รีวิวเกม GetsuFumaDen Undying Moon ดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิม

รีวิวเกม GetsuFumaDen Undying Moon ดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิม

รีวิวเกม GetsuFumaDen Undying Moon ดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากจะพูดถึงค่าย Konami แฟนเกมทุกวันนี้อาจจะส่ายหน้าหนี เพราะนอกจากไม่ยอมเอาเกมในตำนานของค่ายมาทำใหม่แล้ว ยังหันหลังให้ตลาดคอนโซลไปทำตู้ปาจิงโกะหรือขาย NFT แทน ทำให้หลายตำนานถูกลืมเลือนไป และแทบไม่มีหวังว่าทางค่ายจะขุดขึ้นมาทำใหม่

แต่แล้วก็มีสิ่งให้ประหลาดใจเพราะมีการเปิดตัว GetsuFumaDen Undying Moon หรือภาคต่อของเกมในตำนานอย่าง “ดาบสายลมฟุกุดะ” ที่วางขายในปี 1987 บน แฟมิคอม ที่ในไทยถือว่าประสบความสำเร็จมากเด็กในยุคนั้นน่าจะรู้จักกัน แต่ใครจะเชื่อนอกจากมันจะไม่เคยมีเวอร์ชันภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการแล้ว ยังไม่มีการสร้างภาคต่อออกมาอีกเลยจนล่าสุดทาง Konami ได้ส่งให้ทีมงานอินดี้อย่าง GuruGuru เป็นคนคืนชีพเกมในตำนานอีกครั้งและวางขายบน Nintendo Switch และ PC หลังจากเปิดตัวทดสอบให้ลองเล่นเมื่อปีที่แล้ว

โดยเกม GetsuFumaDen ภาคต้นฉบับที่ออกวางขายบนแฟมิคอม จะเป็นเรื่องราวก่อนภาคนี้ 1,000 ปี ราชาปีศาจนาม Ryukotsuki ได้ถูกปราบและได้ถูกผนึกกลับเข้าจากนักรบ 3 พี่น้องในตำนาน หลังจากนั้น 1,000 ปี Ryukotsuki กำลังจะถูกให้คืนชีพกลับมาคืนชีพอีกครั้ง ทำให้ตัวเอกกลับมาคืนชีพเพื่อลงไปสู่ขุมนรกเพื่อหยุดยั้งการคืนชีพราชาปีศาจ

กราฟิก 2 มิติแนวภาพวาดญี่ปุ่น

ส่วนของกราฟิกใน GetsuFumaDen Undying Moon ถือว่ามีงานออกแบบที่แตกต่างจากภาคแรกแน่นอน เพราะเวลาผ่านมาหลายสิบปี และคราวนี้ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจทำให้มาแนวย้อนยุคได้ลงทุนใช้ Unreal Engine ในการทำภาพให้จำลองมาจากภาพวาดโบราณของญี่ปุ่นที่ดูดีมาก ๆ แม้จะไม่ได้มีความเป็นต้นฉบับอยู่เลย แต่ก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เข้าใจได้ และความลื่นไหลและความละเอียดถือว่าดีงามตามแนวเกมที่เป็น 2 มิติมุมมองด้านข้าง

ส่วนเพลงประกอบก็เช่นเดียวกับกราฟิกที่ไม่ได้อิงของเดิม การเล่นกับเสียงบรรยากาศที่ดูหลอน ๆ ให้เข้ากับธีมการต่อสู้กับปีศาจ ที่เป็นแนวญี่ปุ่นโบราณที่เรียบง่าย แต่มันไม่ค่อยมีความเป็นเพลงประกอบเกมคลาสสิกที่ติดหูแบบต้นฉบับในยุค 80S ยังดีที่ผู้สร้างได้ใส่เพลงธีมในตำนานเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของเกมทำให้มันขาดความคลาสสิกไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่านตามมาตรฐานและมีเพลงที่ดูตื่นเต้นเร้าใจอยู่บ้าง

รูปแบบการเล่นแอ็กชัน 2 มิติ

ก่อนอื่นขอพูดถึงเกมเพลย์ของต้นฉบับของ GetsuFumaDen บนแฟมิคอม จะมารูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้าง ที่เราจะได้รับบทเป็นนักรบซามูไรที่ต้องออกไปต่อสู้กับปีศาจที่มีการแบ่งออกเป็นด่าน ๆ และมีฉากแผนที่ รวมทั้งมีระบบไอเทมและยาเติมพลัง และยังเสริมด้วยฉากแบบ 3 มิติมุมมองบุคคลที่ 1 เข้าไปในบางฉากทำให้ ฟุกุดะ แตกต่างจากเกมในยุค 80S มากทำให้เป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้

