มาอย่างใหญ่! DOTA 2 Battle Pass 2020

มาอย่างใหญ่! DOTA 2 Battle Pass 2020

มาอย่างใหญ่! DOTA 2 Battle Pass 2020
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดประจำปีสำหรับแฟนๆ DOTA 2 เลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละปีจะมี Battle Pass ที่รวบรวมทั้ง Skin, กิจกรรม, และฟีเจอร์ต่างๆมากมาย ปี 2020 นี้ เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าปีก่อนๆเลย มีอะไรบ้าง ทาง Sanook Game สรุปมาให้แล้ว!

อะไรคือ Battle Pass?

Battle Pass เป็นไอเทมในเกม DOTA 2 เป็นสมุดสะสมแต้มเพื่อให้ผู้เล่นปลดล็อคของรางวัลต่างๆในเกมด้วยการร่วมกิจกรรม, ซื้อ Balttle Pass level, หรือเพียงเล่นเกมเฉยๆ นอกจากนี้ Valve จะทำรายได้ 25% จาก Battle Pass เป็นเงินรางวัลการแข่งขัน The International อีกด้วย

โดยธีมของ Battle Pass ในแต่ละปีก็จะต่างกันไป เช่น ใต้น้ำ หรือ ป่า เป็นต้น สำหรับ Battle Pass 2020 นี้ จะเป็นธีมแนว Divine หรือศักดิ์สิทธิ์ นั้นเอง

ราคา

สำหรับ Battle Pass 2020 นี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ

  • Battle Pass - Level 1 Bundle: ราคา 9.99 ดอลลาร์ (330 บาท)
  • Battle Pass - Level 50 Bundle: ราคา 29.35 ดอลลาร์ (969 บาท)
  • Battle Pass - Level 100 Bundle: ราคา 44.99 ดอลลาร์ (1,485 บาท)

ฟีเจอร์ใหม่ - กิล

ทุกคนที่ซื้อ Battle Pass จะสามารถสร้างกิลได้ ส่วนใครที่ไม่มี Battle Pass จะสามารถเข้าร่วมกิลได้อย่างเดียว

หัวหน้ากิลสามารถชวนคนรู้จักให้เข้าร่วมกิลหรือเปิดให้คนทั่วไปสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกได้ โดยสามารถกำหนดแรงค์ได้ว่าเปิดรับคนที่แรงค์อะไร เมื่อร่วมกิลแล้วระบบจะสร้างแชทส่วนตัวประจำกิล โดยเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับ Steam Chat สามารถคุยกับคนในกิลได้ทั้งในเกมและนอกเกม

สมาชิกในกิลทุกคนจะเห็นภารกิจประจำวันและประจำสัปดาห์ (เช่น ชนะด้วยฮีโร่ Troll Warlord) เมื่อชนะแล้วจะได้รางวัลเป็น Guild Point (GP) และเลเวล Battle Pass (BP) อีกด้วย ส่วน Guild Point ก็สามารถเอาไปแลกไอเทมต่างๆในเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น Emoticon ทำให้เวลาแชทมีสีสันขึ้นอีกด้วย

นอกจากเควสประจำวันแล้ว สมาชิกกิลทุกคนยังสามารถช่วยกันหา Guild Point กันได้ด้วยการเล่นโหมดปกติ และจะได้แต้มเพิ่มยิ่งขึ้นหากเปิดตี้เล่นกับสมาชิกกิลด้วยกัน


CAVERN CRAWL

CAVERN CRAWL คือเควสที่ทำให้เราสามารถปลดล็อคเซ็ตเครื่องแต่งกายฮีโร่ได้ด้วยการเล่นฮีโร่ที่ขึ้นอยู่ตามเส้นทาง เป็นกิจกรรมที่เรียกได้ว่าการันตีไอเทมเพราะเงื่อนไขมีแค่เล่นฮีโร่ที่กำหนดให้ชนะไปเรื่อยๆจนถึงเส้นชัย มีชุดฮีโร่ 3 ตัวได้แก่ Slark, Nyx, และ Spirit Breaker (หมูลม)


