Fortnite โดนถอดออกจาก App Store และ Google Play Store
ข่าวร้อนมาแรง Fortnite ถูก Apple และ Google แบนจากสโตร์ของตน มีการฟ้องร้องกัน มันเกิดอะไรขึ้น? เรามาดูที่มาของเหตุการณ์นี้กันเถอะ
Fortnite ไปทำอะไรให้ Apple โกรธ?
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา Epic Games ได้โพสต์เกี่ยวกับระบบการจ่ายเงินในแอปโดยตรงสำหรับทุกแพลตฟอร์ม ระบบนี้ชื่อว่า Fortnite Mega Drop เป็นระบบใหม่ที่จะทำให้ผู้เล่นที่ซื้อ V-bucks (หน่วยเงินในเกม) ได้ลดราคาถึง 20% แบบถาวร ถ้าเป็นบน PC หรือเครื่องคอนโซล เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่บนมือถือมันไม่จบง่าย ๆ แน่
สำหรับท่านที่ไม่ทราบ App Store และ Google Play Store จะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากการซื้อขายภายในเกมบนแพลตฟอร์มของพวกเขา แต่ระบบการจ่ายเงินใหม่ของ Fortnite เป็นการให้ตัวเลือกแก่ผู้เล่นว่าเลือกที่จะซื้อผ่าน Apple หรือ Google ในราคาเดิม หรือจะจ่ายราคาที่ถูกลงแก่ Epic Games โดยตรง การเปิดระบบจ่ายเงินโดยตรงที่จะทำให้ Apple ไม่ได้รับค่าธรรมเนียมนี้เป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของ Apple
ทำไม Fortnite จึงถูกถอดออกจาก App Store และ Google Play Store?
เพื่อเป็นการโต้ตอบที่ Epic Games ดำเนินการเปิดระบบจ่ายเงินโดยตรงนี้โดยไม่ขออนุญาต Apple ก่อน ทาง Apple จึงถอด Fortnite ออกจาก App Store
ในการแถลงการณ์ Apple กล่าวว่า “วันนี้ Epic Games ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ของ App Store ซึ่งใช้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันและออกแบบมาเพื่อให้สโตร์ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ของเรา ด้วยเหตุนี้ Fortnite จึงถูกถอดออกจากสโตร์ของเรา Epic Games ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบหรือการอนุมัติของเรา และพวกเขาทำเช่นนั้นด้วยเจตนาชัดเจนที่จะละเมิดหลักเกณฑ์ของ App Store เกี่ยวกับการชำระเงินในแอปซึ่งใช้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคนที่ขายสินค้าหรือบริการดิจิทัล” อย่างไรก็ตาม Apple กล่าวเพิ่มเติมว่า “จะพยายามอย่างเต็มที่ในการทำงานร่วมกับ Epic เพื่อแก้ไขการละเมิดเหล่านี้ เพื่อให้ Fortnite สามารถกลับไปใน App Store ได้”
ทาง Google เองก็ดำเนินการถอด Fortnite ออกจาก Google Play Store ในการแถลงการณ์ Google กล่าวว่า “ระบบนิเวศของ Android แบบเปิดช่วยให้นักพัฒนาเผยแพร่แอปผ่านหลาย ๆ สโตร์ได้ สำหรับนักพัฒนาเกมที่เลือกใช้ Play Store เรามีนโยบายที่คงเส้นคงวาซึ่งเป็นธรรมกับนักพัฒนาและทำให้สโตร์ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ แม้ว่า Fortnite จะยังคงใช้งานได้บน Android แต่เราไม่สามารถให้บริการบน Play Store ได้อีกต่อไปเนื่องจากการละเมิดนโยบายของเรา อย่างไรก็ตาม เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะพูดคุยกับ Epic ต่อไปเพื่อนำ Fortnite กลับมาใน Google Play”
แล้วทำไม Epic Games ถึงฟ้องร้อง Apple และ Google?
ชัดเจนว่า Epic Games คาดการณ์การตอบสนองของ Apple ต่อการกระทำของตนไว้แล้ว ในขณะที่แฮชแท็ก #FreeFortnite และคลิปวีดีโอ Nineteen Eighty-Fortnite กำลังติดเทรนด์ Epic Games ก็ได้ยื่นฟ้องร้อง Apple โดยกล่าวว่า “ยุติการกระทำและต่อต้านการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรมของ Apple ที่ซึ่ง Apple ดำเนินการเพื่อรักษาการผูกขาดอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายในสองตลาดที่แตกต่างกันและมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์: (i) ตลาดการจัดจำหน่ายแอป iOS และ (ii) ตลาดการประมวลผลการชำระเงินในแอป iOS”
ส่วนการแถลงการณ์ต่อ Google กล่าวไว้ดังนี้ “Google กำลังใช้ขนาดขององค์กรเพื่อทำสิ่งชั่วร้ายต่อคู่แข่ง ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม ลูกค้า และผู้ใช้ในตลาดจำนวนมากซึ่งเติบโตจนผูกขาดทุกสิ่ง”
ต่อมา Epic Games ได้ถือโอกาสนำเสนอความคิดของตัวเองเกี่ยวกับพฤติกรรมของยักษ์ใหญ่มือถืออย่าง Apple โดยกล่าวว่า “จุดยืนของ Epic คือนักพัฒนาอุปกรณ์เคลื่อนที่และผู้บริโภคทุกคนควรมีสิทธิ์เลือกผู้ให้บริการการชำระเงินรายอื่นที่เรียกเก็บเงินน้อยกว่า เช่นเดียวกับบรรทัดฐานบนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปอื่น ๆ ทั้งหมดรวมถึงเว็บ Windows และ Mac เราคาดหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยทั่วไปในแนวทางปฏิบัติของสมาร์ทโฟนทั่วทั้งอุตสาหกรรมสำหรับนักพัฒนาทุกคนซึ่งนำคุณค่าและอิสระในการเลือกมาสู่ผู้บริโภคมากขึ้น เราคาดหวังว่า Apple จะปลดบล็อค Fortnite”
เหตุการณ์นี้มีความสำคัญกับผู้บริโภคแค่ไหน?
การผูกขาดขององค์กร ๆ หนึ่งแปลได้ว่าผู้บริโภคมักไม่มีทางเลือก ถ้าองค์กรนี้บอกว่าจะขายของชิ้นนี้ในราคาแพง ผู้บริโภคเลือกได้แค่ว่าจะซื้อราคาสุดโหดนี้หรือไม่ซื้อเลย ในขณะที่ถ้าไม่มีการผูกขาด ผู้บริโภคจะสามารถเลือกได้ว่าอยากซื้อจากร้านไหน หลาย ๆ ร้านก็ต้องแข่งขันในเรื่องของราคา หรือคุณภาพสินค้าเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของตน ซึ่งนี่ก็คือจุดยืนของ Epic Games ที่ต้องการให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างและยุติธรรม แล้วผลประโยชน์จะตกอยู่ที่นักพัฒนาและผู้บริโภคเอง