รีวิว Bloody Bunny: The Game เกมแอคชั่นผลงานคนไทย ที่มีอะไรมากกว่าที่เห็น
ณ เวลานี้เราจะเห็นได้ว่าตลาดของวิดีโอเกมมีผลงานของทีมงานคนไทยออกมาให้เห็นกันมากขึ้นกว่าเดิม อย่างในปีที่แล้วเราก็มี Timelie ที่กระแสดีทั้งในบ้านเราและต่างประเทศอย่างยิ่ง และในปีนี้ก็เป็นคิวของ Bloody Bunny ที่จัดว่าน่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน
Story
Bloody Bunny เป็นเรื่องราวของสาวน้อยคนหนึ่งที่หนีการตามล่าของเหล่าสิ่งมีชีวิตผู้มีจุดประสงค์ลึกลับ ซึ่งเธอพลาดท่าถูกจับได้ในระหว่างการหลบหนี และถูกจับไปดัดแปลงร่างกายให้กลายเป็นกระต่ายพันธุ์เดือด เพื่อใช้เป็นมือสังหารของพวกมัน แต่ด้วยสติที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้เธอเกิดการต่อต้านและเข้าต่อสู้กับพวกมัน พร้อมกับหาทางนำเอาตุ๊กตาที่เป็นของต่างหน้าคนสำคัญของเธอกลับคืนมาให้ได้
สำหรับ Bloody Bunny เกมนี้นั้นจะใช้การเล่าเรื่องในแบบที่ไม่มีเสียงพากย์ แต่ผู้เล่นจะยังสามารถเข้าใจเรื่องราวได้โดยง่าย ด้วยการเล่าเรื่องแบบภาพวิดีโอ สื่ออารมณ์ด้วยหน้าตาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที เรียกว่าได้อารมณ์ไปอีกแบบ และไม่ต้องอ่านตัวอักษรอะไรให้ปวดตาอีกด้วย
แต่แน่นอนว่าเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายเช่นนี้ ย่อมมาพร้อมกับแนวทางของเนื้อเรื่องที่เดาได้ง่าย ผู้เล่นจะรับรู้ได้แทบจะในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเนื้อเรื่องถัดจากนี้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะมันก็ช่วยชูรสให้การออกไปสู้กับศัตรูในเกมดูมีอะไรมากขึ้น ไม่ใช่แค่ออกไปเตะต่อยเพียงอย่างเดียว ถ้าไม่คิดอะไร เนื้อเรื่องของเกมก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ไม่หวือหวาอะไรมากนัก
Presentation
ถ้าใครคุ้นเคยกับเกมในสไตล์ Devil May Cry หรือ Dark Souls Bloody Rabbit เกมนี้ก็เรียกว่าจะมาในแนวเดียวกันเลย เพียงแต่มีความซับซ้อนน้อยกว่า ตัวฉากจะเป็นพื้นที่แบบปิดให้เราเดินไปตามทางเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นอาจจะมีปริศนาให้แก้ไขไปตามเรื่องราวด้วย ไม่ก็ศัตรูสักโหลหนึ่งรอเราอยู่ ก่อนจะเจอกับบอสในท้ายฉากตามสูตร ซึ่งทางก็ค่อนข้างตรงอยู่ แล้วอาจจะมีบางห้องที่เป็นปริศนาลับให้ผู้เล่นลองไขเพื่อรับรางวัลพิเศษบ้าง แต่ก็ไม่ได้สลักสำคัญนัก
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างขัดใจก็คือการออกแบบฉากที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเท่าใดนัก เพราะแม้ตัวเกมจะใบ้ว่าทางออกอยู่ตรงไหนบ้างในฉาก แต่กลับกันดันไม่มีตัวนำทางหรือแผนที่ขนาดเล็กให้ส่องดูว่าต้องไปไหนบ้างซะอย่างงั้น ทำให้ต้องเสียเวลาหาทางไปต่อนานเกินจนใช่เหตุ ส่วนปริศนาในเกมแม้จะไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก แต่การไม่มีคำใบ้ที่ชัดเจนก็ทำให้ติดหาทางไปต่อนานจนเกินจำเป็น ซึ่งถ้ามี Hint หรือตัวช่วยบางอย่างเสริมมา จะดีกว่านี้มาก