ฟีเจอร์ใหม่ - Battle Gaunlet

Battle Gaunlet จะเป็นการเล่นเกม DOTA 2 ปกติ เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าผู้เล่นโหมด Battle Gaunlet จะต้องมีตั๋วในการเล่น (เอามาจาก Sideshop และ Battle Pass) โดยระบบจะจับคู่เรากับผู้เล่นที่มีฝีมือใกล้เคียงกัน หากเราชนะ 3 เกมได้ก่อนที่จะแพ้ 2 เกม จะได้รับรางวัลเป็น Battle Point 1,500 แต้ม และ ทอง Sideshop จำนวน 200 ทอง


ฟีเจอร์ใหม่ - The Sideshop

เป็น minigame เปิดเข้ามาเราจะเจอแถบหลัก 3 แถบคือ แถบฮีโร่ให้เลือกซื้อ แถบทองที่เรามีอยู่ปัจจุบัน และแถบให้เราผสมฮีโร่ โดยในแถบซื้อฮีโร่จะมีฮีโร่อยู่ 5 ตัวแบบสุ่ม เป้าหมายคือให้เราเลือกซื้อฮีโร่เหมือนกันจนได้ฮีโร่ 3 ดาว หลักการผสมจะเหมือนกับเกม Auto Chess คือฮีโร่ 1 ดาว x 3 = ฮีโร่ 2 ดาว, ฮีโร่ 2 ดาว x3 = ฮีโร่ 3 ดาว เมื่อเราได้ฮีโร่ 3 ดาวแล้ว เราสามารถเอาฮีโร่ที่เราผสมได้ไปแลกเป็น Gem สีแดง หรือ Gem สีฟ้า เมื่อเราสะสม Gem ได้จำนวนหนึ่ง จะสามารถเอา Gem ไปแลกเป็นของในเกมได้ ทั้ง Arcana, หีบ Immortal, และ Trust of Benefactor (รายละเอียดด้านล่าง) ได้เป็นต้น


ฟีเจอร์ใหม่ - Bounty Killing 

เป็นฟีเจอร์ที่เอามาเพื่อช่วยในการเก็บแต้ม Battle Point โดยในแต่ละสัปดาห์เราจะได้ตั๋วทำกิจกรรม Bounty Killing เมื่อใช้ตั๋วในเกม เราจะสามารถหมายหัวฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเราก็จะเห็นฮีโร่ที่ถูกหมายหัวพร้อมกับเวลานับถอยหลัง หากเพื่อนร่วมทีมของเราสามารถฆ่าฮีโร่ตัวนั้นได้สำเร็จก็จะได้แต้ม Battle Point ไป


ฟีเจอร์ใหม่ - THE GIFTS OF GIVING

ฟีเจอร์ตอบแทนคนใจกว้างที่คอยซื้อ Battle Pass ให้เพื่อนๆ The Gifts of giving เป็นฟีเจอร์เราจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราส่งซื้อ Battle Pass ให้กับผู้อื่น โดยที่เราจะได้ Battle Points และคำนำหน้าพิเศษใน Profile

ส่งให้เพื่อน 1 คน: ได้ 2,000 BP + คำนำหน้า "The Selfless"
ส่งให้เพื่อน 3 คน: ได้ 4,000 BP + คำนำหน้า "The Benevolent"
ส่งให้เพื่อน 5 คน: ได้ 10,000 BP + คำนำหน้า "The Wise"


ฟีเจอร์ใหม่ - COMMUNITY MATCH PREDICTIONS

อีกหนึ่งช่องทางในการเก็บ Battle Points โดยทีมงาน DOTA 2 จะเป็นคนเลือกเกมใดเกมหนึ่งจาก Community ให้ผู้เล่นที่ซื้อ Battle Pass ได้ทายผล โดยเราจะเห็นข้อมูลต่างๆของเกมนั้น ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ ตำแหน่งเลน และความชำนาญของผู้เล่น เมื่อทายถูกก็จะได้ Battle Points ไป ทายผิดจะไม่เสียอะไร เรียกได้ว่ามีแต่ได้กับได้ เพียงแต่อย่าลืมเข้ามาทายผลในเกมกันทุกวัน


Match MVP (Most Valuable Player)

