ฟ้องแล้ว! กลุ่มผู้เสียหายจากดราม่า Hastag Esports เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท

จากกรณีที่ในช่วงสุดสัปดาห์มีดราม่าร้อนแรงบนโลกออนไลน์แบบข้ามคืน จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขั้นทาง Hashtag Esports ได้ประกาศยุติบทบาททางด้านอีสปอร์ต ล่าสุด เหล่าผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหา โดยวันนี้ (14 ธันวาคม) คุณวรรณวรี ตะล่อมสิน สส. กทม. เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยคุณคริส โปตระนันทน์ ทนายของพรรคฯ และ คุณชุติพงศ์ พิภพภิญโญ รองประธานอนุกรรมการเกมและอีสปอร์ต  พาผู้เสียหายจำนวน 7 คน เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท

คุณวรรณวรี ตะล่อมสิน (เสื้อขาว) คุณคริส โปตระนันท์ ขวาสุด

คุณวรรณวรี ตะล่อมสิน สส. กทม. เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าในฐานะของหนึ่งในกรรมาธิการของวงการเกมและอีสปอร์ต มี 2 เรื่องที่ตั้งใจพาผู้เสียหายมาแจ้งความในวันนี้ เรื่องแรกคือที่พาเหล่าเด็กผู้หญิงโดนลวนลามทางร่างกาย มาเพื่อให้รู้สิทธิของตัวเองว่าไม่มีใครควรจะโดนแบบนี้ รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็นผู้มีอำนาจที่ทำให้เด็กๆ เหล่านี้ลำบากใจที่จะต้องเข้ามาแจ้งความด้วยตนเอง ส่วนอีกเรื่องคืออยากให้สังคมรับรู้ว่าอุตสาหกรรมอีสปอร์ตยังไม่ได้รับการรับรองสิทธิของผู้ที่ทำงานอยู่ในด้านดังกล่าวเหมือนกับด้านอุตสาหกรรมทั่วไป อยากให้แรงงานเหล่านี้ได้รับการรับรองเหมือนกับคนทำงานด้านอื่นทั่วไป

 

คุณคริส โปตระนันทน์ ทนายของพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กล่าวว่า เหล่าผู้เสียหายมีความมุ่งหวังอยู่ 2 ประการคือ 1. ต้องการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ อนาจาร ส่วนเรื่องข่มขืนนั้นจะให้ทางเจ้าหน้าที่ฯ พิจารณาวาเข้าใกล้หรือไม่อย่างไร 2. มีการบังคับข่มขู่ ให้กระทำการใดๆ หรือไม่กระทำการใดๆ โดยใช้อำนาจของเจ้าของค่ายฯ ในการข่มขู่ว่าจะทำให้เสียชื่อเสียง ไม่มีอนาคตในวงการฯ หรือทำให้เสียผลประโยชน์ตอบแทน โดยผู้ว่าจ้างกระทำการดังกล่าว ผู้เสียหายเหล่านี้จึงอยากมาเรียกร้องสิทธิของตัวเอง

ด้าน น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเหยื่อไม่กล้าที่จะพูด กลัวว่าจะถูกข่มขู่ ทำร้าย และไม่มีอนาคต แต่พอเรื่องได้ดำเนินมาถึงจุดนี้ตนก็อยากเป็นหนึ่งในเหยื่อที่จะออกมาพูดว่าทั้งหมดนี้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อยากให้สังคมรับรู้ และตระหนักว่ามีผู้มีอำนาจพยายามกดขี่ข่มเหง คุกคาม โดยในช่วงแรกผู้ถูกกล่าวหาได้มาสร้างความเชื่อในให้ในระดับหนึ่ง และจะค่อยๆ เขยิบเข้าไป ซึ่งเหตุการณ์ของแต่ละบุคคลนั้นจะไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็จะลงเอยด้วยการถูกคุกคามเช่นเดียวกัน

 

ในส่วนของตนนั้นตอนแรกได้เชื่อใจผู้ถูกกล่าวหาโดยเห็นว่าเป็นพี่ชายคนหนึ่ง โดยได้บอกว่ามีวัตถุประสงค์ที่อยากจะผลักดันเหล่าสตรีมเมอร์ได้มีโอกาสเติบโตในด้านการทำงาน รวมทั้งพัฒนาวงการเกมไทยให้ดีกว่านี้ ตนจึงทำสัญญามาอยู่ในสังกัดนี้ แต่พอมาถึงวันที่ได้อยู่กันเพียงลำพัง ก็ถูกดึงเข้าไปกระทำชำเรา โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว หลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตนก็พยายามที่จะเลี่ยงออกมา หลังจากนั้นก็ถูกผู้ถูกกล่าวหาได้ขู่ว่า หากไม่ทำตามที่ต้องการจะทำให้ไม่สามารถอยู่ได้ในวงการอีสปอร์ต ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องแล้วที่ตนไม่ออกมาเรียกร้อง เนื่องจากตอนนั้นตนได้พยายามพูดกับคนอื่นที่อยู่ในสังกัด แต่ได้รับการพูดปกป้องทางเจ้าของสังกัดว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น อะไรที่ทนได้ยอมได้ ก็ยอมทนไปเถอะ อย่างน้อยก็เพื่อเรื่องงานของเรา ทั้งนี้หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ตนก็มองว่าเป็นโอกาสดีที่ตนจะได้มาเปิดความจริงให้ผู้อื่นรู้ เนื่องจากหลังจากที่ตนโดนแล้ว ก็มีเด็กใหม่ที่เข้าสังกัดก็จะโดนในรูปแบบเดิมๆ ซึ่งตนได้ไปถามเพื่อนร่วมค่ายคนอื่นก็พบว่ามีผู้ที่ถูกกระทำแบบเดียวกันมากกว่า 20 คน

คุณชุติพงศ์ พิภพภิญโญ รองประธานอนุกรรมการเกมและอีสปอร์ต สมาชิกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตนได้หาข้อมูลและสังเกตว่าค่ายฯ ของผู้ถูกกล่าวหานั้นประสบภาวะขาดทุนมาตลอด แต่กลับมีเงินที่สามารถใช้จัดแข่งทัวร์นาเม้นต์อีสปอร์ตที่มีเงินรางวัลรวม 5 แสน บาทเกือบทุกเดือน ซึ่งผู้ก่อเหตุได้มีการขู่ผู้เสียหายว่ามีการอวดอ้างว่า มีผู้หนุนหลังเป็นคนใหญ่คนโตในวงการการเมือง ที่พร้อมจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่างทางผู้เสียหายจึงกังวลที่จะออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งอาชีพสตรีมเมอร์นั้นมีสังกัดได้ มีเนื้อหาในทางกฎหมายว่าสามารถทำรายได้ให้ประเทศได้ แต่ภายใต้โอกาสใหม่ที่ได้รับกลับมีคนใช้พื้นที่นี้ในการแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งเรื่องของเงินทอง ชื่อเสียง ซึ่งทำมาต่อเนื่องอย่างยาวนาน โดยไม่สนว่าเหยื่อจะอายุเท่าไหร่บ้าง เนื่องจากทางกฎหมายไม่มีระบุไว้ ตนจึงอยากให้สังคมได้รับรู้ว่ายังมีปัญหาในแวดวงนี้ มาถึงขั้นล่วงละเมิดทางเพศ และทำให้แรงงานหลายคนถูกขู่ว่าจะหมดอาชีพการงาน