Krafton ประกาศเตรียมเปิดทดสอบ Elyon เกม MMORPG Openworld อีกครั้ง
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบที่จริงแล้วตัวเกม Elyon เป็นเกมที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อในช่วงเดือนเมษายน 2020 ที่ผ่านมาซึ่งชื่อเดิมก็คือ "Ascent: Infinite Realm" หรือ A:IR ที่ช่วงหนึ่งในปีที่แล้วได้มีการเปิดให้ทดสอบ Close Beta ในประเทศไทยของเราเป็นที่แรกของโลก โดยดูแลการให้บริการในประเทศไทยบริษัท Playpark.com แล้วหลังจากที่ทดสอบเสร็จก็ปิดยาวเอาไปปรับปรุงใหม่หลายๆ ส่วน ให้ดีกว่าเดิมซึ่งเป็นผลงานของบริษัท KRAFTON บริษัทแม่ของของเกมชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น TERA Online และ PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS หรือ PUBG ก็เป็นของบริษัทนี้ทั้งหมด แล้วล่าสุดหลังจากที่เปลี่ยนชื่อก็ได้ออกมาประกาศอัปเดตถึงกำหนดการเปิดให้ทดสอบ Beta Test อีกครั้ง
ในการทดสอบ Elyon หรือ Ascent: Infinite Realm จะเปิดให้ทดสอบในประเทศเกาหลีใต้เป็นที่แรกสำหรับเวอร์ชั่นใหม่ที่ปรับปรุงแล้ว ไม่ได้เปิดในประเทศไทย โดยรายละเอียดนั้นได้แจ้งเอาไว้ว่าเป็นการทดสอบที่มี "ขนาดใหญ่" ไม่แน่ใจว่าคือเนื้อหา Content หรือแผนที่มีการขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมต้องรอดูกันอีกที แต่ที่แน่ๆ ตัวเกม Elyon กำหนดเปิดให้ทดสอบ 25 กรกฎาคม 2020 เป็นต้นไปซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังรอคอยการกลับมาของ A:IR ในเวอร์ชั่นยกเครื่องหลายๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นระบบต่อสู้ที่ปรับปรุงใหม่ให้เน้นการ Combat มากยิ่งขึ้นคล้ายๆ Tera ก็คือการเล่นแบบ non-targeting combat system ซึ่งน่าจะส่งผลการเล่นครั้งใหญ่ของตัวเกมอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของพวกเขาไว้ก็คือระบบการต่อสู้แบบ Realm vs Realm และโหมดการเล่นแบบ PVP ทั้ง 1vs1, 2vs2, 3vs3, และพื้นที่ Free PK บางส่วนยังเป็น PvPvE ที่มีหลากหลายรูปแบบให้สาวกเกมเมอร์สายบู้ได้เลือกเล่นได้อย่างอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่รองรับระบบการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นมากที่สุดอีกหนึ่งเกม ประกอบกับงานภาพกราฟิกที่สวยงามแล้วมันน่าสนใจไม่น้อยแต่มีบางส่วนที่มองว่ายังต้องปรับปรุงอีกนิดหน่อยก็คือเรื่องท่าทาง Animation ของตัวละครให้มันดูลื่นไหลกว่านี้มันจะแจ่มขึ้นไม่น้อย เพราะเดิมทีมันดูแข็งๆ ไปหน่อย แต่เวอร์ชั่นใหม่ที่จะมาน่าจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่อัปเกรดแน่นอน
Elyon จะเป็นเกมแนว MMORPG สไตล์ OpenWorld ที่สามารถเล่นบินและต่อสู้บนอากาศได้ซึ่งเดิมทีเขาใช้จุดขายในเกมและตั้งชื่อว่า A:IR นั่นเองแล้วหลังจากนั้นดูเหมือนยังไม่โอเคเลยเปลี่ยนจุดขายหลักเป็นเกมที่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก โดยใช้ชื่อใหม่นี้แทนที่เอามาจากชื่อของประตูขนาดใหญ่แห่งโลก Realm vs Realm เมื่อผ่านประตูนี้การต่อสู้มันจะเริ่มขึ้น