เป็นฟีเจอร์ที่ถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ทีมงาน DOTA 2 ได้เพิ่มตัวแปรมากขึ้นในการเลือกว่าใครที่เป็นผู้เล่นเด่นประจำเกม (พร้อมกับผู้เล่นที่มีผลงานดีเด่นใกล้เคียงอีก 2 คน) โดยหนึ่งใน Acheivement ของ Battle Pass จะมี MVP นี้ด้วย หากเราเล่นได้ดีและถูกเลือกให้เป็น MVP ก็จะได้ Battle Points ไปในตัว


หน้าโหลดเกมแบบใหม่ - INTERACTIVE VERSUS SCREEN

ปกติเวลาที่หาแมทช์เจอและเลือกฮีโร่เสร็จเรียบร้อยจะมีหน้าโหลดก่อนเข้าเกม ซึ่งหน้านั้นจะมีฮีโร่ของทั้งสองทีมโดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ระบบใหม่นี้ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าฮีโร่ของเราจะแสดงท่าทาง (ตลกๆ) อะไรและพูดว่าอะไร


ฟีเจอร์ใหม่ PAUSE-SCREEN PLAYGROUND

เป็น minigame ขำๆเป็นเล่นแก้เบื่อระหว่างที่มีคนกดหยุดเกม ไม่จำเป็นต้องมี Battle Pass ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้


Wagering แบบใหม่ 

ทุกครั้งช่วงต้นเกม เราจะมีโอกาสเลือกที่จะทายว่าทีมเราจะชนะเกมนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าทายถูกเราก็จะได้แต้ม Battle Point กลับคืนมา แต่ใน Battle Pass 2020 นี้จะมี Wagering แบบใหม่คือรองรับการทายถูกแบบติดกัน (Streak system) ยิ่งทายถูกติดกันมากยิ่งได้ Battle Point กลับคืนมามาก


ASSISTANT FEATURES ฟีเจอร์ผู้ช่วย

เป็นฟีเจอร์ผู้ช่วย ที่ทำให้วิเคราะห์ฝีมือตัวเองและช่วยเล่นระหว่างเกมมากขึ้น มีเวลาแสดงตรงแคมป์ครีมป่าพร้อมกับลูกศรที่จะช่วยให้ดึงครีปหรือ Stack ครีปสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสถิติหลังแมทช์แบบละเอียดทั้ง Gold และ XP ที่ได้แบ่งตามประเภท และปริมาณฮีลแบ่งตามฮีโร่และไอเทม เป็นต้น


ฟีเจอร์อื่นๆที่มีใน Battle Pass ซีซั่นก่อนๆ

Rank Double Down: โหมดวัดใจสำหรับคนชอบเล่น Rank มีตัวเลือกให้ได้ (หรือเสีย) MMR คูณสอง

Collector's cache voting: ระบบโหวตว่าจะ Treasures ชุดไหนจะถูกนำมาขายจริง

High Five: ระบบแปะมือ โดยจะมีเอฟเฟคมือเยอะยิ่งขึ้นเมื่อ Battle Pass เลเวลสูงๆ นอกจากนี้ยังมี Acheivement ที่ให้เราแปะมือจำนวนหนึ่งแล้วได้ Battle Point อีกด้วย

In-Game Tipping: ให้ทิปกับผู้เล่นในเกม เป็นฟีเจอร์ที่สนับสนุนให้ผู้เล่นมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ดันใช้ไปในทางตรงกันข้าม

Arcana Vote: มาเป็นประจำทุกปี ในแต่ละสัปดาห์จะมีแต้มมาให้โหวตว่าฮีโร่ตัวใดจะได้รับ Arcana (เซ็ตไอเทมที่มีความพิเศษสูง) ของปีหน้า

Chat Line: ระบบแชทเสียงทั้งจากนักพากย์และซาวน์เอฟเฟคต่างๆ ใช้ปลดล็อคอารมณ์และป่วนฝั่งตรงข้าม (และฝั่งเดียวกัน) ได้เป็นอย่างดี

Recycling Immortals: ระบบรีไซเคิลไอเทมประเภท Immortal เพื่อแลกกับทอง Side Shop

Trivia: ตอบคำถามระหว่างรอหาแมทช์ ถ้าตอบคำถามถูกจำนวนหนึ่งจะสามารถปลดล็อค Acheivement ของ Battle Pass ได้ด้วย