ส่วนการมาของ GetsuFumaDen Undying Moon ยังคงมาในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่ตัวละครหลักจะต้องท่องไปในดินแดนปีศาจที่เต็มไปด้วยอันตราย และมีงานออกแบบที่เรียบง่าย แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปพอสมควรไล่ตั้งแต่ระบบอาวุธที่จะสามารถพกพาได้ครั้งละ 4 ชนิด โดยจะแบ่งเป็นอาวุธหลักที่เป็นระยะประชิด 2 ชนิด และอาวุธยิงไกล 2 ชนิด ที่หากเจอของใหม่ก็ต้องเลือกที่จะทิ้งอันเก่าไป

ถือว่าแปลกกว่าต้นฉบับพอสมควร และยังเสริมด้วยระบบการอัปเกรดอาวุธเข้าไปทั้งการเพิ่มค่าพลังแบบปรกติทั่วไป และยังมีประเภทของอาวุธเข้าไปมากมายกว่าต้นฉบับมาก ๆ เพราะมีตั้งแต่ดาบ และอาวุธหนักใหญ่ยักษ์อย่างค้อนหรือแปลก ๆ อย่างร่มก็มี ส่วนอาวุธระยะไกลก็มีทั้งปืน , ธนู และดาวกระจายมาให้ใช้งาน แต่ก็มีอาวุธและไอเทมคลาสสิกจากต้นฉบับที่หายไปไม่ได้ใส่เข้ามาในภาคนี้ทำให้น่าเสียดายมาก ส่วนแอ็กชันก็มีการใส่สิ่งใหม่ ๆ เข้าไปเช่นกระโดด 2 จังหวะ หรือการกลิ้งตัวหลบหลีกทำให้ตัวเกมไม่เชยจนเกินไป

เปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยทำให้ไม่เหมือนเดิม

และอีกส่วนที่เปลี่ยนไปคือ กลับมาอีกครั้งของตำนานดาบสายลมผู้สร้างไม่ได้เดินแนวทางเดิมที่เป็นแอ็กชันแบบทั่วไป เปลี่ยนมาเป็นการนำแนว Rogue-Like มาใช้งานซึ่งมันคือการที่การใช่ด่านแบบสุ่ม และจะมีเพียงแค่ชีวิตเดียวหากพลาดตายแล้วต้องกลับมาเริ่มใหม่ทั้งหมด และของรวมทั้งอาวุธที่เก็บมาก็จะหายไปหมดแบบเกม Hades ซึ่งเมื่อเล่นรอบใหม่ก็จะพบว่าด่านไม่เหมือนเดิม แต่เมื่อผ่านด่านแรกไปจะพบกับประตูที่เลือกได้ว่าจะเล่นฉากไหน และจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา

แต่ในเมื่อใช้ระบบด่านสุ่มทำให้การกลับมาเล่นใหม่พบกับรูปแบบที่แตกต่าง และแน่นอนผู้สร้างต้องใส่ความโหดที่เป็นสิ่งที่เกมรุ่นใหม่นิยมใช้ทั้งศัตรูธรรมดาก็อัดเราตายได้ง่ายดาย และบอสสุดโหดที่ตัวยักษ์ใหญ่และมีรูปแบบการโจมตีสุดโหดรอเราอยู่ท้ายฉาก และเรายังพกยาเติมพลังได้แค่ 2 ขวดแม้จะหาเพิ่มได้ในด่านแต่ก็พกไปได้แค่ 2 ถือว่าทำให้มันมีความท้าทายมากแม้จะมีโหมดง่ายให้เลือกเล่นก็ช่วยไม่ได้มากนักยังคงหัวร้อนอยู่ดี

ซึ่งเป็นการผสมผสานรูปแบบแอ็กชันเดิม ๆ กับแนวตายแล้วกลับมาเล่นใหม่ได้ลงตัวดี แต่ใครชอบความคลาสสิกหรือกลิ่นอายเดิม ๆ ของซีรีส์ในตำนานแล้วอาจจะผิดหวังอยู่บ้าง เพราะหากเปลี่ยนชื่อเกมแล้วเอาเพลงประกอบจากต้นฉบับออกไปแล้วมันไม่จะไม่มีความเป็นฟุกุดะอยู่ แต่หากมองว่ามันต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้วก็พอจะเข้าใจเจตนาของทีมงานสร้างได้

โดยรวมแล้วนิยามง่าย ๆ ของ GetsuFumaDen Undying Moon คือเป็นการกลับมาของตำนานดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะมีการปรับเอารูปแบบเกมยอดนิยมในยุคปัจจุบันผสมผสานเข้าไป ซึ่งมองในแง่แอ็กชันแล้วก็สนุกใช้ได้มีความท้าทาย แต่ก็ไม่สนุกเท่ากับแนว Rogue-Like เกมอื่น และหากจะเทียบความคลาสสิกแล้วก็ไม่สามารถทำให้แฟนเก่าอินไปกับการเล่นได้ แต่รวม ๆ แล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรและอยากให้ทาง Konami ปลุกผีเกมเก่ามาขายอีกเพราะเชื่อว่ามีแฟน ๆ หลายคนรอเล่นอยู่

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ รีวิวเกม GetsuFumaDen Undying Moon ดาบสายลมฟุกุดะ ที่ไม่เหมือนเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook