ดราม่า! ชาวทวิตบุก Genshin Impact เตรียมแบนเกมเพราะ "เหยียดเชื้อชาติ"

มีประเด็นที่น่าติดตามกันอีกแล้วสำหรับดราม่าของเกม Genshin Impact ในครั้งนี้ที่ทางทวิตเตอร์ได้ออกสร้างกระแส #BoycottGenshinImpact ขึ้นมา ด้วยข้อหาแนวว่าตัวเกมนั้นมีเนื้อหาที่ "เหยียดเชื้อชาติในเกม" โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้

1. Hilichurls ซึ่งเป็นศัตรูในเกมนั้น เป็นการล้อเลียนชนพื้นเมือง (กลุ่มชาติพันธุ์ที่ มีกำเนิดในท้องถิ่นตามประเทศต่างๆ เช่น อเมริกา, แคนาดา, นิวซีแลนด์ หรือนอร์เวย์)

ประเด็นนี้มาจากการที่ในเกมนั้น Hilichurls จะมีการแสดงท่าทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ตั้งแต่การเต้น, บูชาอะไรบางอย่าง และเป็นศัตรูที่มาโจมตีผู้เล่น ซึ่งการแสดงท่าทางในเกมนั้นทางผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางคนไม่พอใจ เพราะมองว่า ทาง MiHoyo ล้อเลียนวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองและทำให้เป็นสัตว์ประหลาดในเกม

ข้อเท็จจริงนั้น แม้ว่า Hilichurls จะปรากฏมาเป็นศัตรูในเกม แต่ก็จะมีเควสที่ผู้เล่นจะต้องร่วมมือกับเด็กที่ศึกษาภาษาของ Hilichurls และสามารถสื่อสารผูกมิตรกับพวกเขาได้ในที่สุดโดยไม่ต้องต่อสู้กัน รวมไปถึงมีข้อความบอกด้วยว่า สักวันหนึ่ง เราอาจจะได้ผูกมิตรที่ดีกับ Hilichurls ซึ่งหมายความว่า Hilichurls ไม่ได้เป็นศัตรูในเกมเสมอไป

เหตุผลของประเด็นนี้มาจากวีดีโอเบื้องหลังที่ทาง MiHoyo ได้ปล่อยออกมาและเป็นภาพตัวอย่างว่า ทางทีมพัฒนาเกมได้มีการใช้วีดีโอของชนพื้นเมืองมาเป็นแบบในการทำอนิเมชั่น อย่างไรก็ตาม นั่นคือจุดเริ่มต้น เพราะยังได้มีชุมชนชาวทวิตเตอร์ได้ขุดคุ้ยเพื่อโจมตีเกมด้วยข้อกล่าวหาอื่นๆ ในข้อต่อไปดังนี้ 

2. ตัวละคร Xinyan และ Kaeya สองตัวละครในเกมนี้มีสีผิวคล้ำ โดยเล่นประเด็นที่ว่าหากจะมีการออกแบบตัวละครผิวสี ทำไมถึงไม่ทำให้ผิวสีคลํ้ากว่านี้ จึงทำให้เกมมีลักษณะ "เหยียดสีผิว"

ตัวละคร Xinyan

ตัวละคร Kaeya

ข้อเท็จจริงของตัวละคร Xinyan นั้นเป็นตัวละครชาวเอเชีย (ต้นแบบก็คือชาวจีน) ซึ่งไม่ใช่ตัวละครจากทางฝั่งแอฟริกัน ทำให้สีผิวของเธอเป็นตัวละครผิวคลํ้าปกติ ส่วน Kaeya นั้นไม่ได้บอกชัดเจนว่าเป็นตัวละครที่มีต้นแบบจากประเทศอะไร

3. NPC ในเกมที่เป็นผู้ใหญ่ที่ชื่อ Ulfr ในเมือง Mondstadt ซึ่งจากบทสนทนาในเควสนั้น เจ้าตัวได้ยอมรับว่า เขากำลังแอบชอบผู้หญิงที่ชื่อ Flora  ซึ่งเป็น NPC แม่ค้าขายดอกไม้ โดยได้เล่นประเด็นว่า เป็นลักษณะ "สนับสนุน Pedophilia หรือ พฤติกรรมความใคร่เด็ก" (โลลิค่อน)

ทั้งนี้ภายในเกม ยังไม่เคยมีการระบุบอกว่า Flora นั้นอายุเท่าไหร่ แต่เทียบในบรรดาตัวละครเด็กที่มีในเกมแล้ว Flora เป็นตัวละครคนเดียวในเกมที่ออกมาเปิดร้านขายของ ซึ่งไม่ได้เป็นลักษณะช่วยงานเหมือน NPC เด็กแถวๆ โรงแรมในโซนเมือง Liyue ซึ่งเป็นไปได้ว่าเธออาจจะอายุย่างเข้าวัยรุ่นแล้ว และไม่ได้เป็นเด็กอายุน้อย

4. ไม่สนใจความปลอดภัยของลูกค้า จนปล่อยให้ลูกค้าบางส่วนโดนแฮคไอดี

สำหรับข้อนี้แม้ว่าทาง MiHoYo จะเคยออกมากล่าวว่ามีการอัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว แต่สุดท้ายก็โดนแฮคเกอร์เจาะระบบเพื่อเอาข้อมูลหลุดมาปล่อยกันเป็นระยะอยู่ดี แต่ในเรื่องของการแฮคนั้น บริษัทใหญ่ๆ ของโลกก็มักจะโดนกันเป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นผู้เล่นจึงอยากให้ทาง MiHoyo เพิ่มระบบยืนยันตัวตนสองชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ทาง MiHoYo ก็ยังไม่เคยชี้แจงอะไรเกี่ยวกับประเด็นนี้

5. กั๊กข้อมูล ไม่ยอมปล่อยเนื้อหาใหม่อย่างเมืองอินาสึมะ ไม่ยอมปล่อยเนื้อเรื่อง เอาแต่ออกตู้กาชาวนไปวนมา

เรื่องนี้หากเทียบกับเกมในเครือเดียวกันอย่าง Honkai Impact 3 แล้วเนื้อเรื่องหลักก็มักจะใชัวิธีเขยิบๆ มาทีละนิดเช่นเดียวกัน และก็เป็นเรื่องค่อนข้างธรรมดากับเกมเล่นฟรีที่มีการออกกาชาซึ่งเกมไม่ได้มีการบังคับคนเล่นเติมกันอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงคือ ในทุกสัปดาห์เกมจะมีอะไรให้ผู้เล่นได้ร่วมเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Battle Pass ก็ดี หรือเป็นอีเวนท์พักเวลาก็ดี

อย่างไรก็ตาม กระแส #BoycottGenshinImpact นั้นก็ไม่ได้มีคนเห็นด้วยทุกคน โดยได้มีการพูดคุยประเด็นนี้กันในกระทู้ Reddit ซึ่งปัจจุบันมีความเห็นไปแล้วกว่า 2,200 คอมเม้นต์ และได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น เรื่อง Hilichurls นั้น ทีมงานเกมยังมีการจับเอา CEO ของ MiHoyo มาเป็น Hilichurls ในเกมเสียเอง ไปจนถึงตัวเกมนั้นมีการถ่ายทอดความเป็นเอเชียแปซิฟิก ซึ่งผิวของผู้คนออกคลํ้าและไม่ใช่ผิวดำอย่างที่พวกเขาเรียกร้อง เป็นต้น

ทว่า ไม่ว่าจะกระแสต่อต้านจะออกมาอย่างไร แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกม Genshin Impact ยังคงเป็นเกมที่มีหลายคนให้ความสนใจและมาเล่นกันอย่างไม่ขาดสาย โดยในเวลานี้ตัวเกมเพิ่งจะเสร็จสิ้นช่วงเทศกาลเมืองลมไป และกำลังจะมีกิจกรรมคั่นเวลาอย่างล่าบอสมาให้เล่น แต่ส่วนเมืองอินาสึมะนั้น ท่าทางเราอาจจะยังไม่ได้เห็นในเดือนหน้า เนื่องจากว่าจะมีตัวละครอย่าง Eulu ซึ่งเป็นตัวละครเมือง Mondstadt มาให้กดกาชากันนั่นเอง