แฟน Pokémon Go ไม่พอใจ หลังทีมพัฒนาเกมทำเหมือนโลกนี้ไม่มีโควิด-19

Pokémon Go คือเกม AR ที่มีระบบเด่นอย่างการอิงกับแผนที่โลกจริง ๆ ในการออกตามหาและจับโปเกม่อนมาเล่น แต่เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 การเล่นเกมนี้อาจจะลำบากขึ้นเนื่องจากภายนอกยังมีการระบาดของไวรัสอยู่ ตัวเกมจึงมีการอัปเดตเพื่อให้สามารถเล่นภายในบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น อาทิ การแจกไอเทมต่าง ๆ แบบฟรี, การเว้นระยะของตัวผู้เล่นกับเสา PokeStops และ ยิม ให้อยู่ในระยะห่างมากยิ่งขึ้น ฯลฯ ทว่า ดูเหมือนแฟนเกมจะไม่พอใจกับทางทีมพัฒนาเกมเมื่อพวกเขามีการแสดงออกเหมือนการระบาดไวรัสโควิด-19 จบลงไปแล้ว

เรื่องนี้เริ่มมาจากทาง Niantic ประกาศเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนตัวเกมฯ ให้กลับสู่ภาวะปกติก่อนมีการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งยังมีการออกกิจกรรมที่เน้นให้ผู้เล่นออกไปนอกบ้าน อาทิ การปรับลดไอเทมที่บัดดี้โปเกม่อนจะนำมาให้, ลดการเกิดของโปเกม่อนเมื่อไม่มีการเคลื่อนที่ในช่วงที่ใช้ไอเทมเครื่องหอม โดยเน้นในการหาไอเทมต่าง ๆ โดยผ่านทาง PokéStops เช่น การเพิ่มในส่วนของบัตรตีบอสฟรีที่จะเพิ่มให้เป็น 2 ใบ รวมถึงการปรับระยะของตัวผู้เล่นกับเสา และ PokeStops ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เป็นต้น โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเริ่มต้นในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมในนิวซีแลนด์และสหรัฐก่อน โดยเหตุผลคือ นิวซีแลนด์นั้นปลอดภัยจากการระบาดแล้ว ส่วนสหรัฐอเมริกานั้น แม้ว่าจะยังไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมาก

ประกาศดังกล่าวส่งผลให้ผู้เล่นบางส่วนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการกึ่งบังคับให้ผู้เล่นจะต้องออกไปนอกบ้านหากอยากได้ไอเทมมาใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดการได้เปรียบผู้เล่นที่อยู่ในประเทศที่ยังคงมีการระบาดอย่างรุนแรงและไม่สามารถออกนอกบ้านได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวัคซีนจะสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัสได้ แต่ก็ไม่ไช่ทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และการได้รับวัคซีนก็ไมได้หมายความว่าเราจะรอดพ้นจากการติดเชื้อ แต่การประกาศของทาง Niantic กลับชี้นำเหมือนโลกปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 แล้ว แต่ก็มีความเห็นบางส่วนก็มองเรื่องนี้ในทิศทางที่ดี เพราะก็สื่อถึงว่า การระบาดของไวรัส โควิด-19 เริ่มลดลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้วจริง ๆ

ล่าสุด ได้มีผู้เล่นรวมตัวทำแคมเปญเกี่ยวกับประเด็นนี้บน Change เพื่อขอให้ทาง Niantic เว้นระยะของ PokeStop และ Gym กับตัวผู้เล่นให้ห่างมากขึ้นเหมือนเดิมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่คนเล่นกันเองจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการรวมตัวกัน โดยมีคนล่ารายชื่อกันได้เกิน 48,200 คนแล้ว (ณ วันที่ 23 มิ.ย. เวลา 15.05 น.)