ของรางวัลจาก Battle Pass - 2020 Immortals

ไอเทมระดับ Immortals จะได้มาจากการเปิดหีบสมบัติ Immortals ซึ่งหีบสมบัตินั้นจะได้มาจากการอัพเลเวล Battle Pass เลเวลที่ 1, 10, 22, 36, 52, 80, 220, และทุกๆ 30 เลเวลหลังจากนั้น

โดย Immortals Treasures จะมีอยู่ 3 ระดับ ขณะนี้มีเปิดเผยข้อมูลมาแล้วสำหรับ Immportal Treasure I

ระดับ Rare ปกติ

Tinker

Night Stalker

Warlock

Naix

Keeper of the Light

Medusa

ระดับ Bonus Rare

Puck

ระดับ Very Rare

Night Stalker

Naix

ระดับ Ultra Rare

Pudge

สามารถดู Animation การเคลื่อนไหวและเอฟเฟคต่างๆได้ตามวิดีโอด้านล่าง


ของรางวัล Battle Pass - Sanctums of the Divine

เป็นแผนที่ธีมศักดิ์สิทธิ์ ธีมเดียวกันกับ Battle Pass 2020 โดยแผนที่ในแต่ละปีจะเป็นไอเทมที่หมดแล้วหมดเลย สำหรับ Sanctums of the Divine ปีนี้บอกได้เลยว่าสวยมากๆ ทั้งสวย เรียบง่าย และชินตาไม่ต้องปรับตัวมากจากแมฟค่าเริ่มต้น จะสามารถรับรางวัลนี้ได้เมื่อ Battle Pass ถึงเลเวล 160


ของรางวัล Battle Pass - Persona และ Arcana

ทั้ง Persona และ Arcana นั้นคือไอเทมแต่งตัวฮีโร่ใหม่แบบยกชุด ทั้งเอฟเฟค การเคลื่อนไหว ไปจนถึงไอคอนสกิล ปีนี้มีทั้งหมด 5 ฮีโร่คือ Pudge, Anti-Mage, Wraith King, Queen of Pain, และ Windranger

เลเวล 255: Pudge - The Toy Butcher (ยังไม่มี Demo ในเกมออกมาให้ดู)

 

เลเวล 305: Anti-Mage - The Disciple's Path หรือ Anti-Mage โมเดลผู้หญิง (ยังไม่ Demo ในเกมออกมาให้ดู)

เลเวล 375: Wraith King - The One True King (มี Demo ในเกมให้ดู)

จะมีอยู่สองสไตล์คือ 1) สไตล์กระดูกสีขาว 2) สไตล์กระดูกสีแดง โดยเจ้าของ Battle Pass ทุกคนที่มีเลเวล 375 ขึ้นไปจะปลดล็อคสไตล์แรก และหากเล่นโดยใช้ Arcana ดังกล่าวไปฆ่าฮีโร่ทุกตัวในเกมอย่างน้อย 1 ครั้งได้สำเร็จ จะทำให้เราได้สไตล์แบบที่ 2 มาใช้

สไตล์กระดูกสีขาว

สไตล์กระดูกสีแดง

 เลเวล 445: Queen of Pain - Eminence of Ristul (ยังไม่มี Demo ในเกมออกมาให้ดู)

เลเวล 575: Windranger - Compass of the Rising Gale (ยังไม่มี Demo ในเกมออกมาให้ดู)


ของรางวัล Battle Pass - Living Towers

ปลดล็อคที่เลเวล 200 เป็นการเปลี่ยนโมเดลป้อมตีของเราให้เป็นมังกร (หรือไฮดร้า)


ฟีเจอร์ใหม่ - Kill Streak Effects

 

ปกติแล้วเวลามีใครที่ฆ่าฮีโร่ติดกันโดยไม่ตาย เราจะได้ยินเสียงเอฟเฟค (เช่น ฆ่า 3 ตัว = Killing Spree, ฆ่า 7 ตัว = Wicked Sick เป็นต้น) ฟีเจอร์ใหม่นี้จะทำให้ในแถบรวมฮีโร่ด้านบนตรงกลางหน้าจอมีเอฟเฟคตามการฆ่าติดต่อของเรา เช่น เปลวไฟ หรือ ไฟฟ้าสีน้ำเงินเป็นต้น โดยของรางวัล Battle Pass เลเวลสูงๆก็จะมีปลดล็อคเอฟเฟคที่อลังการยิ่งขึ้น


