Bloodstained: Ritual of the Night ประกาศวันวางจำหน่ายมือถือ

ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีการประกาศเปิดตัวเกมโทรศัพท์มือถือใหม่ที่มีการพอร์ตมาจากเกมแพลตฟอร์มอื่นซึ่งเคยเปิดให้บริการไปแล้วทั้ง Playstation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ Windows PC ซึ่งทาง NetEase Games ได้เตรียมนำมาเปิดให้เล่นกันในโทรศัพท์มือถือที่สะดวกเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเป็นการร่วมมือกับทางผู้พัฒนาเกม ArtPlay

ซึ่งตัวเกมในเวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือจะเป็นระดับพรีเมียมที่ได้รวบรวมเอา DLC จากเวอร์ชั่นอื่นๆ ทั้งหมดมารวมกันในเวอร์ชั่นนี้ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเนื้อหา Content ต่างๆ จะต้องออกมาดูดีอย่างแน่นอน แล้วหลังจากที่เปิดตัวไปล่าสุดก็ได้มีข่าวดีมาอัปเดตให้แฟนๆ ที่รอคอยกันอยู่ด้วยพูดถึงช่วงเวลาที่จะเปิดให้บริการนั่นเอง

ซึ่งทาง NetEase Games และ ArtPlay ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเกม Bloodstained: Ritual of the Night จะทำการเปิดวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคมภายในปี 2020 ส่วนวันไหนยังไม่ระบุที่แน่นอนแต่จะวางขายพร้อมกันทั้ง App Store และ Google Play Store ราคาจะอยู่ที่ 9.99 เหรียญสหรัฐฯหรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300 บาทก็ถือว่าไม่แพงมาก สำหรับเกมนี้ได้ถูกขนานนามว่าเป็นเกมสืบทอดทางจิตวิญญาณของซีรีส์ Castlevania เกมเก่าสมัยปี 1986 ที่ทาง Konami ปล่อยออกมาให้เล่นกันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมแนว ผจญภัยสยองขวัญ วิดีโอที่เกี่ยวกับนักล่าแวมไพร์ที่งานภาพจะย้อนยุคเก่าๆ ประมาณนี้แหละ

---

อัลบั้มภาพแนะนำ

---

Bloodstained: Ritual of the Night เป็นเกมแนว Action RPG ที่มีงานภาพในลักษณะ 2D คลาสสิกแต่ก็มีกลิ่นอายของสมัยใหม่อยู่ด้วยบ้างเล็กน้อยเพื่อให้เกมดูไม่ตกยุค ซึ่งจะมีการออกแบบที่ให้เหมาะสมกับเกมฉบับโทรศัพท์มือถือมีการออกแบบอินเทอร์เฟซผู้ให้ผู้ใช้งานสนุกได้ง่ายที่สุด ตัวเกมจะมีมอนสเตอร์และศัตรูระดับบอสให้พบเจอกว่า 120 ตัว รวมไปถึงอาวุธประเภทต่างๆ ให้ปรับเปลี่ยนกว่า 107 ชิ้นและทักษะความพิเศษกว่า 23 แบบที่จะปรากฏในเกมและด้วยปุ่มทางลัดใหม่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาวุธและอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นเกมดังกล่าวจะรองรับภาษาได้แก่ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมัน, สเปน, รัสเซีย, โปรตุเกส และ ภาษาเกาหลี 

ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชอบการเล่นเกมแนวผจญภัยก็ต้องเรียนตามตรงว่าเกมนี้น่าสนใจ แต่หากไม่ชอบเกมที่มีงานภาพแบบ 2D ออกแนวคลาสสิกอาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เพราะเกมมันค่อนข้างภาพสมัยเก่าผสมสมัยใหม่เล็กน้อย แต่ภาพรวมก็ยังถือว่าเป็นเกมที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิคอยู่