Resident Evil 7 เป็นเกมที่ขายดีอันดับ 2 ตลอดกาลของ CAPCOM

แฟรนไชส์วิดีโอชื่อดังจากค่าย CAPCOM ที่ถือว่าเป็นบริษัทที่ทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะบริษัทนี้มีเกมภายในเครือมากมายไม่ว่าจะเป็น Street Fighter, Devil May Cry, Monster Hunter, Dino Crisis หรือ Rockman เป็นต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของเกมทั้งหมดที่ CAPCOM เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั่นเอง แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงแฟรนไชส์อย่าง Resident Evil เกมสไตล์สยองขวัญแนว Horror จากค่ายนี้ที่ถูกพัฒนามาแล้วหลายภาคนับตั้งแต่อดีตถ้านับภาคหลักก็มาถึงภาค 8 แล้วอย่าง Resident Evil Village หรือก่อนหน้านี้ก็มีการเอาเกมภาคเก่าๆ มาทำเวอร์ชั่น Remake ใหม่ว่าจะเป็นภาค 2 หรือ 3 แต่ได้ข่าวลือว่าอาจจะมีเวอร์ชั่น Remake อีกภาคแต่ภาคไหนต้องรอติดตามกัน

แต่ใครจะคิดว่าเกม Resident Evil 7: Biohazard เปิดวางขายในช่วงต้นปี 2017 จะเป็นเกมที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับที่สองของค่าย CAPCOM ซึ่งมียอดขายกว่า 7,900,000 ชุดถึงแม้ว่าจะไปเทียบกับอันดับหนึ่งอย่าง Monster Hunter World ที่ขายไปกว่า 16,100,000 ชุดไม่ก็ตามที ในภาคที่ 7 ซึ่งทางผู้พัฒนาได้พยายามนำเสนอเกมให้กลับเป็นไปเกมสยองไขปริศนาสยองขวัญแบบเกมภาคแรกๆ ที่ในช่วงภาคหลังๆ จะเน้นความเป็น Action เกินไปจนทำให้เสน่ห์ของซีรี่ส์หายไปพอสมควร

แต่ถ้าหากมอง 5 อันดับแรกของเกมที่ขายดีที่สุดของค่ายนี้แล้วละก็ 4 ใน 5 เป็นเกมจากแฟรนไชส์ Resident Evil ทั้งหมด อันดับ 3 เป็น Resident Evil 5 อันดับ 4 Resident Evil 6 และ อันดับที่ 5 เป็น Resident Evil 2 Remake ทำให้แสดงให้เห็นว่าเกมเมอร์ก็ยังคงคาดหวังที่จะได้สนุกไปกับการเอาตัวรอดตามสไตล์เกมสยองขวัญของแฟรนไชส์นี้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าการวางขายในแต่ละรอบอาจจะโดนด่าหรือติชมไม่ค่อยพอใจก็ตามที 

ส่วนหนึ่งของความนิยมนี้ส่วนตัวคิดว่ามันสืบเนื่องมาจากการที่ตัวซีรี่ส์ Resident Evil ถูกจับไปทำเป็นภาพยนตร์ Hollywood ถึง 6 ภาคด้วยกันเริ่มตั้งแต่ปี 2002 ได้ออกฉายภาคแรกและภาคสุดท้ายในปี 2016 นับเวลาร่วม 14 ปีของการสร้างจักรวาลของหนัง ซึ่งผมคิดว่ามันช่วยทำให้ส่งผลกับยอดขายของเกมเวอร์ชั่นต่างๆ ด้วยเช่นกันถึงแม้ว่าในเนื้อเรื่องของจักรวาลภาพยนตร์จะไม่ตรงกับเวอร์ชั่นเกมก็ตามที แล้วในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะออกวางจำหน่ายในปี 2021 นี้อย่าง Resident Evil Village เป็นภาคที่ทาง CAPCOM ได้โม้ไว้ว่าจะเป็นภาคที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ทำมา ก็คงต้องบอกได้คำเดียวว่า “ต้องรอดู”