ฟีเจอร์ใหม่ - Ping Cosmetics

ปกติแล้วการปิงในเกมจะมีอยู่ไม่กี่แบบ เช่นปิงแบบปกติที่เป็นจุดวงกลม และปิงแบบเป็นเครื่องหมายกากบาท สำหรับ Ping Cosmetics นี้เราจะได้สัญลักษณ์ปิงแบบใหม่จากการปลดล็อค Battle Pass เช่น Ping แบบหน้ายิ้มเป็นต้น


ไอเทม Cosumable

เป็นไอเทมตลกๆ เน้นความฮาคลายเคลียดในเกม (บางคนใช้กวนประสาทผู้อื่น) ไม่มีผลต่อระบบและสกิลในเกมแต่อย่างใด สำหรับ Battle Pass 2020 นี้ มีทั้งเตะฟุตบอล เต้นดิสโก้เทค และโยนพริก

เตะฟุตบอล

เต้นดิสโก้เทค

พอกดใช้จะมีก้อนดิสโก้เทคออกมา โดยเมื่อเราบังคับฮีโร่แล้วกดคลิกขวาที่ก้อนดิสโก้นั้น ฮีโร่ของเราก็จะเต้นอัตโนมัติ

โยนพริก

เป็นการโยนพริกไปมาระหว่างฮีโร่ โดยระบบจะสุ่มเวลาว่าพริกจะแตกที่ใคร เมื่อพริกแตกที่ฮีโร่ตัวไหนแล้วก็จะมีเอฟเฟคสีแดงรอบตัวฮีโร่นั้น


ไอเทม Battle Pass - สเปรย์

ก่อนเข้าเล่นเกมเราจะสามารถเลือกสเปรย์ประจำตัวได้ โดยเมื่อเรากดใช้ ฮีโร่ของเราจะสเปรย์ลงพื้นด้านล่าง โดยสเปย์จะอยู่ตลอดทั้งเกม (อยู่ในหมอกก็เห็น) เป็นการสื่อสารไร้เสียงและตัวหนังสืออีกวิธีหนึ่ง ส่วนใหญ่ใช้ในการกวนฝั่งตรงข้าม สามารถปลดล็อคสเปรย์รูปแบบใหม่ๆที่ Battle Pass เลเวล 24, 56, 106, 163, 236, 266, 292, 313, 353, 405, 455, 515, 557, 612, 665, 725, 785, 875, 955, และ 1,305


ไอเทม Battle Pass - Taunts

Taunts คืออนิเมชันการเคลื่อนไหวประจำตัวฮีโร่ โดยเราสามารถตั้งปุ่ม Hotkey ให้ฮีโร่แสดง Taunts ได้ โดยใน Battle Pass 2020 นี้มีแต่กวนๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Bane โยนชีส, Earth Shaker ขาชี้ฟ้า, Moprhling แปลงร่างเป็นปืน, และ Ember Spirit สับเนื้อกินเป็นต้น มีฮีโร่ที่ได้ Taunts ทั้งหมด 13 ตัวดังนี้

  • เลเวล 3: Void Spirit 
  • เลเวล 18: Keeper of the Light
  • เลเวล 58: Templar Assassin
  • เลเวล 88: Bane
  • เลเวล 133: Ember Spirit
  • เลเวล 172: Morphling
  • เลเวล 222: Earth Shaker
  • เลเวล 277: Enchantress
  • เลเวล 347: Mars
  • เลเวล 412: Tinker
  • เลเวล 563: Snapfire
  • เลเวล 606: Orge Magi
  • เลเวล 835: Luna

อีโมติคอน - Emoticons 

นอกจากตัวหนังสือแล้ว ในเกม DOTA 2 เรายังสามารถใส่ Emoticons ในแชทได้อีกด้วย สำหรับปี 2020 นี้ มีอีโมติคอนเพิ่มมาใหม่ถึง 19 แบบ โดย 5 แบบได้มาจากการสะสมแต้มกิลล์และอีก 14 แบบได้มาจาก Battle Pass