ส่วนที่เหลือนั้นตัวเกมก็ไม่มีอะไรมากกว่านี้เป็นพิเศษ แค่เล่นให้จบด่านก็เพียงพอ ไม่มีอะไรน่าสนใจหลังจากนี้อีก แถมตัวเกมก็ค่อนข้างสั้นมาก แค่ 6-7 ชั่วโมงก็เล่นจบได้แล้ว แต่ถ้าเทียบกับราคาค่าตัวในร้านค้าที่แสนถูกแค่ $9.99 ก็ถือว่าไม่แย่เท่าใดนัก
Gameplay
มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของเกม Gameplay ของเกมนี้เรียกว่าเป็นการนำเอาข้อดีของเกม Action สามมิติมาหลอมรวมกันได้ดีในระดับหนึ่ง เจ้ากระต่ายของเราจะมีท่าโจมตีหลายแบบ ทั้งท่าธรรมดา ท่าพิเศษที่มาจากอาวุธชนิดอื่น ๆ อีกสี่แบบ เช่นค้อนใหญ่ มีดบิน และบูมเมอแรง ซึ่งแต่ละอย่างจะเอาไว้ใช้ต่อกรกับศัตรูต่างชนิดกัน เช่นค้อนยักษ์เอาไว้จัดการกับศัตรูถือโล่ ส่วนมีดบินเอาไว้จัดการกับศัตรูที่ลอยได้ เป็นต้น
นอกจากการโจมตีแบบปกติแล้ว ผู้เล่นสามารถใช้ท่าพุ่งหลบได้ ซึ่งถ้าหากหลบได้ตรงกับจังหวะที่ศัตรูฟันสวนมา ก็จะเป็นการ Counter ที่ตัวเราจะเป็นอมตะชั่วขณะ ทำให้สามารถโจมตีสวนศัตรูได้ง่ายขึ้น และเมื่อโจมตีไปถึงจุดหนึ่งเราก็จะสามารถใช้ท่า Execute สังหารศัตรูแบบทันทีได้ ซึ่งก็มีทั้งการสังหารปกติหรือใช้อุปกรณ์ในฉาก หากศัตรูตาย พลังชีวิตของเราก็จะฟื้นขึ้นมาส่วนหนึ่ง ทำให้การต่อสู้ลื่นไหลขึ้น ไม่ต้องพะวงว่าต้องกดปุ่มเติมพลังให้ปวดหัวต่อไป
ซึ่งการออกแบบระบบต่อสู้ในเกมเช่นนี้นับเป็นไอเดียที่ค่อนข้างดี เพราะผู้เล่นจะโฟกัสได้เต็มที่ว่าจะเปลี่ยนอาวุธตอนไหน จัดการกับศัตรูแบบไหนก่อน และเมื่อไหร่ควรตัดกำลังศัตรูแล้วฟื้นพลังกลับมา แต่ทุกอย่างกลับต้องมาตกม้าตายตรงส่วนของมุมกล้อง จริงอยู่ที่ตัวเกมจะมีระบบล็อกเป้าหมายมาให้อยู่แล้ว ทว่าหลายครั้งที่ทำให้มุมมองของเราแคบลงโดยไม่จำเป็น จนถูกศัตรูจากด้านอื่นโจมตีเข้ามาโดยที่ไม่เห็นบ่อยเกินไป และศัตรูเกมนี้ตีหนักอยู่แล้ว มองวืดไปนิดเดียวรับรองได้เลยว่าตายแน่นอน
นับว่าน่าเสียดายที่ตัวเกมออกแบบระบบการต่อสู้มาได้ค่อนข้างดี แต่การที่ต้องมาเกิดปัญหาในเรื่องมุมกล้องเช่นนี้ก็ชวนให้อารมณ์เสียไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งเราก็หวังว่าทางผู้พัฒนาจะปรับปรุงในผลงานถัดไป
Performance
ส่วนในด้านประสิทธิภาพของเกม Bloody Rabbit นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะสามารถรันได้ในระดับเกือบ 60 FPS แทบจะตลอดเวลา ส่วน Bug ก็แทบไม่มีให้เห็น เรียกว่าเก็บงานมาได้ดีและเล่นได้ลื่นไหล เรียกว่าสอบผ่านตรงนี้ไปได้เป็นอย่างดี
Conclusion
Bloody Bunny: The Game ถือได้ว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างคุ้มราคา ด้วยราคาที่ไม่แพง เล่นได้เรื่อย ๆ แม้จะยังมีปัญหาติดตัวมาบ้างแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ถ้ใครกำลังมองหาเกมต่อสู้ลุยด่านที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เกมนี้อาจจะตอบโจทย์คุณได้ในระดับที่ดีใช้ได้เลย
คะแนน 7/10
อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ตัวเกมก็ยังหยิบยื่นความสนุกที่อยู่ในระดับโอเคไม่รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด