รีวืว NieR Replicant ver.1.22474487139... การกลับมาใหม่ของพี่ชายสู้เพื่อน้อง

NieR Series ได้ดำเนินเรื่องราวอันลึกล้ำมาถึง 11 ปี ในขณะที่ปัจจุบันหลายคนได้รู้จักชื่อของเกมซีรี่ส์นี้มาจาก NieR: Automata ก็มีอีกหลายคนที่ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน NieR Replicant ซึ่งเคยวางจำหน่ายออกมาเมื่อปี 2010 และด้วยผลบุญของความโด่งดังในปัจจุบัน ก็ทำให้เกมภาคนี้ได้ถูกนำกลับมาปรับปรุงและวางจำหน่ายใหม่อีกครั้งในชื่อ NieR Replicant ver.1.22474487139... บนเครื่อง PlayStation 4, Xbox One, และ PC (Steam) แค่ชื่ออันยาวเหยียดแบบหาความหมายไม่เจอนี้ ก็บางบอกได้เลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งผลงานเหนือจินตนาการ ของผู้กำกับเกมอย่างคุณ Yoko Taro ที่ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน

(Minor Spoiler) (Playstation 5 Review)

ใน NieR Replicant เวอร์ชั่นต้นฉบับ จะมีการแบ่งภาคของตัวเอกเป็น "พี่ชาย" และ "คุณพ่อ" ตามแนวทางการทำตลาดของการจำหน่ายเกมในภูมิภาคที่แตกต่างกันในตอนนั้น แต่ในเกมเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้เลือกที่จะดำเนินเรื่องราวด้วยตัวเอกที่เป็น "พี่ชาย" เป็นหลัก โดยเนื้อเรื่องของเกมได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่โลกในปัจจุบันได้ล่มสลายไปหลายพันปี ท่ามกลางโลกใบใหม่ที่มีเหล่า Shade ปีศาจรูปร่างแปลกประหลาดคอยออกอาละวาด มนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน และในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนั้นเองที่ตัวเอกซึ่งเป็นเด็กหนุ่มไร้นาม ได้ทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินรักษาน้องสาว Yonah ที่ป่วยเป็นโรคปริศนาซึ่งถูกเรียกว่า Black Scrawl

ภายในเนื้อเรื่อง ผู้เล่นจะได้พบกับความสัมพันธ์ของพี่น้องทั้งสอง ไปจนถึงเหตุการณ์ที่จะได้พบกับเพื่อนร่วมทางอย่างหนังสือสีขาวหรือ Grimoire Weiss หนังสือพูดได้ที่ช่วยเหลือตัวเอกด้วยการให้ยืมพลังเวทมนตร์ในการต่อสู้, Kaine สาวปากร้ายหัวรุนแรงที่ถูกสาป ผู้ชื่นชอบการต่อสู้และมี Shade อยู่ในร่างกายซีกซ้าย, และ Emil เด็กชายผู้มีจิตใจอ่อนโยน แต่มีพลังเวทมนตร์อันมหาศาลอยู่ภายในตัว ระหว่างการเดินทางนั้นจึงเต็มไปด้วยมิตรภาพและความหมายของการต่อสู้ในแบบกลิ่นอายของเกมญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้ผูกพันกับตัวละครแต่ละคนระหว่างการเล่นไปด้วยกันมากขึ้น

เนื้อเรื่องของเกมได้แสดงให้เห็นว่าตัวเอกมีเป้าหมายอยู่ที่การเดินทางเพื่อออกตามหาวิธีช่วยเหลือน้องสาว ซึ่งจะดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่เข้าใจได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่แฝงอยู่ภายในเรื่องราวเหล่านั้นคือความลึกลับของตัวละครแต่ละคน และดราม่าการต่อสู้อันเข้มข้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย ซึ่งความจริงอันน่ากลัวที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้จะค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา ตามแบบฉบับที่เป็นเสน่ห์ของ NieR Series ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างชาญฉลาด จึงทำให้เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งแล้วจะอยากรู้ต่อทันทีว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร ก่อนที่เรื่องราวจะดำเนินต่อไปใน NieR: Automata

สิ่งที่รู้สึกตกใจเมื่อกดเริ่มเกมเข้ามาและต้องขอหยิบมาพูดถึงก่อน คือภาพกราฟิกของเกมนั้นช่างเป็นการ Remasterd จากต้นฉบับเดิมโดยแท้ เริ่มจากฉาก Cutscene ที่เป็นของเดิมทั้งหมด แต่มีการปรับปรุงโมเดลตัวละครใหม่ให้ดูดีขึ้นในระดับ NieR: Automata ในส่วนของ Texture ฉากต่าง ๆ ก็มีการแก้ไขใหม่อย่างชัดเจน โทนสีของภาพก็มีความสว่างและดูสบายตาขึ้นมาก จนมาถึงฉากแผนที่ก็พบว่ามีการปรับปรุงเพิ่มส่วนประกอบตามฉากอย่างเช่นพงหญ้าไปบ้าง ถ้าหากเทียบกับของเดิมแล้วถือว่าดูดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว แต่ในภาพรวมแล้วฉากและ Texture ของเกมก็เห็นได้ถึงความแตก หรือมีพื้นที่โล่งซึ่งเห็นความเหลี่ยมคมของฉากอย่างชัดเจน จึงทำให้หน้าตาของเกมนั้นยังคงออกมาดูเหมือนเกมเก่าล้าสมัย ถึงแม้จะปรับปรุงกราฟฟิกให้ดีขึ้นบ้างแล้วก็ตาม

ทางด้านเพลงประกอบก็มีความไพเราะและบรรยากาศในแบบของ NieR Series อยู่แล้ว แต่บางเพลงที่ได้ถูกเรียบเรียงใหม่ก็ให้ความรู้สึกได้ว่าไพเราะขึ้นอยู่พอตัว บทพูดของตัวละครก็ได้รับการพากย์เสียงใหม่ และยังเป็นเสียงพากย์แบบ Full Voice ทั้งตัวเอกและตัวประกอบ อีกทั้งยังสามารถเลือกเปลี่ยนคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ/เสียงญี่ปุ่นได้ จึงทำให้ได้อรรถรสสำหรับผู้ที่ชอบฟังเสียงพากย์ของตัวละคร ไม่ว่าจะจากบทสนทนาทั่วไปกับชาวบ้าน หรือบทพูดของตัวละครที่คุยกันระหว่างการเดินทาง ถือว่าเรื่องเสียงประกอบนั้นทำมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว

มาถึงส่วนของเกมเพลย์ที่ยังคงเป็น Action ทำคอมโบการโจมตีได้อย่างเรียบง่าย รวดเร็ว และสนุก อีกทั้งยังมีการปรับปรุงให้เล่นได้อย่างลื่นไหลมากขึ้นจนสนุกไม่แพ้เกมในยุคนี้เลย โดยการโจมตีนั้นจะมีการโจมตีเบาและการโจมตีหนักที่สามารถจบคอมโบได้หนึ่งชุด แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบคอมโบได้ด้วยการกดปุ่มโจมตีค้างเอาไว้ เพื่อทำให้ท่าโจมตีเปลี่ยนไปและเป็นการผสมคอมโบท่าโจมตีได้อีกรูปแบบหนึ่ง และยังมีระบบ Side Step ที่น่าชื่นชม โดยเมื่อกดปุ่มเดินหน้าเข้าหาศัตรูและกดปุ่มกลิ้งหลบ จะทำให้สามารถอ้อมไปข้างหลังศัตรูได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นระบบที่ช่วยเหลือการต่อสู้ได้มากทั้งการหลบหลีกและการโจมตีอย่างต่อเนื่อง หากฝึกใช้จนชำนาญได้จะทำให้การเล่นสนุกขึ้นกว่าเดิมได้เหมือนกัน

อาวุธที่มีให้ใช้ในเกมช่วงแรกจะมีเพียงแค่ดาบเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเล่นถึงจุดหนึ่งแล้วจะสามารถปลดล็อคให้ตัวเอกสามารถใช้ดาบสองมือและหอกได้ โดยสามารถเปลี่ยนอาวุธได้ทันทีด้วยการกดปุ่มทิศทาง D-pad ของอาวุธค้างเอาไว้ หรือถ้าหากอยากเปลี่ยนอาวุธเป็นชิ้นอื่นที่มีพลังโจมตีแรงกว่าหรือเร็วกว่า ก็สามารถกดปุ่ม  D-pad หนึ่งครั้ง เพื่อเลือกเปลี่ยนอาวุธได้ทันทีระหว่างต่อสู้ และในขณะที่ผู้เล่นเก่งขึ้น ศัตรูเองก็จะพัฒนาความสามารถและเก่งขึ้นตามเนื้อเรื่องไปด้วย