แชทเสียง - Chat Wheel Sounds

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ป่วนที่สุดของเกมเลยก็ว่าได้ โดยในการแข่งระดับ The International ทีม OG ได้สแปมแชทเสียงป่วนทุกทีม จนมีทีมจีนบางทีมเลือกที่จะ Mute ทีม OG ทั้งทีม สำหรับปีนี้มีทั้งเสียงนักพายก์แบบใหม่ และแบบเดิม (เช่น Lakat Matataaaaag! Normalin Normalin) เริ่มรับไอเทมแชทเสียงได้ตั้งแต่ Battle Pass เลเวล 94 ยาวไปจนถึงเลเวล 1,245 โดยแต่ละเลเวลมักจะมีเสียงอยู่ 3 แบบ คือเสียงภาษาอังกฤษ, จีน, และรัสเซีย มีบางเลเวลเช่น เลเวล 1,245 จะได้เสียงของฟิลิปปินส์ด้วย

สามารถฟังเสียง Chat Wheel และดู Taunt ของฮีโร่ต่างๆได้ที่วิดีโอด้านล่าง


ไอเทม Battle Pass - Courier

เป็นไอเทมที่ทุกคนต้องมี โดยเฉพาะแพทช์ปัจจุบัน เพราะทุกคนต้องมี Courier (ไก่) ใช้เป็นของตัวเอง สำหรับ Battle Pass 2020 นี้จะเอาใจทาสแมวเป็นพิเศษ Courier จะเป็นแมวพร้อมกับลูกบอลของเล่น สามารถปลดล็อคได้ที่ Battle Pass เลเวล 1, 44, 108, 209, 363, 565, และ 1,205 โดยเลเวลสุดท้ายจะเป็นแมวสีทอง


Music Pack และ Announcer Pack

สำหรับปีนี้ ชาว DOTA 2 ได้ Gareth Coker เป็นผู้แต่งเพลงประกอบ The International 10 Music Pack สามารถฟังได้ที่วิดีโอด้านล่าง เป็นหนึ่งใน Music Pack ที่มีความอลังการที่สุดเลยก็ว่าได้

ในส่วนของ Annoucer Pack หรือเสียงประกอบระหว่างเล่นเกม เช่น คำว่า Triple Kill หรือ Rampage จะเปลี่ยนเป็นเสียงพากย์อย่างอื่น ปีนี้มีชื่อว่า VOICE OF THE INTERNATIONAL ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่มีตัวอย่างออกมาให้ฟัง


ไอเทม Battle Pass - เอฟเฟคโจมตีระยะไกล

เอฟเฟคที่สามารถปลดล็อคได้ที่ Battle Pass เลเวล 1,575 ทำให้ฮีโร่ตีไกลทุกตัวมีเอฟเฟคการยิงเป็นเส้นสีทอง


ไอเทม Battle Pass - Emblem of Divinity

เป็นหนึ่งในไอเทมสุดแรร์เลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละปีจะมี Emblem เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง โดย Emblem คือเอฟเฟคที่อยู่ใต้เท้าของฮีโร่ และสามารถลากยาวเป็นเอฟเฟคตามพื้นได้ สำหรับปีนี้ พื้นใต้ฮีโร่จะเป็นสีทองพร้อมกับโล้ Aegis สวยสุดๆไปเลย สามารถลุ้นรับ Emblem of Divinity ได้จากการเล่นเกมผสมฮีโร่ใน Side Shop


ไอเทม Battle Pass - Seasonal Effect

เป็นเอฟเฟคที่เกิดจากการกระทำต่างๆในเกม เช่นการกด Phase Boot, วาร์ป, บลิ๊งค์, ใช้ Shiva เป็นต้น โดยธีมใน Battle Pass 2020 นี้จะเน้นสีทองเป็นหลัก ยกเว้นเอฟเฟคคฑาฟ้า จะมีแสงสีฟ้ารอบตัว โดยความเป็นสีทองทำให้ Battle Pass ปีนี้มีความหรูเป็นพิเศษ พลาดไม่ได้จริงๆ


