รีวิว Pokémon Legends: Arceus ยกเครื่องเกมเพลย์ครั้งใหญ่ ตะลุยโลกอดีตกาล

(Minor Spoiler) 

หลังได้ย้อนอดีตกลับไปเล่นเกมภาคเก่าฉบับ Remake กับ Pokémon ภาค Brialliant Diamond และ Shining Pearl ให้ได้หายคิดถึงกันไปเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นปีใหม่ก็ได้เวลาโปเกมอนเกมภาคใหม่ล่าสุด ที่สานต่อเรื่องราวจาก Gen 4 มาให้ได้สนุกกันต่อกับ Pokémon Legends: Arceus ซึ่งนับได้ว่าเป็นการพัฒนาที่กล้าทำให้เกมเพลย์แตกต่างออกมาจากขนบเดิมของเกมโดยแท้จริง เรียกได้ว่าทีมพัฒนาพร้อมแล้วที่จะก้าวไปสู่ยุคใหม่ของเกมโปเกมอน

Pokémon Legends: Arceus เป็นเกมสไตล์ Action RPG (ใช่ พวกเขาทำให้มันเป็นเกมแอคชั่นเต็มตัวได้สำเร็จแล้ว) พัฒนาโดย Game Freak ลงให้กับเครื่องเกม Nintendo Switch และจัดจำหน่ายโดย Nintendo เองร่วมกับ Pokémon Company โดยเกมจะพาผู้เล่นย้อนกลับไปสู่ยุคอดีตกาลของโลกโปเกมอนในเซ็ตติ้งสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ที่มีวัฒนธรรมและอาร์ตสไตล์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมกับเทคโนโลยีที่เริ่มถูกนำเข้ามาโดยทีมสำรวจ Galaxy นับเป็นครั้งแรกที่เกมฉีกออกจากสไตล์โมเดิร์นแบบที่ผ่านมาร่วมกับเกมเพลย์ที่ยกเครื่องใหม่แทบทั้งหมด

ระบบของเกมยังมีจุดโฟกัสหลักที่การเดินทางของตัวละครเพื่อทำเป้าหมายที่ต้องการให้สำเร็จ จับโปเกมอนและแบทเทิลกับผู้คนหรือโปเกมอนป่าระหว่างทาง แต่จุดที่เปลี่ยนแปลงคือเป้าหมายของตัวละครที่แตกต่าง และระบบการจับโปเกมอนที่หลากหลายขึ้นอย่างมาก

เกมดำเนินบนพื้นที่กว้างใหญ่สไตล์เดียวกับ Zelda BotW คุณจะเห็นโปเกมอนใช้ชีวิตอยู่บนฟิลด์เดินไปมาให้เห็นชัดเจน ซึ่งการจับนั้นไม่ได้มีแค่การเข้าไปต่อสู้แล้วจับอีกต่อไป แต่ในยุคสมัยที่ผู้คนยังไม่คุ้นเคยกับการมีโปเกมอนในครอบครอง เหล่าโปเกมอนยังถือเป็นสัตว์ป่าที่น่ากลัวและทำร้ายผู้คนได้โดยง่าย ทำให้ตัวเอกต้องจับโปเกมอนด้วยวิธีที่แตกต่างออกไปเช่นกัน

การจับโปเกมอนในภาคนี้ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ก่อนอีกต่อไป ผู้เล่นสามารถปาโปเกบอลใส่โปเกมอนในฉากได้ทันทีเพื่อจับ ซึ่งโปเกมอนที่ใช้ชีวิตอยู่ในฉากนั้นก็มีนิสัยใจคอที่แตกต่างออกไป ทำให้เราต้องใช้วิธีการจับที่ไม่เหมือนกันด้วย บางตัวเป็นพวกเชื่องช้า ไม่แคร์สื่อ ไม่สนคน เราสามารถเดินเข้าไปปาบอลใส่มันได้ทันที บางตัวเป็นพวกตื่นคน ใครเข้าใกล้ก็พร้อมจะวิ่งหรือบินหนีหายไป

โปเกมอนจำพวกนี้เราต้องทำการย่องหรือ "ลอบเร้น" เข้าไปปาโกบอลใส่ไม่ให้มันตั้งตัว บางตัวเป็นพวกก้าวร้าวที่ถ้ามันเห็นเราจะไล่โจมตีเราทันทีโดยไม่ต้องรอให้เราเรียกโปเกมอนของเราออกมาสู้ ใช่ครับโปเกมอนป่าภาคนี้ทำร้ายผู้คนทันทีที่พบเห็นและเล่นงานเราเข้าโรงพยาบาลได้เลย

ระบบแอคชั่นและการลอบเร้นของเกมนี้แม้จะไม่แปลกใหม่ใน Genre ของเกมลอบเร้นยุคนี้อย่างเกมตระกูล Metal Gear Solid หรือสายนินจาทั้งหลาย แต่กับเกมโปเกมอนนับว่าน่าสนใจและแปลกใหม่ โดยผู้เล่นสามารถแอบในพุ่มหญ้า เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อลอบเข้าจุดอับสายตาของโปเกมอนและปาบอลจับมันจากด้านหลังเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่พอยังมีเทคนิคอย่างการปาเหยื่อล่อดึงความสนใจจากโปเกมอนตัวนั้นให้หันหน้าหนีก็มี มีการเคลื่อนที่อย่างกลิ้งตัวหลบที่ช่วยให้เราหลบการโจมตีจากโปเกมอนก็ทำได้เช่นกัน

การต่อสู้หรือโปเกมอนแบทเทิลในเกมก็พัฒนาให้ทั้งเข้าใจง่ายขึ้น และหลากหลายขึ้น โปเกมอนไม่จำเป็นต้องเสียท่าการโจมตีเดิมไปถาวรเพื่อให้ได้ท่าใหม่มาทดแทน แต่จะสามารถถอดสลับท่าการโจมตีที่สะสมไว้ได้ตลอดเวลา มีตารางชนะ - แพ้ธาตุของโปเกมอนในเกมให้ผู้เล่นได้ศึกษาอย่างชัดเจน ไม่ต้องไปหาในเน็ตอีกต่อไป

มีการโจมตีรูปแบบใหม่เรียกว่า Strong Style รูปแบบการโจมตีที่ทำให้ท่าโจมตีนั้นช้าลงแต่รุนแรงขึ้น และ Agile Style รูปแบบการใช้ท่าที่ทำให้พลังโจมตีของท่านั้นเบาลง แต่รวดเร็วพอที่มีโอกาสให้โปเกมอนของเราโจมตีครั้งต่อไปได้ก่อนอีกฝั่ง โดยจะได้มาหลังจากโปเกมอนของเราคุ้นชินกับท่าโจมตีนั้นๆ แล้ว เชื่อได้เลยว่าจะทำให้การต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ในโปเกมอนแบทเทิลระดับสูงมีความหลากหลายน่าตื่นเต้นขึ้นอีกมาก

ในด้านเนื้อเรื่องของเกมมีความแปลกใหม่เช่นกัน โดยจะบอกเล่าเนื้อหาในสไตล์ Isekai หรือต่างโลก ที่กำลังเป็นที่นิยมในวรรณกรรมญี่ปุ่นยุคใหม่ตอนนี้คือ ตัวเอกที่เป็นคนธรรมดาในยุคปัจจุบันถูกส่งผ่านมิติเวลาไปยังยุคอดีต และได้รับฝากภารกิจจากตัวตนลึกลับมาให้เราออกเดินทางพบเจอโปเกมอนทั้งหมดในทวีปฮิซุยเพื่อจะได้พบกับเขาอีกครั้ง (และอาจจะได้กลับบ้าน?) ซึ่งเราคนแปลกหน้าของยุคนั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากขอความช่วยเหลือจากหน่วยสำรวจทวีปทีม Galaxy เพื่อเอาตัวรอด และช่วยงานวิจัยของทีมโดยเดินทางจับโปเกมอนทุกตัวให้ได้ ไม่ใช่การมีเป้าหมายเพื่อเป็นแชมป์เปี้ยนของโปเกมอนลีคอะไรแบบนั้นอีกต่อไป

ใช่แล้วทีม Galaxy เดียวกับเกมภาค Diamond และ Pearl เลย แต่เป็นในอดีตแทน ซึ่งก็จะมีการปรากฏตัวของเหล่าตัวละครหน้าคุ้นเคยจาก Gen 4 มาปรากฏตัวกันครบครัน ทั้งหัวหน้ายิม จตุรเทพ แชมป์เปี้ยน รวมถึงหัวหน้าแกงค์ Galaxy ที่ปรากฏตัวในรูปแบบที่คาดเดากันได้ว่าน่าจะเป็นบรรพบุรุษของตัวละครใน Gen 4 นั่นเอง

นอกจากภารกิจส่วนตัวของเราแล้ว ในเกมยังมีงานเสริมอื่นมากมายให้ทำโดยชาวบ้านที่มาตั้งรกรากด้วยกันหรืองานที่คนในท้องถิ่นต้องการความช่วยเหลือจากเราอีกที ซึ่งภารกิจมากมายในเกมหลักร้อยงานให้เราทำก็ส่งผลต่อโลกของเกมด้วย เช่นถ้าเราช่วยตามหาโปเกมอนให้ยามคนหนึ่งในเกม เขาจะเลี้ยงเจ้าโปเกมอนตัวที่เราหาให้เขาให้เราเห็นด้วย

