รีวิวเกม GetsuFumaDen Undying Moon ดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิม
หากจะพูดถึงค่าย Konami แฟนเกมทุกวันนี้อาจจะส่ายหน้าหนี เพราะนอกจากไม่ยอมเอาเกมในตำนานของค่ายมาทำใหม่แล้ว ยังหันหลังให้ตลาดคอนโซลไปทำตู้ปาจิงโกะหรือขาย NFT แทน ทำให้หลายตำนานถูกลืมเลือนไป และแทบไม่มีหวังว่าทางค่ายจะขุดขึ้นมาทำใหม่
แต่แล้วก็มีสิ่งให้ประหลาดใจเพราะมีการเปิดตัว GetsuFumaDen Undying Moon หรือภาคต่อของเกมในตำนานอย่าง “ดาบสายลมฟุกุดะ” ที่วางขายในปี 1987 บน แฟมิคอม ที่ในไทยถือว่าประสบความสำเร็จมากเด็กในยุคนั้นน่าจะรู้จักกัน แต่ใครจะเชื่อนอกจากมันจะไม่เคยมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการแล้ว ยังไม่มีการสร้างภาคต่อออกมาอีกเลยจนล่าสุดทาง Konami ได้ส่งให้ทีมงานอินดี้อย่าง GuruGuru เป็นคนคืนชีพเกมในตำนานอีกครั้งและวางขายบน Nintendo Switch และ PC หลังจากเปิดตัวทดสอบให้ลองเล่นเมื่อปีที่แล้ว
โดยเกม GetsuFumaDen ภาคต้นฉบับที่ออกวางขายบนแฟมิคอม จะเป็นเรื่องราวก่อนภาคนี้ 1,000 ปี ราชาปีศาจนาม Ryukotsuki ได้ถูกปราบและได้ถูกผนึกกลับเข้าจากนักรบ 3 พี่น้องในตำนาน หลังจากนั้น 1,000 ปี Ryukotsuki กำลังจะถูกให้คืนชีพกลับมาคืนชีพอีกครั้ง ทำให้ตัวเอกกลับมาคืนชีพเพื่อลงไปสู่ขุมนรกเพื่อหยุดยั้งการคืนชีพราชาปีศาจ
กราฟิก 2 มิติแนวภาพวาดญี่ปุ่น
ส่วนของกราฟิกใน GetsuFumaDen Undying Moon ถือว่ามีงานออกแบบที่แตกต่างจากภาคแรกแน่นอน เพราะเวลาผ่านมาหลายสิบปี และคราวนี้ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจทำให้มาแนวย้อนยุคได้ลงทุนใช้ Unreal Engine ในการทำภาพให้จำลองมาจากภาพวาดโบราณของญี่ปุ่นที่ดูดีมาก ๆ แม้จะไม่ได้มีความเป็นต้นฉบับอยู่เลย แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เข้าใจได้ และความลื่นไหลและความละเอียดถือว่าดีงามตามแนวเกมที่เป็น 2 มิติมุมมองด้านข้าง
ส่วนเพลงประกอบก็เช่นเดียวกับกราฟิกที่ไม่ได้อิงของเดิม การเล่นกับเสียงบรรยากาศที่ดูหลอน ๆ ให้เข้ากับธีมการต่อสู้กับปีศาจ ที่เป็นแนวญี่ปุ่นโบราณที่เรียบง่าย แต่มันไม่ค่อยมีความเป็นเพลงประกอบเกมคลาสสิกที่ติดหูแบบต้นฉบับในยุค 80S ยังดีที่ผู้สร้างได้ใส่เพลงธีมในตำนานเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของเกมทำให้มันขาดความคลาสสิกไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่านตามมาตรฐานและมีเพลงที่ดูตื่นเต้นเร้าใจอยู่บ้าง
รูปแบบการเล่นแอ็กชัน 2 มิติ
ก่อนอื่นขอพูดถึงเกมเพลย์ของต้นฉบับของ GetsuFumaDen บนแฟมิคอม จะมารูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้าง ที่เราจะได้รับบทเป็นนักรบซามูไรที่ต้องออกไปต่อสู้กับปีศาจที่มีการแบ่งออกเป็นด่าน ๆ และมีฉากแผนที่ รวมทั้งมีระบบไอเทมและยาเติมพลัง และยังเสริมด้วยฉากแบบ 3 มิติมุมมองบุคคลที่ 1 เข้าไปในบางฉากทำให้ ฟุกุดะ แตกต่างจากเกมในยุค 80S มากทำให้เป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้
ส่วนการมาของ GetsuFumaDen Undying Moon ยังคงมาในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่ตัวละครหลักจะต้องท่องไปในดินแดนปีศาจที่เต็มไปด้วยอันตราย และมีงานออกแบบที่เรียบง่าย แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปพอสมควรไล่ตั้งแต่ระบบอาวุธที่จะสามารถพกพาได้ครั้งละ 4 ชนิด โดยจะแบ่งเป็นอาวุธหลักที่เป็นระยะประชิด 2 ชนิด และอาวุธยิงไกล 2 ชนิด ที่หากเจอของใหม่ก็ต้องเลือกที่จะทิ้งอันเก่าไป
ถือว่าแปลกกว่าต้นฉบับพอสมควร และยังเสริมด้วยระบบการอัปเกรดอาวุธเข้าไปทั้งการเพิ่มค่าพลังแบบปรกติทั่วไป และยังมีประเภทของอาวุธเข้าไปมากมายกว่าต้นฉบับมาก ๆ เพราะมีตั้งแต่ดาบ และอาวุธหนักใหญ่ยักษ์อย่างค้อนหรือแปลก ๆ อย่างร่มก็มี ส่วนอาวุธระยะไกลก็มีทั้งปืน , ธนู และดาวกระจายมาให้ใช้งาน แต่ก็มีอาวุธและไอเทมคลาสสิกจากต้นฉบับที่หายไปไม่ได้ใส่เข้ามาในภาคนี้ทำให้น่าเสียดายมาก ส่วนแอ็กชันก็มีการใส่สิ่งใหม่ ๆ เข้าไปเช่นกระโดด 2 จังหวะ หรือการกลิ้งตัวหลบหลีกทำให้ตัวเกมไม่เชยจนเกินไป
เปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยทำให้ไม่เหมือนเดิม
และอีกส่วนที่เปลี่ยนไปคือ กลับมาอีกครั้งของตำนานดาบสายลมผู้สร้างไม่ได้เดินแนวทางเดิมที่เป็นแอ็กชันแบบทั่วไป เปลี่ยนมาเป็นการนำแนว Rogue-Like มาใช้งานซึ่งมันคือการที่การใช่ด่านแบบสุ่ม และจะมีเพียงแค่ชีวิตเดียวหากพลาดตายแล้วต้องกลับมาเริ่มใหม่ทั้งหมด และของรวมทั้งอาวุธที่เก็บมาก็จะหายไปหมดแบบเกม Hades ซึ่งเมื่อเล่นรอบใหม่ก็จะพบว่าด่านไม่เหมือนเดิม แต่เมื่อผ่านด่านแรกไปจะพบกับประตูที่เลือกได้ว่าจะเล่นฉากไหน และจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา
แต่ในเมื่อใช้ระบบด่านสุ่มทำให้การกลับมาเล่นใหม่พบกับรูปแบบที่แตกต่าง และแน่นอนผู้สร้างต้องใส่ความโหดที่เป็นสิ่งที่เกมรุ่นใหม่นิยมใช้ทั้งศัตรูธรรมดาก็อัดเราตายได้ง่ายดาย และบอสสุดโหดที่ตัวยักษ์ใหญ่และมีรูปแบบการโจมตีสุดโหดรอเราอยู่ท้ายฉาก และเรายังพกยาเติมพลังได้แค่ 2 ขวดแม้จะหาเพิ่มได้ในด่านแต่ก็พกไปได้แค่ 2 ถือว่าทำให้มันมีความท้าทายมากแม้จะมีโหมดง่ายให้เลือกเล่นก็ช่วยไม่ได้มากนักยังคงหัวร้อนอยู่ดี
ซึ่งเป็นการผสมผสานรูปแบบแอ็กชันเดิม ๆ กับแนวตายแล้วกลับมาเล่นใหม่ได้ลงตัวดี แต่ใครชอบความคลาสสิกหรือกลิ่นอายเดิม ๆ ของซีรีส์ในตำนานแล้วอาจจะผิดหวังอยู่บ้าง เพราะหากเปลี่ยนชื่อเกมแล้วเอาเพลงประกอบจากต้นฉบับออกไปแล้วมันไม่จะไม่มีความเป็นฟุกุดะอยู่ แต่หากมองว่ามันต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้วก็พอจะเข้าใจเจตนาของทีมงานสร้างได้
โดยรวมแล้วนิยามง่าย ๆ ของ GetsuFumaDen Undying Moon คือเป็นการกลับมาของตำนานดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะมีการปรับเอารูปแบบเกมยอดนิยมในยุคปัจจุบันผสมผสานเข้าไป ซึ่งมองในแง่แอ็กชันแล้วก็สนุกใช้ได้มีความท้าทาย แต่ก็ไม่สนุกเท่ากับแนว Rogue-Like เกมอื่น และหากจะเทียบความคลาสสิกแล้วก็ไม่สามารถทำให้แฟนเก่าอินไปกับการเล่นได้ แต่รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรและอยากให้ทาง Konami ปลุกผีเกมเก่ามาขายอีกเพราะเชื่อว่ามีแฟน ๆ หลายคนรอเล่นอยู่
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