เมื่อผู้เล่นจัดการศัตรูและทำการต่อสู้บ่อย ๆ ก็จะเป็นการเพิ่มเลเวลความสามารถของตัวละคร และปลดล็อคการใช้สกิลจากพลังเวทมนตร์ของหนังสือสีขาว ซึ่งมีสกิลท่าโจมตีรวมท่าป้องกันอยู่ถึง 8 แบบ และสามารถเลือกเปลี่ยนในการต่อสู้ได้ตลอดเวลาเช่นกัน โดยการใช้สกิลของหนังสือนั้นจะเสียค่า MP ตามรูปแบบการโจมตีของแต่ละท่า เมื่อ MP หมดก็ต้องรอการฟื้นฟูใหม่ ทำให้สกิลนั้นไม่สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องทุกสกิลเสมอไป แต่ต้องบริหารการใช้งานตามสถานการณ์ให้เหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้สกิลในการต่อสู้กับบอสหรือศัตรูที่แข็งแกร่งให้ถูกต้อง ก็ยังเป็นส่วนที่ช่วยให้ได้เปรียบในการต่อสู้มากขึ้นด้วย

โดยรวมแล้วระบบต่อสู้ของเกมภาคนี้ได้รับการปรับปรุงให้ลื่นไหลขึ้นและเล่นได้สนุกขึ้นมาก นอกจากการโจมตีแล้วยังมีการกลิ้งหลบ หรือการพุ่งหลบ/โจมตีกลางอากาศ ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบของเกม Action ที่ผู้เล่นน่าจะต้องการกัน ถึงจะไม่มีระบบ Parry หรือการหลบให้ถูกจังหวะ ก็ยังมีระบบ Side Step เข้ามาทดแทนเป็นอย่างดี ต่อให้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ก็ยังสามารถสนุกได้ไม่ยาก หรือถ้าหากกดปุ่มไหนไม่ถนัดก็สามารถตั้งค่าปุ่มใหม่ได้ตามใจชอบอีก แต่ก็ยังมีส่วนที่น่าเสียดายว่าถึงแม้จะมีสกิลที่หลากหลายให้เลือกใช้ แต่ตัวเกมก็ยังสามารถตั้งค่าสกิลไว้ได้แค่ 4 ปุ่ม ซึ่งรวมกับปุ่มกลิ้งหลบและปุ่มป้องกันที่มีอยู่แต่เดิมด้วย หมายความว่าถ้าหากผู้เล่นต้องการใช้สกิลของหนังสือมากกว่า 2 ท่า ก็ต้องยอมเสียปุ่มแอ็คชั่นปุ่มอื่นเป็นการแลกเปลี่ยนไป

ในแผนที่ของเกมนั้นไม่ใช่ Open World แต่เป็นแผนที่ขนาดใหญ่ในระดับหนึ่งที่มีการตัดฉากเข้าสู่แผนที่ต่อไป และด้วยความที่แผนที่แต่ละฉากนั้นไม่มีอะไรมากนัก ทำให้สิ่งที่สามารถทำได้บนแผนที่นอกจากการต่อสู้ จึงมีแค่การล่าสัตว์ ตกปลา หาเก็บของตามทาง หรือการไปพูดคุยกับผู้คนตามเมืองต่าง ๆ เพื่อทำเควสต์หาเงินไปซื้ออาวุธราคาแพงที่มีพลังโจมตีมากขึ้น ซึ่งในส่วนของการล่าสัตว์นั้นก็มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้าง โดยเมื่อผู้เล่นหันมุมกล้องให้สัตว์ที่จัดการไว้หลุดจากหน้าจอที่มองอยู่ เมื่อหันกล้องกลับมาใหม่อีกทีแล้วศพของสัตว์ตัวนั้นก็จะหายไปอย่างกับหนังสยองขวัญทันที ใครที่ยังไม่ทันได้เก็บไอเท็มก็ต้องไปล่าสัตว์ตัวใหม่แทน แต่โชคดีที่การล่าสัตว์นั้นไม่ใช่ส่วนสำคัญมากจึงถือว่าไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่

สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเนื้อเรื่อง การทำเควสต์ หรือการหาเก็บวัตถุดิบ คือการที่ผู้เล่นต้องวิ่งไปกลับวนไปวนมาอยู่กับแผนที่เดิม ๆ เป็นประจำเสมอ ถึงแม้จะมีการปลดล็อค Fast Travel ในภายหลังก็ดูเหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก อีกทั้งเวลาที่ต้องเข้าดันเจี้ยนเดิมใหม่อีกครั้ง ผู้เล่นก็จะถูกล็อคให้ต้องต่อสู้กับศัตรูตามทางใหม่ทุกครั้งเสมอ ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เก็บวัตถุดิบเพิ่ม แต่ในบางกรณีก็ไม่จำเป็นและค่อนข้างเป็นเรื่องน่าเบื่อที่ต้องเสียเวลามากเกินไป กับการไปกลับเพียงในสถานที่เดิมเพื่อทำเป้าหมายเพียงอย่างเดียวอยู่บ่อยครั้ง