และในแต่ละจุดของเกม หากเราไปคุยกับเขา เจ้าโปเกมอนที่เราหามาให้เขาก็จะพัฒนาร่างต่อหน้าต่อตาเราด้วย ไม่พอพวกร้านรวงในเมือง หรือศูนย์บัญชาการหลักของทีม Galaxy เองก็จะพัฒนาขึ้น มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังเราเคลียร์เนื้อเรื่องหลักในแต่ละช่วงอีกด้วย ทำให้เราเหมือนเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเมืองและโลกของเกมจริงๆ

ภาพและกราฟฟิคของเกมพัฒนาขึ้นไปต่อโดยยึดรูปแบบจากสมัยภาค Sword และ Shield โดยปรับโทนและอาร์ตสไตล์หรือ UI และเมนูในเกมให้ออกมาในรูปแบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งน่าสนใจไปอีกแบบ และตัวผู้เขียนรู้สึกเสียดายเพราะว่าเจ้าอาร์ตสไตล์นี้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับการเล่นภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก ฉากในเกมเพราะยึดจากพล็อตของเกมที่ทวีปนี้ยังไม่ถูกบุกเบิก ทำให้พื้นที่ค่อนข้างโล่งกว้างมาก หามนุษย์แทบไม่เจอนอกจากอยู่ใกล้เมืองหรือจุดตั้งแคมป์เท่านั้น ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเพราะบางคนก็อาจมองว่าเกมขี้เกียจรึเปล่าที่จะใส่รายละเอียดเข้ามาในพื้นที่ให้มากกว่าที่เป็น

โมเดลและการเคลื่อนไหวของโปเกมอนมีความหลากหลายขึ้น บางตัวมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งตาม Lore ของมันอย่างคาบิก้อนที่ตัวใหญ่กว่าโปเกมอนร่างแรกๆ หรือโปเกมอนประเภท Alpha หรือจ่าฝูง ที่ตัวใหญ่กว่าโปเกมอนในประเภทเดียวกันอย่างมาก แถมยังตาเปล่งแสงสีแดงดุดันอีกต่างหาก

แต่น่าเสียดายที่ความหลากหลายไม่มาพร้อม Performance เพราะโปเกมอนที่อยู่ห่างเราออกไปนั้นจะถูกปรับลด framerate อย่างมาก น่าจะเห็นขยับในระดับ 2-3 fps ก็ว่าได้ หรือการขยับตัวเล็กๆ น้อยๆ อย่างการขยับตาของโปเกมอนก็ถูกเอาออกไป ทำให้แม้ท่าทางของมันจะเปลี่ยน แต่สีหน้ากลับนิ่งตลอดเวลา ดูน่ากลัวแทนน่ารัก

และแม้จะไม่เยอะมาก แต่ก็มีคนพบเห็นเอามาแชร์กันอยู่เนืองๆ กับพวก Bug หรือ Glitch ของเกมที่ขนาดในเกมรูปแบบเดิมในภาคก่อนๆ ยังมีให้เห็นบ้างบางครั้ง แล้วกับเกมสไตล์ Open-World และ Action สูงขนาดนี้จะไม่มีได้อย่างไร ซึ่งเกมมีจุดที่ยังไม่ขัดเกลาในด้านนี้ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ทั้งการเคลื่อนไหวของตัวเราเอง ตัวโปเกมอน การจับโปเกมอนปาบอลยังไงก็ไม่โดนทั้งที่มันว่ายน้ำอยู่ข้างหน้าเรา และอีกเรื่องที่น่าเสียดายคือแม้เกมจะพัฒนาก้าวไปข้างหน้าสู่ยุคใหม่ของซีรีส์แล้ว แต่เกมก็ยังไม่คิดจะเพิ่มเสียงพากย์ของตัวละครในเกมเข้ามาสักที รวมถึงเพลงประกอบที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของภาคที่ผ่านๆ มา

Review Score: 7/10

เป็นภาคต่อ หรือจะเรียกว่าภาคแยกดี? ที่ยอดเยี่ยมและท้าทายอย่างมากสำหรับเกม Pokémon Legends: Arceus พวกเขาเลือกจะออกมาจาก Comfort Zone ของทีมพัฒนาโดยการยกเครื่องระบบการเล่น การจับโปเกมอน และการดีไซน์ของโลกในเกมทั้งหมดใหม่ รวมถึงการเล่าเรื่องที่ไม่ซ้ำซากจำเจเหมือนภาคหลักที่ผ่านๆ มาอีกแล้ว

ช่วยทำให้เกมซีรีส์นี้สดใหม่ และน่าติดตามมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการจับโปเกมอนแบบใหม่ การต่อสู้ใหม่ๆ รวมถึงการท้าทายยิมที่ภาคนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นการต่อสู้กับบอสโปเกมอนที่น่าสะพรึงและยิ่งใหญ่ยังกับเล่น Monster Hunter แทน น่าเสียดายที่ตัวเกมยังขัดเกลาในด้าน Open World และ Action มาไม่ดีเท่าที่ควร แต่เชื่อได้ว่าเป็นอนาคตที่น่าติดตาม และให้กำลังใจสุดๆ