รีวิวเกม The Dark Pictures Anthology: House of Ashes

เนื้อเรื่องของเกม

The Dark Pictures Anthology: House of Ashes ในจักรวรรดิแอกแคดโบราณในปี 2231 ก่อนคริสตกาล ชาวอัคคาเดียนอยู่กับความอดอยากโรคระบาด และกับการทำสงครามกับชาวกูเตียน ราชาอัคคาเดียนตกอยู่ในความบ้าคลั่ง เข้าลี้ภัยในวิหารอันยิ่งใหญ่ของเขา และประหารนักโทษกูเตียนเป็นการสังเวยโลหิต ขณะที่กูเตียนโจมตีวิหาร สุริยุปราคาก็เกิดขึ้นและสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อสังหารทั้งกองทัพอัคคาเดียนและกูเตียน ผู้รอดชีวิตสองคน นายพลชาวอัคคาเดียน บาลาทู (Balathu) และ คุรุม (Kurum) ทหารกู่เทียนหนีเข้าไปในสุสานใต้ดินของวิหารเพื่อหนีจากสิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตามสุดท้ายพวกเขาก็ถูกฆ่าตาย

ในปี พ.ศ. 2546 พันเอก เอริค คิง (Eric King) เดินทางถึงอิรัก เขาบรรยายสรุปทีมที่นำโดยนาวิกโยธินสหรัฐฯ เจสัน โคลเช็ค (Jason Kolcheck) และจ่านิค เคย์ (Nick Kay) ว่าพวกเขาจะบุกค้นคลังเก็บของที่ตรวจพบโดยดาวเทียมที่อาจถืออาวุธทำลายล้างสูง ทีมนี้ยังรวมถึง ราเชล คิง (Rachel King) เจ้าหน้าที่ซีไอเอ ในขณะเดียวกันทหารอิรัก สลิม โอธมาน (Salim Othman) พยายามส่งของขวัญให้ลูกชายของเขา แต่ถูกผู้บังคับบัญชาบังคับให้สกัดกั้นทีมของเอริค ทีมของซาลิมซุ่มโจมตีนาวิกโยธินสหรัฐฯ แต่การต่อสู้ทำให้เกิดถ้ำที่ทำให้ทุกคนตกอยู่ในวิหารอัคคาเดียนโบราณซึ่งฝังอยู่ใต้ดิน ภายในวิหารทั้งสองฝ่ายถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายค้างคาวซึ่งเรียกกันว่าแวมไพร์

ระบบเกมเพลย์

The Dark Pictures Anthology: House of Ashes ได้นำเสนอเกมผจญภัยสยองขวัญเอาชีวิตรอดที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตสิ่งมีชีวิตลึกลับไล่ล่า ดำเนินเรื่องในดินแดนวิหารโบราณใต้ดินบรรยากาศยามค่ำคืนสยองขวัญน่าขนลุก เอาชีวิตรอดจากการตามล่าตื่นเต้นน่ากลัว สำหรับเกมเมอร์ที่ชอบเกมผจญภัยสยองขวัญเอาชีวิตรอด และไม่ขาดช่วงไปกับการเนื้อเรื่องที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง และตัวเกมส์เองยังมีฉากจบหลายแบบและการเลือกตอบคำถามก็มีผลต่อการดำเนินเนื้อเรื่องของเกมส์ได้เช่นกัน จึงทำให้ผู้เล่นนั้นเล่นได้หลายๆรอบเพื่อจะได้ดูฉากจบที่ต่างกันออกไปจากการตอบคำถาม หรือ การเลือกเส้นทางในเกมสด้วย ตัวเกมส์จะเหมือนกับให้เราดูหนังดีๆ ซักเรื่องเลยทีเดียว

จากการที่ผู้เล่น เล่นจบไปแล้วนั้น ตัวเกมส์การเล่นหรือการนำเสนอนั้นไม่ได้ต่างออกไปจาก สองภาคที่ออกมาก่อนหน้านี้ซักเท่าไหร่นักแต่เมื่อตัวเกมส์มารันบน PS5 เราสามารถปรับได้สองโหมดคือ โหมด performance ตัวเกมส์จะรัน 60 fps ส่วนอีกโหมดก็คือ Quality ซึ่งจะเป็นโหมดที่ทำให้ภาพในเกมส์สวยขึ้นแต่ตัวเกมส์จะรันที่ 30 fps