ในตัวเกม ver.1.22474487139... ได้มีสิ่งที่พิเศษกว่าเกมเวอร์ชั่นเดิม คือการเพิ่มเนื้อหาบางส่วนเข้ามาใหม่ ได้แก่ Extra Episode ที่ถูกใส่เพิ่มเข้าในเนื้อเรื่อง ซึ่งจะมีเนื้อเรื่องใหม่และบอสตัวใหม่ให้ได้สู้กัน โดยรวมแล้วถึงจะค่อนข้างสนุก แต่ก็มีความยาวระดับเดียวกับเควสต์ทั่วไปซึ่งไม่ยาวมากนัก และนอกจากเนื้อเรื่องใหม่แล้วก็ยังมีดันเจี้ยน "15 Nightmares" ที่ให้วัดฝีมือต่อสู้และสามารถเปลี่ยนชุดของตัวละครให้เป็นชุดใหม่ ๆ ได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปเล่นเป็น "คุณพ่อ" จากเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมได้ด้วย และเมื่อพูดถึงชุดแล้วก็พลาดไม่ได้เลยที่จะมีชุดจาก NieR: Automata มาเป็นชุด DLC ให้โหลดไปเปลี่ยนกันได้ฟรีด้วยอีกต่างหาก

Review Score: 8/10

สรุปโดยรวมแล้ว สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่อาจจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า นี่ไม่ใช่เกมใหม่แกะกล่องหรือเกม Remake แต่นี่เป็นเกมเมื่อ 11 ปีก่อน ที่ถูกนำกลับมาวางจำหน่ายใหม่แบบ Remasterd ระบบการเล่นหรือการนำเสนอบางอย่างจึงยังดูมีความเก่าไปบ้างตามยุคสมัย ทำให้อาจจะไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานของเกม Action หรือเกม Remake ในปัจจุบันได้ซะทีเดียว

ส่วนผู้ที่เคยเล่นเกมในเวอร์ชั่นเดิมมาแล้ว คงต้องถามใจตัวเองว่าอยากกลับมาสัมผัสกับเรื่องราวของเกมใหม่อีกครั้งหรือไม่ เพราะเกมเพลย์นั้นปรับปรุงใหม่ให้เล่นได้ลื่นไหลสนุกขึ้นมาก และกราฟิกของเกมก็ยังดูแล้วสบายตามากขึ้นเยอะ อย่างน้อยหมูป่าไม่เหลี่ยมเป็นก้อนแบบเมื่อก่อนก็น่าจะทำให้แฟนเกมหลายคนดีใจกันมากแล้ว นี่ยังได้เห็นตัวละครที่รู้จักกลับมาดูดีขึ้นกว่าเดิมอีก แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ทั้งหมดนั้นแทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง และเนื้อหาที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็อาจจะยังเป็นแรงจูงใจให้ชวนมาเล่นใหม่อีกรอบได้ไม่มากพอขนาดนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะผ่านมานานกว่า 11 ปีแล้ว แต่ NieR Replicant ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ก็ยังคงเป็นเกมที่มีความสนุกของเรื่องราว และมีเกมเพลย์ที่สามารถหยิบมาเล่นได้ในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมของ NieR: Automata หรือไม่ การนำเสนอองค์ประกอบของเกมที่โดดเด่น และเนื้อเรื่องกับตัวละครที่แฝงความลึกลับเอาไว้ให้ชวนค้นหา ก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเกมซีรีส์นี้ที่ทำให้มีความหนักแน่นไม่แพ้เกมอื่น ๆ

การเป็นเกมเก่าแต่ยังเก๋านั้นจึงกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายและเสน่ห์ของความเป็น JRPG ที่ควรหามาลองเล่นดูสักครั้ง คงต้องบอกว่านี่เป็นโอกาสอันดีแล้วที่จะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งเกมดีที่เคยพลาดไปเมื่อ 11 ปีก่อน อย่างน้อยเมื่อได้พบกับเรื่องราวการเดินทางพวกเขาสามคนกับหนังสืออีกหนึ่งเล่ม ใน NieR Replicant ver.1.22474487139... ก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกชื่นชอบเกมนี้มากกว่าที่คาดคิดก็เป็นได้