ไอเทม Battle Pass - Ward

การปัก Ward เป็นเรื่องที่ทุกตำแหน่งในทีมสามารถทำได้แล้ว เพราะว่าในแพทช์ปัจจุบัน Ward ประเภท Observer เป็น Ward ฟรี โดยเจ้าของ Battle Pass ทุกคนจะได้ Ward พิเศษนี้ตั้งแต่เลเวล 1 เลย


ไอเทม Battle Pass - RIVER VIALS

River Vials หรือว่าขวดเปลี่ยนสีแม่น้ำนั่นเอง โดยจะมีสีและแบบต่างๆให้เลือกที่ Battle Pass เลเวล 66, 122, 218, 365, 615, 812, และ 1,905

ที่เลเวล 1,905 จะเป็นขวดเปลี่ยนสีแม่น้ำให้เป็นสีเลือด

อย่างไรก็ตาม ที่เลเวล 122 เป็นขวดเปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นแผ่นกระเบื้องสีออกทองๆ เข้ากับแมฟ Sanctums of the Divine ของปีนี้มากๆ


ไอเทม Battle Pass - TRUST OF THE BENEFACTOR

เป็นไอเทมกล่องในกล่อง หมายความว่าใน TRUST OF THE BENEFACTOR เราจะมีโอกาสเปิดได้ Immortal Treasure I, II, III แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น เรายังมีโอกาสได้ไอเทมระดับแรร์มากๆๆๆ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Cosmically Rare ซึ่งคำว่า Cosmic แปลตรงๆคือจักรวาลหรืออวกาศ หมายความว่าโอกาสที่จะได้นั้นเป็นไปได้ยากมากๆ อาจมีโอกาสเท่ากับอุกกาบาตตกใส่บ้านเลยก็ได้

ไอเทมดังกล่าวเป็นไอเทมที่ไม่มีขายแล้ว (อาจจะมีเทรดกันอยู่ใน Market Place ที่ต้องใช้เงินจริงซื้อ ราคาสูงมากๆ) เช่น 

 

Genuine Tsukumo the Moon Cloud ราคาสูงสุดที่เคยขายได้ในตลาดคือ 1,233 ดอลลาร์ หรือประมาณ 40,000 บาท

 

Ice Baby Roshan ราคาสูงสุดที่เคยขายได้ในตลาดคือ 1,265 ดอลลาร์ หรือประมาณ 41,745 บาท

Monach Bow ของ Drow Ranger ราคาสูงสุดที่เคยขายได้ในตลาดคือ 1,996 ดอลลาร์ หรือประมาณ 65,000 บาท

สามารถดูรายชื่อไอเทม Cosmically-Rare ได้ด้านล่าง


COLLECTOR'S REWARDS

สุดท้ายคือไอเทมสุดพิเศษสำหรับเจ้าของ Battle Pass ที่มีเลเวล 1,000 และ 2,000 โดยของรางวัลคือโมเดลโล้ Aegis และโมเดล Roshan ที่ทาง Valve จะส่งมาให้ถึงหน้าบ้าน เป็นของที่ผลิตออกมาจำกัดปีต่อปีเท่านั้น ใครที่ชื่นชอบเกม DOTA 2 ถึงแม้ว่าจะไม่มีเวลาเล่นแล้วก็ตามก็สามารถหยิบโมเดลเหล่านี้มาระลึกถึงความทรงจำดีๆที่มีต่อเกมนี้ได้

แต่สำหรับแฟนๆที่เล่น DOTA 2 อยู่ นอกจากจะได้ของที่จับต้องได้แล้ว ในเกมยังมีเอฟเฟคบ่อน้ำและโรชานโมเดลใหม่พร้อมกับไอคอนพิเศษตรงแถบเลือก (Health Bar) อีกด้วย

ซึ่งจากราคา Battle Pass ด้านบน จะเห็นว่า Battle Pass 100 levels ราคาประมาณ 1,500 บาท หากจะได้โมเดล Aegis จะตกอยู่ที่ 1,500 x 10 = 15,000 บาท และโมเดล Roshan จะตกอยู่ที่ 1,500 x 20 = 30,000 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook