรีๆ ไม่ต้องไปแลกไปซื้อแต่อย่างใด เช่นเพื่อนๆ ชอบเล่นการ์ดในสังกัด Freijord ก็เลือกสังกัดดังกล่าว การ์ดในสังกัดก็จะมาอยู่ในมือเพื่อนๆ ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น
วิธีการเล่นก็มีทั้งแบบเล่นกับคนอื่นตามปกติ เล่นกับ AI หรือจะเล่นโหมดพิเศษอย่าง Expedition โดยเราจะได้รับตั๋วพิเศษในการเข้าเล่นโหมดนี้มาแบบฟรีๆ สัปดาห์ละครั้ง เราจะสุ่มจัดเด็คทีละสามถึงสี่ใบ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการ์ดสักใบก็เล่นได้ เพราะเกมจะให้คุณสุ่มเลือกการ์ดได้ทุกใบในเกม มาจัดเด็คได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะสุ่มมั่วซั่ว และทำเรางงเอง เกมจะสนับสนุนผู้เล่นโดยการบอกให้เลยว่าการ์ดชุดที่สุ่มขึ้นมานี้ใช้เล่นในแนวทางแบบไหน ซึ่งถ้าเลือกสายการเล่นไปในแนวทางเดียวกัน ก็สามารถจัดเด็คสายการเล่นนั้นๆ ให้โหดสุดๆ ได้ไม่ยาก
เมื่อจัดเสร็จแล้ว คุณก็จะเข้าสู่โหมดการเล่น Expedition ที่จะเล่นต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นในโหมดเดียวกัน และต้องเก็บ Win Streak ให้ได้เยอะที่สุด เมื่อจบก็จะนำจำนวน Win Streak นั้นมาคำนวนเป็นของรางวัลในตอนจบอีกที นับเป็นโหมดสนุกๆ ที่ให้ผู้เล่นทุกคนได้เล่นแบบเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
นอกจากเกมเพลย์ที่มีหลากหลายแบบ หลายโหมดแล้วรายละเอียดที่แอบซ่อนอยู่ในการ์ดแต่ละใบก็มีเพียบ เรียกว่าเป็นขุมทรัพย์ของผู้เล่นที่อินกับโลกของ LoL Universe อย่างมาก การ์ดแต่ละใบจะมีคำอธิบายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Quote ของเจ้าตัว คำที่คนกล่าวถึง คำอธิบายถึงตัวตนในการ์ดพวกนั้นในอีกหลากหลายมุม ไม่พอการ์ดแต่ละใบก็จะมีเงื่อนไขพิเศษที่เมื่อลงมาเจอกันในสนามก็สามารถพูดคุยกันได้ด้วย เช่น Garen กับ Katarina ที่เมื่อลงมาเจอกันในสนามก็พูดคุยกันสนิทสนมแปลกๆ เพราะใน Lore จริงแล้วพวกเขาอาจแอบคบกันอยู่
Review Score: 9/10
ในฐานะผู้เล่นเกมการ์ดที่ไม่ได้เล่นลึกซึ้งมาตั้งแต่สมัย Hearthstone เล่นไปได้ประมาณปีหนึ่งก็พักไป นี่เป็นอีกหนึ่งในเกมการ์ดที่สนุก น่าตื่นเต้น และอ่อนโยนต่อผู้เล่นใหม่ และผู้เล่นที่ไม่ใช้เซียนการ์ดขั้นสูงอย่างมาก เพราะระบบหลายๆ อย่างจะช่วยเราคิดเสมอ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเล่นจบแต่ละเกม แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่านี่จะเป็นเกมการ์ดที่มีเพดานฝีมือที่สูงเช่นกัน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝน และใช้ความคิดเกี่ยวกับการจัดเด็ค ก็จะทำผลงานได้ดีกว่าได้อีกเช่นกัน อยากจะขอลบสักคะแนนในแง่ที่ผู้เล่นสายที่ชอบความอิสระในการเล่นที่สูงมากๆ ก็อาจจะมีหงุดหงิดนิดหน่อย ที่เกมช่วยคิดแทนเยอะไป บีบบังคับไปบ้าง
แถมคะแนนพิเศษสำหรับผู้เล่นเกม League of Legends ที่จะทำให้คุณอินกับเกมเป็นพิเศษ เป็นโบนัสที่ต่อยอดออกมาจากจักรวาลเกมฝั่ง MOBA ได้ยอดเยี่ยมมากๆ แถมยังมีอัพเดตที่ต่อเนื่องรวดเร็วมาก เพราะต่อจากตอนที่เปิดตัวครั้งแรกแบบ Alpha Test จนมากถึงวันเปิดตัว Open Beta นี้ พวกเขาก็พึ่งจะเพิ่มการ์ดชุดใหม่ ความสามารถสกิลแบบใหม่เข้าไป ถึงหนึ่งสังกัดใหญ่อย่าง Bilgewater และแชมป์เปี้ยนใหม่ การ์ดชุดใหม่ของแชมป์เปี้ยนนั้นๆ อีกเยอะมาก