ไม่ชอบ FPS แต่ Resident Evil 7 ขายได้ 10 ล้านชุดทั่วโลกแล้ว
Capcom ยังคงเป็นบริษัทผู้ผลิตเกมที่สามารถทำยอดขายระยะยาวจากแฟนเกมทั่วโลก และเป็นอีกครั้งที่สามารถประกาศได้อย่างภูมิใจว่า Resident Evil 7 ซึ่งเป็นภาคที่ได้เปลี่ยนโฉมของเกมใหม่ในปัจจุบัน ได้ทำยอดขายมากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลกแล้วเป็นที่เรียบร้อย
Resident Evil 7 ได้วางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนมกราคมปี 2017 บนเครื่อง PlayStation 4, Xbox One, PC โดยนำเสนอประสบการณ์ของความกลัวอันน่าสยดสยอง จากการสำรวจและหลบหนีภายในบรรยากาศอันตึงเครียดที่สุดของซีรีส์ ซึ่งผู้เล่นจะได้หาทางเอาชีวิตรอดภายในเรื่องราวอันลึกลับด้วยมุมมองเดียวกับตัวเอก Ethan Winters
สิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของ Resident Evil 7 คือการเปลี่ยนระบบการเล่นจากมุมมองบุคคลที่สาม หรือ Third Person (TPS) ไปเป็นแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือ First Person (FPS) แทน นั่นจึงทำให้มีผู้เล่นหลายคนที่ไม่สามารถเล่นมุมกล้องแบบนี้ได้ ประสบปัญหากับอาการที่เรียกว่าการ "เมากล้อง" หรือ Motion Sickness จึงทำให้พลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสซีรีส์เกมที่เคยชื่นชอบนี้ในยุคปัจจุบันไป
ถึงแม้ประเด็นการเปลี่ยนมุมกล้องและรูปแบบการเล่นของเกมจะยังคงเป็นที่พูดคุยถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน แต่การทำยอดขายถึง 10 ล้านชุดของ Resident Evil 7 ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการประสบความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และนี่ยังเป็นเกมแรกของ Resident Evil ที่สามารถทำยอดขายสูงถึงขนาดนี้โดยที่ไม่ใช่เกม Remaster หรือเกม Remake ที่ทาง Capcom ชอบนำกลับมาขายซ้ำใหม่อีกรอบอยู่เสมอ
ความสำเร็จในการนำเสนอของ Resident Evil 7 ได้ถูกนำไปสานต่อใน Resident Evil Village ที่เป็นเกมภาคล่าสุดในขณะนี้ และคาดว่าตัวเกมในภาคต่อไปก็มีโอกาสสูงมากที่ทาง Capcom จะยังคงใช้มุมกล้องแบบ FPS แบบนี้อยู่เช่นเคย เพราะถึงแม้จะมีจำนวนผู้เล่นบางกลุ่มที่ลดลง แต่มันกลับทำยอดขายให้กับผู้เล่นใหม่ได้มากขึ้นถึงขนาดนี้เลยทีเดียว