รีวิวเกม Harvest Moon One World เดินทางรอบโลกกู้วิกฤตเพาะปลูก
หลายคนเห็นชื่อเกมนี้อาจจะส่ายหน้าหนีจากความดราม่าของตัวเกม เรื่องราวระหว่างผู้พัฒนาที่ขอแยกตัวกับการเอาชื่อมาหากิน ชื่อเดิมแต่คนทำไม่เหมือนเดิม แล้วเกมมันจะเหมือนเดิมได้ไง
และเรื่องราวก็เริ่มเลวร้ายขึ้นเมื่อเกมมันไม่มีความน่าเล่นเหมือนเมื่อก่อน แต่ทีมพัฒนาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามก้าวออกจากดราม่าตรงนั้นมาหลายปี จนล่าสุดก็มีภาคใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Harvest Moon one world ที่ออกมาตัดหน้า Story of season ภาษาอังกฤษภาคล่าสุดอย่าง pioneers of olive town
ผู้เขียนลองเปิดใจกับ Harvest Moon ภาคนี้ว่ายุค 2021 แล้วตัวเกมได้พัฒนาไปอย่างไรบ้าง?
หัวข้อที่น่าสนใจเนื้อเรื่องธรรมดาแต่น่าสนGameplay ไม่ตามใครแต่คงเดิมระบบเคลื่อนย้ายฉับพลัน
Memory Portalเกมทำฟาร์มที่ไม่มีร้านขายเมล็ดพันธุ์ฟาร์มเคลื่อนที่การปลดล็อกจากเควสย่อยร้านอาหารที่ไม่มีอาหารขุดเหมืองแค่เดินก็หอบการแต่งงาน ค่าความสัมพันธ์ เลเวลสัตว์เลี้ยงสภาพอาการที่เปลี่ยนแปลงระบบออนไลน์Graphicsดีหรือไม่ดี น่าซื้อหรือไม่น่าซื้อ เนื้อเรื่องธรรมดาแต่น่าสน
ตามหัวข้อเลยค่ะว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างเหมือนกับนิยายเทพธิดา นางฟ้าทั่วไป ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเกมทำฟาร์มอื่นเท่าไหร่ แต่ทว่าดันมีความน่าสนใจซ้อนอยู่เพียบเลยค่ะ
เนื้อเรื่องเริ่มต้นโดยเราเป็นเด็กในหมู่บ้านที่ไม่รู้จักการทำการเกษตร ไม่ว่าเมืองไหนต่างก็ไม่รู้จักการเพาะปลูกใด ๆ ทั้งสิ้น เรื่องราวของเทพธิดาเพาะปลูกก็เป็นเรื่องในตำนาน ไม่มีใครพูดถึง
มีเพียงแค่เราที่ยังเชื่อเรื่องราวเหล่านี้ และในที่สุดเพราะความเชื่อจึงทำให้เราเจอเรื่องราวต่าง ๆ ที่ไม่เคยคาดคิด คือ เราสามารถติดต่อกับนางฟ้าประจำเมืองของเราได้
นางฟ้าจึงขอให้เราช่วยปลุกคืนชีพให้กับเทพธิดาเพาะปลูก ที่งามสง่าและน่าเคารพของพวกเขา แน่นอนเราตอบตกลง
ตะลุยดินแดนทะเลทราย
เมื่อเล่นตามเนื้อเรื่องไปแล้วรู้สึกได้เลย เนื้อเรื่องไปรวดเร็วมาก แต่ก็งมอยู่ค่อนข้างนานพอสมควรเลยค่ะ กว่าจะทำภารกิจผ่าน แต่ก็ใช่ว่าจะมีแค่เนื้อเรื่องหลักนะคะ ยังมีเนื้อเรื่องเสริมอีกอยู่ภายในเนื้อเรื่องเสริม จะทำให้เรารู้เรื่องราวของตัวละครต่าง ๆ ภายในเมืองนั้นเองค่ะ
หลังจากเราปลดล็อกเนื้อเรื่องแล้ว ตัวเกมก็ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ ยังไม่ถึงครึ่งเกมเลยด้วยซ้ำ เหมือนกับว่าอยากให้ผู้เล่นซื้อมา แล้วเล่นได้ยาว ๆ ใครสายรีบปั๊มฟาร์มอลังการคงใจขาดแน่นอนค่ะ เกมจะน่าเบื่อทันที
Gameplay ไม่ตามใครแต่คงเดิม
หากคนที่ชื่นชอบเล่นเกมแนวทำฟาร์มจะรู้เลยว่า Stardew Valley ได้ฉีกเกมแนวทำฟาร์มเมื่อ 20 กว่าปีก่อนทิ้งไปแบบมิติใหม่เลยทีเดียว ยังมี Animal Crossing ที่สร้างเกาะออนไลน์เที่ยวหากันได้ทั่วโลก ที่เป็นที่นิยมกันยังเป็นกระแสยังไม่ซาในเวลานี้
ยังมี Rune Factory ที่ยัง เป็นเกมปลูกผักสายพันธุ์ RPG อีก แต่ละเกมเป็นการเล่นที่แหวกแนวจากการปลูกผักทั้งสิ้น
เรากลับมาพูดถึงฝั่ง Harvest Moon : One World กัน อย่างที่บอกไปว่าทางผู้เขียนได้ทำการเปิดใจอย่างสูง เนื่องจากเกมค่อนข้างงาม เหมือนตั้งราคาไว้เผื่อลดหรือไม่ ก็หารู้ได้ แต่เผื่อใครอยากรู้ว่ามันคุ้มไหม ต้องตอบว่าอยู่ที่คนชอบ ฮา
ตะลุยเมืองภูเขาไฟ
Gameplay มีลูกเล่นที่คล้ายเกมทำฟาร์มทั่วไป ปลูกผัก ทำสวน แต่งงาน แต่มีระบบแยกย่อยออกมาบางอย่างให้เกมน่าสนใจกว่าเดิม แต่รู้สึกได้เลยค่ะว่าผู้พัฒนาใส่ใจและรับรู้ได้ถึงความพยายามได้เลยค่ะ
ระบบเคลื่อนย้ายฉับพลัน Memory Portal
หัวข้อเขียนแลดูมีหลักการ อันที่จริงแล้ว คือ ระบบวาร์ป นั้นเองค่ะ เป็นอุปกรณ์ DocPad ที่เพื่อนเราภายในเกมให้แก่เรามา ไว้สำหรับเช็คสภาวะต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเรา ครอบคลุมหมด
แต่ใช่ว่าเราจะวาร์ปได้เล่นนะคะ เราต้องปลดล็อกเหรียญตราประจำเมืองให้ได้ก่อน แน่นอนว่ากว่าจะวาร์ปครบทุกเมืองก็ต้องเล่นเนื้อเรื่องเสร็จโน่น แต่เราก็สามารถวาร์ปกลับฟาร์มเราได้ตลอดเวลานะคะ
นอกจากนี้ยังมี Minimap ไว้ให้เราดูเผื่อเดินหลงทางตามหาภูติน้อยไม่เจอ แน่นอนว่าภูติจิ๋วมีความสำคัญมาก
เกมทำฟาร์มที่ไม่มีร้านขายเมล็ดพันธุ์
ต่อให้พยายามหาร้านขายเมล็ดก็ไม่มี บอกแล้วค่ะว่าทุกเมืองทั้งเมืองปลูกผักกันไม่เป็น แม้แต่วัวยังในกินอาหารเม็ดกินแต่อาหารสังเคราะห์ จนเป็นโรค
มีแต่เมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ขาย ยกเว้นบางร้านเมื่อผ่านเนื้อเรื่องก็จะมีเมล็ดพืชบางชนิดมาขายแค่ชนิดสองชนิด
เราเป็นผู้มีความสามารถวิเศษทำให้เราเห็นภูติจิ๋ว และนำเมล็ดพืชมาปลูกตามฟาร์มภายในเมืองต่าง ๆ ภูติจิ๋วตัวน้อยจะลอยอยู่ตามเมือง
แสงกลม ๆ สีฟ้านั่นคือ ภูติจิ๋วค่ะ พอเราเข้าไปคุยเขาถึงจะปรากฏร่างขึ้นมา และมอบเมล็ดพันธุ์ให้เรา
ภูติตัวน้อยจะมาให้เราเก็บเมล็ดทุกวันเป็นช่วงเวลาไป ตั้งแต่ 8:00 AM – 6:00 PM หากเป็นพืชผลที่พิเศษหน่อยก็จะมา ช่วง 6:00 PM – 22:00 PM อันนี้เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ หากใครเคยเล่นแล้วมีเวลาอื่น ท้วงติงกันได้ค่ะ
สำหรับภูติจิ๋วจะไม่ปรากฏในแผนที่หรือ Minimap ด้วยนะคะ หากถามว่าแล้วจะจำได้อย่างไรว่าภูติจิ๋วตรงนี้ให้เมล็ดอะไร ตอบสั้น ๆ คือ จำค่ะ!
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวช่วยนะคะ นอกจากวาร์ปได้เราก็หาภูติจิ๋วได้เช่นกันค่ะ เพียงแต่ว่าผู้เล่นต้องเคยปลูกพืชปลูกผลไม้นั้นก่อน เราถึงจะสามารถค้นหาภูติจิ๋วได้ ตัวเกมจะมีรายชื่อ Harvest Wisp ไว้ให้เราหานั้นเองค่ะ
เพราะฉะนั้นแล้ว เจอภูติตัวไหนก็ต้องเก็บเมล็ดมาปลูกให้หมดเพื่อความสะดวกในอนาคตนะคะ แต่หากกระเป๋าเราเต็ม หากเราเก็บเมล็ดมาเมล็ดก็จะหายไปเลย ต้องรอวันใหม่ บางวันน้องภูติจิ๋วก็ไม่ยอมโผล่มาก็ต้องเสียเวลาไป
ฟาร์มเคลื่อนที่
ภาคนี้ฟาร์มเคลื่อนที่ได้ฉีกกฎการอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไปโดยปริยาย ทั้งบ้านทั้งโรงเลี้ยงสัตว์ทุกอย่าง สามารถกดปุ่มพับเก็บ และไปขยายย้ายที่อยู่ได้ตามเมืองที่เราเควสอยู่
แต่ใช่ว่าเราจะขยายที่ไหนก็ได้นะคะ ภายในเมืองแต่ละเมืองจะมีตัวหุ่นยนต์เป็นจุดตั้งบ้านไว้ให้อยู่แล้ว และทุกครั้งหากต้องการเปลี่ยนจุดตั้งบ้านเราก็ต้องเก็บบ้านจุดเดิมก่อนถึงจะเปลี่ยนที่อยู่ได้ค่ะ
การจะขยายเปลี่ยนที่ตั้งบ้านใหม่ทุกครั้งเราจำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์ช่วยทุกครั้ง โดยแต่ละครั้งพลังงานของหุ่นก็จะหมด เราจำเป็นต้องคอยเติมพลังงานให้แก่มันทุกเมื่อ
ข้อดีเลยก็คือ ทำให้เราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศที่อยู่อาศัยได้ตลอดเวลา และไม่เสียเวลาในการทำภารกิจที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ เพราะถึงแม้ว่าจะวาร์ปได้บางที มันก็ยังเดินไกลอยู่ดี
การปลดล็อกจากเควสย่อย
หากจะพูดว่าเควสย่อยเลยก็ไม่ถูกนักเพราะ ‘เมื่อเนื้อเรื่องจบเควสย่อยมันก็จะกลายเป็นเควสหลักที่สำคัญมาก’
นอกจากจะเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับผู้คนในเมืองแล้ว เควสย่อยบางเควสทำเพื่อปลดล็อกของอุปกรณ์สำคัญมากมายเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าการมีตู้เสื้อผ้า หรือตู้เปลี่ยนเสื้อ
เควสที่เด้งเข้ากล่องจดหมายเราทุกวัน
เล่นเนื้อเรื่องจบแต่เกมไม่จบนะคะ ต้องเป็นสายเปื่อยเรื่อย ๆ จริง ๆ ไม่งั้นเบื่อก่อนแน่นอน เพราะ Gameplay ไม่ได้ให้อะไรเรามาเลย จะใช้เงินซื้อของตามร้านค้าก็ไม่มี มีแค่เควสเท่านั้น
แล้วตัวเควสนี่มาทุกวันในกล่องจดหมายจริง ๆ ค่ะ ทำจนทำไม่ทันเลยทีเดียว เผลอแป๊บเดียวมาทีเป็นสิบฉบับ
ต้องทำเควสปลดล็อกแม้กระทั่งเทศกาล
เพราะไม่มีการซื้อของจากร้านค้า ที่มีขายก็มีขายแค่ต้นไม้ อาหารสัตว์ ยา การจะอัปเกรดกระเป๋าเราต้องไปอัปเกรดกับ แม่ เราในเกมค่ะ ไปให้แม่เย็บกระเป๋าให้ ไม่เหมือนเกมไหนใช่ไหมละคะ ฮา
ร้านอาหารที่ไม่มีอาหารขาย
ทุกครั้งที่เราไปทำอาหารเราไปเพื่อไปทานอาหาร แต่สำหรับ Harvest Moon : One World มันง่ายไปค่ะ ซื้อสูตรไปทำง่ายกว่าพี่ สูตรหนึ่งทำได้หลายอย่าง ประมาณนั้น
หมดอารมณ์คนหิวข้าว เลือดเหลือนิดวิ่งกลับบ้านจะไปทำอาหาร เป็นลมที่หน้าประตูไม่ทันได้ทำกิน ช่างโหดร้ายอะไรขนาดนั้น เป็นทุกร้านในเกม เราต้องทำเควสปลดล็อคร้านอาหาร ร้านน้ำอีกนะคะ
มานั่งรออาหารเหรอคะ ทำไมหนูถึงซื้อนั่งกินที่นี่ไม่ได้
ข้อดีก็คือ ลงทุนครั้งเดียวเราทำอาหารได้เรื่อย ทำกินที่บ้านแถมขายได้ราคาดีด้วยค่ะ ซื้อมาไม่เสียเปล่า แต่ก็แอบงง คนที่เข้าไปนั่งในร้านไปนั่งกินอะไรกัน หรือเขาไม่ทำขายให้เรากินคนเดียว ช่วงโควิดพอดีนั่งได้แค่คนรู้จักประมาณนั้นใช่หรือไม่ ฮา
เมนูอาหารที่เราสามารถทำได้เมื่อเล่นไปสักพักเมนูจะมาเยอะมาก
เพื่อความสมจริงของเกมปกติเกมส่วนใหญ่ เมื่อใส่ของในตู้เย็นไปมันก็จะเชื่อมต่อกับเตาแก๊ส แต่เกมนี้ไม่ใช่ค่ะ มันไม่สมจริง เอาของเก็บตู้อยากทำอาหารคุณต้องเปิดตู้เอาออกมาทำ สมจริงมากในส่วนนี้
ขุดเหมืองแค่เดินก็หอบ
หอบจริงไรจริงค่ะ เพราะแผนที่กว้างมาก มาก แต่หินแร่ที่ให้ขุดช่างน้อยเหลือเกิน เดินเหนื่อยไม่พอเซฟชั้นก็ต้องขุดให้ได้ 11 ชั้นก่อน
ให้ดูความกว้างของเหมืองกับจำนวนแร่ที่มีให้ขุดค่ะ
ผู้เขียนเล่นมาตั้งนานขุดยังไม่เคยถึงชั้น 30 เลยค่ะ ขุดไปเจอบันไดลงไปชั้น 31 แล้วเป็นลมหน้าบันได แทบร้องไห้
สถานที่ในการขุดเหมืองจะแบ่งแร่หินต่างกันไป ภายในเกมแยกไว้มีทั้งหมด 3 ที่ค่ะ ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังทำเควสหาของอยู่ แต่ละที่โอกาสดรอปของไอเท็มแต่ละชิ้นก็ต่างกันไป
การแต่งงาน ค่าความสัมพันธ์ เลเวล
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตามหาเลยค่ะว่าเราจะได้แต่งงานเมื่อไหร่ ไม่ได้แต่งกันง่าย ๆ เลย เพราะเกมต้องการให้เราเล่นได้เรื่อย ๆ
แม้จะมีหัวใจเต็มดวงแล้วก็ตาม เราก็ต้องพิชิตการอัปเกรดทั้งบ้าน ทั้งฟาร์ม เงิน เพื่อพร้อมในการมีคู่ครองนั้นเองค่ะ
น้องชายสายซึน
การจีบเหล่าหนุ่มสาวภายในเกม เมื่อค่าความสัมพันธ์เพิ่มจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาให้เราลุ้น หัวใจเต้นตึกตัก จะขอแต่งงานเมื่อไหร่
แต่ยากค่ะยากมาก แต่ถ้ารู้ว่าแต่ละคนชอบอะไรแล้วก็จะง่ายเลยค่ะ แต่แค่หัวใจเต็มเฉย ๆ นะคะ
แม้แต่แม่ตัวเองก็ไม่มีหัวใจขึ้น ช่างน่าเศร้า
แต่พอพูดถึงค่าความสัมพันธ์ชาวเมืองเกมนี้ขึ้นค่อนข้างยากเลยก็ว่าได้ค่ะ แม้ว่าตัวผู้รีวิวเองจะพยายามทำเควสให้ตัวละครมากแค่ไหน แต่ค่าความสัมพันธ์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นให้เลย
เหล่าสัตว์เลี้ยงก็ค่อนข้างขี้งอนมาก หากดูแลไม่ดีงอนป่วยเลยโดยเฉพาะตัวที่ไม่มีหัวใจ จะป่วยง่ายเป็นพิเศษ เลี้ยงไม่ดีผลผลิตภัณฑ์ก็จะนาน ๆ ทีถึงได้
ขี่ม้าชมเมือง
แต่ถ้าเลี้ยงดีผลผลิตจะได้ทุกวันเลยค่ะ การเลี้ยงที่ดีไม่ใช่แค่ไปหาไปลูบอย่างเดียวนะคะ ยังรวมถึงการใช้อาหารที่มีคุณภาพด้วย เพราะอาหารที่เราทำให้เขาก็มี เลเวลด้วยค่ะ
กินอาหารเลเวล 1 ไปก่อนนะ ห้ามบ่น
เกมนี้ไม่ใช่ว่ามีเลเวลไว้ต่อสู้นะคะ แต่มีเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตของเรา ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย ของคราฟ อาหารสัตว์
เหยียบเข้าปี 2 ก็ยังเลเวล 1
ข้อมูลการกระทำของเราจะรวบรวมไว้ใน DocPad บอกถึงเลเวล ปี ผลผลิตที่ปลูกไปแล้วมีอะไรบ้าง ปลูกไปเท่าไหร่ เงินมีเท่าไหร่ การชนะเทศกาลประจำปีต่าง ๆ
สัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงภายในเกมค่อนข้างแปลกไปจากการเลี้ยงในฟาร์มไปค่อนข้างเยอะ เช่น เลี้ยงอูฐได้ เลี้ยงกวางเรนเดียร์ได้ เลี้ยงไก่อารูคาน่า (เป็นไก่ที่ออกไข่สีเขียวน้ำเงิน พันธ์เก่าแก่ของชิลี)
แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงก็ต้องทำเควสปลดล็อคเช่นเดียวกัน แต่ก็มีสัตว์ที่มีขายในร้านอยู่แล้วก็จะเป็นแค่สัตว์สายพันธุ์ปกติธรรมดา
นอกนั้นยังมีสัตว์เลี้ยงในบ้านที่ไม่ใช่เลี้ยงไว้เป็นผลผลิตในฟาร์ม เราสามารถเลี้ยงหมาแมวได้ทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัน หมาแมวนี่เรียกว่าเอามาครบทุกสายพันธุ์เลยทีเดียวค่ะ
รวมทั้งร้านค้าขายสัตว์แต่ละร้านก็มีสัตว์ที่ขายต่างกันออกไปด้วยนะคะ ราคาก็แพงเป็นอย่างมากเลยค่ะ ประมาณว่าเก็บตังค์ไว้อัปเกรดบ้านดีกว่า อย่าซื้อเลยสัตว์เลี้ยง
ยังไม่หมดค่ะยังมีสัตว์ในป่าอีกค่ะ เป็นสัตว์ตามเส้นทางที่เราไปเจอภูติจิ๋ว จะมีสัตว์ป่าประจำอยู่เป็นบางที่ สัตว์เหล่านี้ไม่ทำร้ายเรานะคะ สัตว์เหล่านี้ชอบให้เราไปลูบและให้อาหารมันด้วยค่ะ คาดว่าถ้าทำให้เต็มแล้วน่าจะได้ของป่า
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
รู้สึกชื่นชอบตรงช่วงนี้มากเวลาเล่น หลายคนอาจรำคาญแต่ว่าตรงจุดนี้ทำให้ไม่เหมือนเกมทำฟาร์มเกมไหน ตรงที่ว่าอากาศภายในเมืองที่เราไปมีผลกับตัวละคร
หากเราเข้าไปในพื้นที่ทะเลทรายเราก็จะเป็นลมแดดได้ หากเราเข้าไปในพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเราก็จะหนาวจนหลับและสลบไป เลือดลดเร็วอย่างยิ่งยวด ทีมพัฒนาก็เข้าใจทำ
กาแฟร้อนหอมกรุ่นที่พกไว้ในเป้ 10 แก้วก็ไม่หกเลอะ
แต่หากเราจับทางได้ก็จะอยู่รอดในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายค่ะ
ระบบออนไลน์
เป็นที่น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มีระบบออนไลน์ เป็นเกมที่เล่นได้คนเดียว มีการทำฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ ตกปลา หาของ การคราฟ แต่ไม่มีระบบออนไลน์ แต่ทางตัวเกมก็พยายามออกแบบมาให้เล่นคนเดียวได้เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ไม่เบื่ออยู่นะคะ
