ลับสุดยอด! 15 เทคนิคที่ชาวไวกิ้งควรรู้ใน Assassin's Creed Valhalla
Assassin's Creed Valhalla ได้ให้ผู้เล่นผจญภัยออกเดินทางในฐานะชาวไวกิ้งในโลกกว้าง ที่เต็มไปด้วยศัตรูให้ต่อสู้และความลับให้พบเจอ แต่หากจะบอกว่าเทคนิคการเล่นนั้นก็คือการออกเดินทางเก็บของไปเรื่อยๆ ก็คงจะเป็นการแนะนำเรื่องพื้นฐานของเกมที่รู้กันอยู่แล้ว และดูจะไม่มีเป้าหมายว่าควรทำไปทำไม เราจึงจะมาแนะนำ 15 เทคนิคเคล็ดลับพิชิตชาวไวกิ้งเพื่อการมุ่งสู่ Valhalla ที่รวบรวมมาให้คุณได้รู้กันที่นี่ที่เดียวเท่านั้น!
1. เปลี่ยนการตั้งค่าปุ่ม
สิ่งแรกที่ผู้เล่นควรทำ ไม่ใช่การกดเริ่มเกมในทันที เพราะว่าตัวเกมนั้นได้มีการตั้งค่าปุ่มเอาไว้ให้ใช้งานทุกปุ่ม เราจึงขอแนะนำให้ผู้เล่นเข้าไปตั้งค่าปุ่ม Special Attack ให้เป็นปุ่มเดียวกับปุ่มโจมตี ซึ่งจะทำให้การใช้ท่า Special Attack สังหารศัตรูนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ต่อเนื่องพร้อมกับการโจมตีทันที โดยที่ไม่ต้องคอยกดสลับปุ่มให้วุ่นวาย
2. พัฒนาชุมชน
ในช่วงแรกของเกม ผู้เล่นสามารถนำทรัพยากรที่มีมาพัฒนาชุมชนของชาวไวกิ้งได้อย่างจำกัด จึงขอแนะนำให้เลือกพัฒนาร้านค้าที่จำเป็นก่อน อย่างเช่น Hidden Ones Bureau ของ Hytham ซึ่งจะทำให้เขาเปิดภารกิจลอบสังหารกับศัตรูที่ผู้เล่นได้พบเจอระหว่างทางได้ ส่วนร้านอื่นที่ผู้เล่นคิดว่าไม่จำเป็นต้องรีบใช้งานอย่าง ร้านรอยสัก หรือ ร้านที่จะช่วยเพิ่มค่าสถานะตัวละคร ก็สามารถเก็บไว้พัฒนาทีหลังได้ เพราะร้านพวกนี้จำเป็นต้องเสียเงินหลังจากเปิดใช้งานแล้วด้วย อีกทั้งผู้เล่นควรระวังไม่ใช้ทรัพยากรหมดในทีเดียว เพราะอาจจะเจอร้านที่จำเป็นต้องพัฒนาเมื่อถึงเวลาได้
3. การใช้ธนู
ธนู ในเกมนั้นมีหลายแบบ ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ธนูที่ไม่ได้มีเพียงแต่แบบเล็งยิงตามปกติเพียงอย่างเดียว และหนึ่งในการใช้ธนูที่หลายคนอาจไม่รู้ คือการที่เราสามารถเล็งธนูได้แบบ Slow Motion ในระหว่างที่กำลังกระโดดลงมาจากที่สูงได้ แต่นี่เป็นเทคนิคที่หลายคนอาจไม่ได้ใช้งานกันเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่ทุกคนน่าจะหยิบขวานคู่ใจเข้าไปลุยกับศัตรูเลยมากกว่า แต่หากฝึกใช้ให้ดีแล้วบางครั้งก็อาจจะเป็นประโยชน์ได้เหมือนกัน
4. เก็บของจากบนหลังม้า
การขี่ม้าในเกมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกระหว่างการเดินทางไกลได้มาก ซึ่งเราสามารถเก็บของที่หล่นอยู่ในระหว่างที่ขี่ม้าอยู่ได้ทันที ซึ่งนั่นรวมถึงแร่ Iron Ore ที่สามารถใช้ม้าเหยียบทำลายหิน และเก็บมาได้ทันทีโดยที่ต้องลงจากหลังม้าก่อนให้เสียเวลา ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเทคนิคง่ายๆ แต่เชื่อเถอะว่าบางคนไม่รู้ว่ามีวิธีที่สามารถเก็บของได้อย่างง่ายดายแบบนี้อยู่ด้วย
5. ขี่ม้าข้ามแม่น้ำ
ในระหว่างการเดินทาง บางครั้งผู้เล่นก็จำเป็นที่จำเป็นต้องข้ามแม่น้ำอีกฝั่งเพื่อไปยังจุดหมาย ครั้นจะเรียกกองเรือมาเพื่อให้ช่วยพาข้ามแม่น้ำไปนิดเดียวก็เสียเวลาเกินไป แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อผู้เล่นเปิดคอกม้า Stable and Aviary ในชุมชนไวกิ้งของตัวเอง ซึ่งที่นี่จะทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกอัพเกรดความสามารถของม้า ให้สามารถวิ่งได้นานขึ้น เร็วขึ้น และสามารถว่ายน้ำข้ามแม่น้ำได้ด้วย แต่ก่อนที่จะอัพเกรดความสามารถของม้าได้ทั้งหมด ก็ควรจะมีเงินติดตัวอยู่พอสมควรก่อน
6. ตามล่าเก็บทุกอย่างเท่าที่ทำได้
ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ การเก็บของข้างทาง หรือการล่าสัตว์ ทั้งสัตว์บนและสัตว์ทะเล ก็ล้วนทำให้ผู้เล่นได้ทรัพยากรที่จำเป็นมาใช้ในภายหลังทั้งนั้น เพราะเมื่อผู้เล่นได้เล่นไปจนสามารถเปิดร้านล่าสัตว์หรือร้านตกปลาได้แล้ว ผู้เล่นก็สามารถนำทรัพยากรที่เก็บสะสมมา เพื่อนำมาแลกรับรางวัลได้ หรือในบางครั้งนั้นก็มีเควสต์ที่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่หาเก็บมาได้เป็นจำนวนมากอยู่ เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ เจออะไรก็ควรเก็บเอาไว้ให้หมดก่อนจะดีที่สุด
7. สถานที่เพิ่ม Exp จำนวนมาก
ผู้เล่นจะได้รับ Exp เพื่อเพิ่มแต้มสกิลในการพัฒนาตัวละครได้ส่วนใหญ่จากการเก็บของหรือการทำเควสต์ในโลกกว้าง แต่ในช่วงแรกนั้นผู้เล่นไม่จำเป็นต้องลงทุนเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อทำเควสต์ทั้งหมดในทันที เพราะหากเล่นไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ผู้เล่นจะได้พบสถานที่ที่จะช่วยเพิ่ม Exp ที่ได้รับจากการออกสำรวจเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว (ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นช่วงไหนหรือสถานที่อะไร แต่เมื่อผู้เล่นได้เล่นไปถึงแล้วจะสามารถรู้ได้เองทันที เพราะผู้เล่นจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในสถานที่นั้นเป็นเวลานานพอสมควร)
8. เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวเองก่อน
Leather และ Iron Ore เป็นทรัพยากรที่ผู้เล่นสามารถพบได้มากที่สุดในเกม ซึ่งมันสามารถนำไปพัฒนาอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ได้ แต่ก่อนที่จะใช้จนหมด ผู้เล่นควรเก็บเอาไว้อัพค่าพลังชีวิตให้ตัวเองก่อน เพื่อที่จะรับมือกับการต่อสู้กับศัตรูที่เก่งขึ้นได้มากขึ้น และมันยังต้องใช้ทรัพยากรที่มากอีกด้วย ส่วนอาวุธนั้นเอาไว้ให้ผู้เล่นได้อาวุธที่ใช่สำหรับตัวเองมาใช้แล้ว ค่อยเอามาอัพเกรดทีหลังก็ยังไม่สาย
9. เพิ่มช่อง Adrenaline
Adrenaline เป็นแถบความสามารถการใช้ Abilities ที่จำเป็นในการต่อสู้เช่นเดียวกับการเพิ่มพลังชีวิต ซึ่งหลังจากได้แต้มสกิลมาแล้ว ผู้เล่นสามารถนำมาอัพสกิลที่เกี่ยวข้องกับ Adrenaline ได้ หรือถ้าหากเจอเส้นทางที่ทำให้เพิ่มจำนวนช่องของ Adrenaline ได้มากขึ้น ก็สามารถเลือกกดอัพเกรดได้โดยที่ไม่ต้องลังเล เพราะนั่นหมายความว่าผู้เล่นจะสามารถใช้งานท่าโจมตีพิเศษในการต่อสู้ได้มากขึ้นด้วย
10. กลายเป็นยอดแร็ปเปอร์
การ Flyting หรือการแข่งขัน Rap Battle แบบชาวไวกิ้งนั้น เป็นมินิเกมที่ผู้เล่นจะได้พบเจอเมื่อไปถึงเมืองใหม่ๆ ซึ่งผู้เล่นธรรมดาอย่างเรานั้นอาจเข้าไม่ถึงการเลือกตอบคำถามได้มากนัก แต่นี่เป็นมินิเกมที่สำคัญมากที่สุด เพราะจะช่วยเพิ่มเลเวลทักษะการเลือกตอบที่ดีขึ้น ในการเล่นภายหลังได้ เพราะงั้นผู้เล่นจึงควรไปท้าแข่งกับแร็ปเปอร์ทุกคนที่เจอระหว่างทาง พร้อมทำการชนะทุกคนให้หมดให้ได้ และแนะนำว่าให้วางเงินเดิมพันเอาไว้สูงที่สุด เพื่อที่จะได้รับกำไรตอบแทนกลับมาเป็นเท่าตัวหลังจากที่แข่งชนะแล้ว
11. เปิดตาราง Skills
