พรีวิว Dragon Nest 2 สานต่อตำนานมังกรเวอร์ชั่นมือถือในรูปแบบ MMORPG
วันนี้ทาง Sanook Game ของเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมอีกหนึ่งเกมที่ได้สานต่อตำนานของเกมจากแพลตฟอร์มพีซีออนไลน์สมัยก่อน ที่เชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆ คนเคยเล่นเกมนี้มาก็คือ Dragon Nest เกมนักรบดันมังกร ซึ่งในตอนแรกที่เปิดตัวถือว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะในสมัยนั้นเกมแนว MMORPG ที่ให้ลงดันเจี้ยนเป็นหลักไม่ค่อยมีแถมด้วย มอนสเตอร์ภายในเกมก็มีกิมมิคและแม็กคานิกในการเล่นเฉพาะตัว ผสมกับงานภาพสไตล์การ์ตูน และที่สำคัญคือระบบ PVP ของเกมนี้บอกเลยว่าสนุกมาก ทำให้เป็นที่น่าจดจำอย่างมาก แล้วการที่ภาคต่ออย่าง Dragon Nest 2 ที่มีการประกาศเปิดตัวไปแล้วในช่วงสัปดาห์ก่อนก็น่าสนใจไม่แพ้กันเปิดให้บริการ โดยบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent Games
Dragon Nest 2 เป็นเกมสำหรับแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยุคใหม่ไม่ได้ทำลงพีซีเหมือนกับสมัยก่อน ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Shengqu Games เดิมใช้ชื่อว่า Shanda Games ซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการแล้วในประเทศจีน ซึ่งก็ได้นำเสนอในรูปแบบ MMORPG เหมือนกับเวอร์ชั่นพีซี แต่จะมีหลายๆ จุดที่เปลี่ยนไปยกตัวอย่างเช่น เพศที่สามารถเปลี่ยนได้เดิมทีในเวอร์ชั่นพีซีตัวละครจะเป็นในรูปแบบ Fix Character ไม่สามารถสลับเพศได้ และการที่เปลี่ยนจากเกมสไตล์ลงดันเจี้ยนอย่างเดียวให้กลายเป็นเกมสไตล์ Openworld ที่เพิ่มอิสระให้กับผู้เล่นมากยิ่งขึ้น
แต่เรามีสิ่งหนึ่งที่บอกเลยว่าน่าสนใจมากก็คือการที่ตัวเกม Dragon Nest 2 สามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดของตัวละครได้ ซึ่งมันทำได้หลากหลายมากกว่าภาคเดิม แล้วประกอบกับการที่ตัวเกมมีการพัฒนาเทคโนโลยีในการสร้างทำให้ภาพกราฟิกสวยงามขึ้นกว่าเดิม เลยทำให้รู้สึกประทับใจพอสมควรเลยกับกราฟิกที่แสดงออกมาผ่านทางตัวละคร
ต่อมาเราจะมาพูดถึงหน้า In Game กันบ้างอย่างแรกเรามาเริ่มกันที่กราฟิกก่อนเลย อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าตัวเกม Dragon Nest 2 ตัวนี้ที่พัฒนาขึ้นโดย Shengqu Games ได้ออกแบบให้ตัวเกมมีความคลาสสิกใกล้กับลักษณะเดิมมากที่สุดเพราะยังไงแล้วก็ใช้ชื่อว่าภาคต่อ แต่ก็มีการยกระดับอัปเกรดให้คุณภาพกราฟิกและรายละเอียดต่างๆ คมชัดกว่าเดิม ตัวโมเดลดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่องค์ประกอบรวมๆ ก็ยังคงมีภาพสไตล์ตัวการ์ตูนอยู่ ส่วนเรื่อง Effect ต่างๆ ก็อิงมาจากเวอร์ชั่นพีซีดังนั้นแฟนๆ น่าจะฟินแน่นอน
ส่วนเรื่องของ Gameplay ก็จะเป็นการผสมผสานระหว่างเกมแนวลงดันเจี้ยนที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์นี้ที่จะต้องลงดันเจี้ยนเพื่อไปสู้กับบอสรวมไปถึงหาไอเทมคุณภาพดีๆ มากมาย ซึ่งได้ผสมเอาความเป็น Openworld เข้าด้วยกันทำให้ Content ภายในเกมไม่ได้มีเพียงแค่ดันเจี้ยนอย่างเดียว แต่จะมี Story หรือภารกิจในส่วนต่างๆ ของแผนที่ด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจโคตรๆ ถ้าเอามาเปิดเป็นภาษาไทยยังไงก็ต้องเล่น