โอ๊ะ! น่าเสียดาย ไม่มีออนไลน์หรอ
ทีมงานได้ใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย แม้แต่ต้นไม้ที่ตัดเนื้อไม้ตัดออกมาก็ไม่เหมือนกัน ปลาที่ตกได้ก็มีเยอะมาก สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ผลผลิตดอกไม้ที่มีความพิเศษก็แตกต่างกัน อาหาร ยังแยกย่อยออกมาเยอะมาก
Graphics
พอมาหัวข้อนี้ต้องบอกตรง ๆ ว่า คงให้แค่ปานกลาง เพราะมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้สำหรับเกมออฟไลน์ที่เล่นคนเดียว
มันยังมีพื้นที่ที่ว่างเยอะมากในแผนที่ ทั้งตัวเกมสามารถซูมเข้าซูมออกได้เยอะมาก น่าจะมีกราฟิกฉากที่เยอะมากกว่านี้ ความรู้สึกมองแล้วมันโหรงเหรงไป
แต่การโหลดทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่มีการโหลดฉากมากมาย เข้าปุ๊บอยู่ในฉากปั๊บ สภาพอากาศภายในเกมมีมากมายเนื่องจากตัวเกมเน้นการเดินทางเมืองแต่ละเมืองสภาพอากาศจึงแตกต่างกัน
ทำให้ไม่ลดความน่าเบื่อระหว่างทำเควส เหมือนเราไม่ได้อยู่กับที่ดี นอกจากสภาพอาการที่ต่างกัน แผนที่ค่อนข้างใหญ่ด้วย ทำให้มีระบบการวาร์ปเกิดขึ้นนั้นเอง ระหว่างวาร์ปก็ไม่ต้องรอโหลดซึ่งข้อนี้ดีงามมาก
เปิดเกมมาตอนแรกค่อนข้างตกใจเลยทีเดียว เพราะแทบไม่มีอะไรเลยภายในเกม ต้นไม้แทบไม่มีคือเมืองร้างเลย เหมือนทำเอาลวก ๆ พอเล่นไปแล้วกลับไม่ใช่เลยค่ะ
ทุกอย่างค่อย ๆ คลี่คลายเมื่อเราเล่นแล้วซึมซับเนื้อเรื่อง เราต้องหาต้นไม้มาปลูก เมื่อเล่นเนื้อเรื่องและเราเล่นเควสให้ปลดล็อก สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเกมก็ค่อย ๆ ออกมา มีชีวิตชีวาขึ้นต่างจากเริ่มเกมเลยค่ะ
แต่ก็ยังแอบหวังเล็ก ๆ ว่าทีมงานน่าจะทำให้มันมีชีวิตชีวามากกว่านี้อีกนิดนะคะนี่ อีกอย่างข้อนี้สำคัญอย่างสูงคือ อย่าลืมกดนอนแล้วเซฟทุกครั้งนะคะอันตราย เกมไม่มีเซฟอัตโนมัติให้ค่ะ จะเป็นข้อดีข้อเสียก็ได้ค่ะข้อนี้
ดีหรือไม่ดี น่าซื้อหรือไม่น่าซื้อ
อย่างที่บอกค่ะ หากใครชื่นชอบการเล่นแบบไม่เร่งรีบ เล่นจากศูนย์เลยจริง ๆ ดู ๆ แล้ว Harvest Moon : One World เกมนี้ค่อนข้างใช้เวลานานน่าดูกว่าจะได้โลกที่สดใส ก็หาซื้อมาเก็บไว้นะคะ ตัวเกมยังพูดถึงตัวละครเก่าในภาคที่แล้วด้วย
แต่หากใครรับไม่ได้จริง ๆ ก็อย่าฝืนค่ะ ฮา แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจกันดูนะคะ กราฟิกตัวเกมนั้นพัฒนาจากภาคก่อนมากมายเลยค่ะ แต่อาจยังไม่ทันเกมทำฟาร์มสร้างเกาะปี 2021 เท่าที่ควร
แต่ระบบเนื้อเรื่องไม่สนใจใครจริง ๆ ค่ะ ไม่เลียนแบบใคร ซับซ้อนและรู้สึกถึงความพยายามของทีมพัฒนาได้ดีเลยค่ะ