ของจริง Minecraft ประกาศยอดขายตอนนี้ทำได้เกิน 200 ล้านชุดแล้ว

ปกติแล้วเกมเมอร์อย่างเราก็คงพยายามหาเกมใหม่ๆ ซึ่งเป็นแนวที่ตัวเองชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของเกม งานภาพกราฟิกรายละเอียดต่างๆ ให้สวยงามคมชัดไว้ก่อน แล้วต่อมาก็คงดูเรื่องเนื้อหา Content ภายในเกมว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่ที่จริงแล้วมันมีอีกหนึ่งเกมที่ผ่านมาหลายสิบปีก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่แล้วสร้างยอดขายได้เรื่อยๆ อย่าง Minecraft เกมแนว Sandbox จากค่ายผู้พัฒนา Mojang  และร่วมมือกับตัวแทนจัดจำหน่ายทั้ง Sony Entertainment และ ทาง Microsoft Studio ทุกคนทราบหรือไม่ที่จริงแล้วตัวเกม Minecraft มีอายุร่วม 11 ปีเข้าไปแล้วหลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ในรูปแบบ Public Alpha แล้วก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 18 พฤศจิกายน ปี 2011 เป็นต้นมา

 

แล้วล่าสุดได้มีการเปิดเผยรายละเอียดของยอดขายเกม Minecraft เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่จะครบรอบ 11 ปีเต็มๆ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดย ตอนนี้ทราบหรือไม่ว่าตัวเกมสามารถวางจำหน่ายและสร้างยอดขายไปแล้วกว่า 200 ล้านชุดทั่วโลกแล้วทาง Mojang ยังได้เปิดเผยอีกว่าสำหรับในปี 2019 ที่ผ่านมามียอดสั่งซื้อไป 176 ล้านชุดทำให้ในปี 2020 นี้มีการเติบโตและมียอดซื้อมากกว่า 24 ล้านชุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาและมีจำนวนผู้เล่นรายเดือนตกอยู่ที่ 126 ล้านคน นั่นน่าจะรวมถึงเวอร์ชั่นเล่นฟรีของจีนซึ่งมีผู้เล่นมากกว่า 300 ล้านคนในปี 2019 นั่นเอง แต่ใครจะคิดว่าเกมสไตล์ Sandbox ภาพเหลี่ยมๆ แบบนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถล่มทลายขนาดนี้

Minecraft เป็นวิดีโอเกมแนวแซนด์บ็อกซ์ที่สร้างขึ้นโดยนักออกแบบเกมชาวสวีเดนจินตนาการสุดล้ำอย่างคุณมาร์คุส แพร์สชอน (Markus Persson) และต่อมาได้รับการพัฒนาต่อโดยทีมงานของโมแยง (Mojang) ซึ่งตัวเกมนี้จะให้ผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยบล็อกที่หลากหลายให้เลือกสร้างในรูปแบบโลก 3 มิติ ซึ่งจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระทำให้ตัวเกมนี้มีอะไรมากกว่าแค่สร้างความบันเทิงอย่างเดียว ภายในเกมก็จะมีโหมดการเล่นมากมาย ประกอบไปด้วย โหมดเอาชีวิตรอด (Survival mode),  โหมดฮาร์ดคอร์ (Hardcore mode),  โหมดสร้างสรรค์ (Creative mode),  โหมดผจญภัย (Adventure mode), และโหมดผู้ชม (Spectator mode) ซึ่งแต่ละโหมดก็จะมีลักษณะเด่นของตัวเองที่แตกต่างกัน

บางครั้งเราจะเห็นว่า Minecraft ถูกจัดเป็นงาน Event ประกวดการออกแบบสร้างผลงานของเด็กๆ อยู่บ่อยครั้งรวมไปถึงถูกทำเป็นสื่อการเรียนรู้บางอย่างด้วย ทำให้ส่วนตัวมองว่าวิดีโอเกม Minecraft เป็นอะไรที่มากกว่าแค่เกมไปแล้ว