Skill ในเกมนั้นได้มีการแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางด้วยกัน ซึ่งข้อดีของระบบการอัพสกิล คือผู้เล่นสามารถเลือก Reset แต้มที่เคยใช้ไปแล้วใหม่ได้ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้ผู้เล่นสามารถทดลองเปิดเส้นทางใหม่ๆ เพื่อดูว่าในแต่ละเส้นทางนั้นมีสกิลอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง และสามารถเน้นไปที่การอัพสกิลที่จำเป็นหรือต้องการใช้ได้ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่าช่วงแรกนั้นควรจะอัพสกิลไหนก่อนดี ทางเราก็ได้เคยมีทำบทความแนะนำเอาไว้แล้ว
12. การลอบสังหาร
ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะเป็นนักรบไวกิ้ง ที่สามารถหยิบขวานต่อสู้อย่างดุเดือดได้ด้วยตัวคนเดียว แต่การใช้เทคนิค "ลอบสังหาร" ตามแบบฉบับของเกม Assassin's Creed ก็มีความจำเป็นอยู่พอสมควร เพราะมันสามารถช่วยให้เราสามารถจัดการศัตรูที่แข็งแกร่ง หรือเป้าหมายได้ในการลอบสังหารเพียงครั้งเดียว แต่การจะเป็นนักลอบสังหารได้นั้นผู้เล่นจำเป็นต้องมีสกิล Advanced Assassinations ที่จะช่วยให้สามารถลอบสังหารศัตรูได้แทบทุกรูปแบบด้วย
13. พกธนูระเบิดติดตัวไว้เสมอ
Abilities ที่มีชื่อว่า Incendiary Powder Trap เป็นความสามารถที่จำเป็นมาก และผู้เล่นจะได้มีโอกาสใช้ในการสำรวจบ่อยตลอดทั้งเกม เพราะเดิมทีแล้วความสามารถนี้คือการยิงธนูระเบิดออกไป แต่มันก็สามารถนำมาใช้ระเบิดทางของที่ซ่อนสมบัติลับที่ถูกปิดทางอยู่ได้ด้วย โดยความสามารถนี้จะได้รับมาจากการเก็บหนังสือ Book of Knowledge ซึ่งอยู่ที่โบสถ์ใน Halden ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของ Ravensburg และเป็น Abilities อันแรกๆ ที่ผู้เล่นสามารถหาเก็บได้ตอนช่วงแรกของเกม แต่การจะใช้งานนั้นแน่นอนว่าผู้เล่นก็ต้องมีจำนวนลูกธนู และแถบ Adrenaline ไว้พร้อมสำหรับการใช้งานตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
14. สามัคคีคือพลัง
ในบางครั้ง Eivor ก็ไม่ได้ต่อสู้คนเดียว เพราะบางครั้งจะมีตัวละคร NPC ร่วมเดินทางไปทำเควสต์ด้วยกันด้วย นั่นจึงเป็นโอกาสที่ผู้เล่นสามารถพามิตรสหาย ไปต่อสู้ร่วมกันได้ในขอบเขตที่ไม่ไกลมากเกินไปจากเส้นทางเควสต์ที่กำหนด หรือหากผู้เล่นเจอศัตรูที่เก่งกว่าจนยากจะรับมือ แต่สถานที่ต่อสู้นั้นอยู่ใกล้แม่น้ำ ผู้เล่นก็สามารถเป่าแตรเรียกกองเรือของตัวเองมาได้ ซึ่งลูกเรือเราจะคอยช่วยยิงธนูสนับสนุนให้จากบนเรือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยลดความเสียหายได้มาก แต่ก็ช่วยทำให้ศัตรูเสียหลัก และเปิดช่องว่างให้เราโจมตีพลิกเกมได้มากขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่การรุมแบบหมาหมู่ แต่เป็นพลังของมิตรภาพยังไงล่ะ!
15. เล่นเกมทุกวัน
สำหรับผู้ที่เชื่อมต่อ Internet ระหว่างการเล่น เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งแล้วผู้เล่นจะได้พบกับ Reda ที่ค่ายไวกิ้งของตัวเองหรือที่เมืองต่างๆ ซึ่งเขาจะมีไอเท็มพิเศษมาให้แบบสุ่มตามเวลา และจำเป็นต้องใช้ Opal จำนวนมากแลกมา ซึ่งเจ้า Opal นี้สามารถหาได้จากการสำรวจ หรือการทำเควสต์สังหารเป้าหมายที่ Reda จะมอบให้รายวัน นั่นจึงทำให้ผู้เล่นควรที่จะเข้ามาเล่นเกมทุกวัน เพื่อทำเควสต์ของ Reda สะสม Opal เอาไว้แลกของพิเศษเมื่อถึงเวลาด้วยนั่นเอง
และนี่คือเทคนิคเคล็ดลับที่เราได้รวบรวมมาแนะนำให้ชาวไวกิ้งทุกคน ซึ่งผู้เล่นสามารถนำไปใช้เพิ่มความสนุกหรืออาจจะพบกับเทคนิคเพิ่มเติมด้วยตัวเอง ได้ในเกม Assassin's Creed Valhalla ที่ได้วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series X/S, Xbox One, และ PC
Skal!