รีวิวเกม Black Forest สร้างเมือง เอาตัวรอดจากภัยร้ายกลางป่าลึก
Black Forest เป็นเกมขนาดเล็กที่เปิดให้เล่นแบบ Early Access ไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2021 พัฒนาและจัดจำหน่ายโดย Lemuria โดยทางค่ายชูจุดเด่นที่ทำให้ Black Forest แตกต่างจากเกมแนวบริหารทรัพยากรและสร้างเมืองเกมอื่นก็คือการผสมผสานแนวเกมแบบเอาตัวรอดเข้ามาด้วย แต่หลังจากลองเล่นแล้วระบบเกมจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน สนุกและตอบโจทย์คนชอบเกมแนวสร้างเมืองหรือไม่ ลองมาดูกัน
วางแผน สร้างเมือง บริหารทรัพยากร และปกป้องผู้คนจากภัยร้ายในป่า
Black Forest เป็นเกมแนวบริหารทรัพยากรที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่าลึกของเยอรมันช่วงยุคกลาง ผู้เล่นต้องสร้างหมู่บ้านให้แข็งแกร่งมากพอที่จะเอาตัวรอดจากภัยร้ายต่าง ๆ เช่น หนู หมาป่า หรือหมีที่กำลังหิวโหย ขณะเดียวกันก็ต้องส่งคนในหมู่บ้านออกไปค้นหาทรัพยากรอย่างอาหาร ไม้ และหิน เพื่อให้ชาวบ้านเอาตัวรอดจากความหิวและสร้างสิ่งก่อสร้างที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม
ใครที่คุ้นเคยกับเกมแนวสร้างเมือง บริหารทรัพยากร และวางกลยุทธ์ คงเคยชินกับระบบเกมอยู่แล้ว การเล่น Black Forest จึงไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือแตกต่างไปจากเกมแนวนี้สักเท่าไร แต่สิ่งที่ดูจะทำให้เกมมีความน่าสนใจขึ้นมาบ้างก็คือโหมดการเล่นที่แบ่งออกเป็นโหมดเนื้อเรื่องและโหมดอิสระที่สามารถเลือกความยากได้ 4 ระดับ แต่สำหรับช่วง Early Access นั้นตัวเกมจะสามารถเล่นได้เฉพาะโหมดอิสระ และเลือกระดับความยากได้แค่ Easy, Normal และ Hard เท่านั้น
ระบบเกมและวิธีเล่น
สำหรับวิธีเล่นนั้น Black Forest ก็ไม่ต่างจากเกมแนวเดียวกันเกมอื่น เริ่มต้นผู้เล่นจะมีทรัพยากรตั้งต้นมาให้เล็กน้อย ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง และสิ่งก่อสร้างอย่างบ้าน แปลงผัก และรั้ว ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัด ผู้เล่นต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจะเริ่มสร้างอะไรก่อนหลัง และจะแบ่งหน้าที่ของชาวบ้านอย่างไร การสร้างสมดุลระหว่างการหาอาหาร เก็บไม้และหินคือหัวใจสำคัญ เพราะหากเน้นเก็บอาหารมากไปก็จะขาดทรัพยากรที่ใช้ในการก่อสร้าง ขณะที่การเน้นสร้างสิ่งก่อสร้างมากเกินไป ผู้คนก็อาจอดอยาก จนไม่สามารถทำงานได้
ส่วนการออกคำสั่งหรือการควบคุมต่าง ๆ จะใช้เมาส์เป็นส่วนใหญ่ โดยเราสามารถคลิกที่สิ่งก่อสร้างเพื่อเลือกคำสั่งต่าง ๆ ได้โดยตรง ส่วนการส่งชาวบ้านออกไปค้นหาทรัพยากรนั้นสามารถทำได้โดยเลือกเมนูที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ ส่วนการก่อสร้างก็สามารถเลือกได้ว่าจะสร้างรั้วและประตูเพื่อปกป้องหมู่บ้านก่อน หรือจะเน้นสร้างแปลงผักและฟาร์มเพื่อตุนอาหารก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้เล่นจะตัดสินใจ
จุดประสงค์ของเกมนี้ไม่ใช่การขยับขยายหมู่บ้านให้ใหญ่โตหรือการต่อสู้กับสัตว์ร้ายจนพิชิตพวกมันได้ แต่เป้าหมายของเกมคือการยืดหยัดเอาชีวิตรอดให้ได้นานที่สุด ดังนั้นการอัปเกรดสิ่งก่อสร้างจึงทำไปเพื่อเพิ่มโอกาสรอดให้ชาวบ้านและเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของเกม
ภัยร้ายที่พร้อมคุกคามในยามค่ำคืน
จุดเด่นของ Black Forest อยู่ที่การเอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายหลังตะวันตกดิน ซึ่งเราขอบอกเลยว่าช่วงแรกหากยังไม่สร้างเสาไฟหรือกองไฟ เมื่อตกกลางคืนเมื่อไรเกมจะมืดมากจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย ทำให้เข้าถึงอารมณ์การเอาตัวรอดในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงไฟได้ดีและสร้างความตื่นเต้นได้พอสมควร
ขณะที่สัตว์ร้ายแต่ละประเภทก็มีพฤติกรรมเฉพาะตัวและมีความฉลาดมากพอที่จะหาช่องโหว่ของกำแพงที่เราสร้างเพื่อพังเข้ามา พวกมันพร้อมจะทำลายอาคารบ้านเรือน แปลงผัก และสัตว์เลี้ยง การทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกมันให้ดีจึงช่วยให้เราสามารถวางแผนสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อรับมือกับพวกมันให้ดีที่สุดได้
สรุป
ตัวเกม Black Forest มีจุดเด่นเรื่องการเอาตัวรอดซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเพราะเมื่อถึงเวลากลางคืน ความมืดกลายเป็นอุปสรรคในการเล่นและสร้างความกดดันได้พอสมควร ขณะที่ข้อจำกัดเรื่องแรงงานทำให้ต้องบริหารหน้าที่ของชาวบ้านแต่ละคนให้สมดุลที่สุด อย่างไรก็ตามความตื่นเต้นก็มีแค่ช่วงแรกเท่านั้น เพราะกว่าจะผ่านไปแต่ละวันรู้สึกว่าค่อนข้างเนือยพอสมควร กว่าจะไปถึงวันที่ 15 – 20 หลายคนอาจเบื่อก่อน
ส่วนกราฟิกนั้นสวยงามเรียบง่าย เข้าใจง่าย เป็นมิตรทั้งผู้เล่นมือโปรและผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งหันมาเล่นเกมแนวสร้างเมืองและบริหารทรัพยากร ที่สำคัญตัวเกมยังเปิดให้เล่นกันแบบฟรี ๆ จึงถือว่าคุ้มค่ามากพอที่จะโหลดมาทดลองเล่น ส่วนใครเล่นแล้วถูกใจก็สามารถสนับสนุนผู้พัฒนาด้วยการซื้อแพ็กเกจราคา 99 บาทได้เลย ซึ่งแพ็กเกจนี้เป็นการปรับปรุงหน้าตาหมู่บ้านให้สวยงามขึ้น ไม่ได้มีผลต่อระบบเกมแต่อย่างใด