PS4, PS5 ประกาศอัปเดตระบบประจำเดือนมีนาคม พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่

PS4, PS5 ประกาศอัปเดตระบบประจำเดือนมีนาคม พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่

PS4, PS5 ประกาศอัปเดตระบบประจำเดือนมีนาคม พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในวันนี้ ทางเครื่อง PS4 และ PS5 ได้มีการอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหม่กันแล้ว ซึ่งนอกจากการอัพเดตแพตช์แก้ไขปรับปรุงประสิทธิภาพที่จะมีมาตามปกติ แต่รอบนี้ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ โดยเฉพาะตัวสำคัญอย่างปาร์ตี้ (Parties) และ Variable Refresh Rate สำหรับเครื่อง PS5 นั่นเอง

ระบบ Parties

ระบบ Parties เป็นระบบที่จะสร้างห้องพูดคุยในการร่วมเล่นกับผู้เล่นอื่น ซึ่งมีทั้งการปรับแต่ง UI และ Trophy cards รวมทั้งคุณสมบัติระบบเสียง MONO สำหรับเฮดโฟนอีกด้วย

สำหรับผู้เล่นทาง PS5 ที่มีบัญชีในสหราชอาณาจักรและอเมริกา จะสามารถเข้าร่วมทดสอบระบบเสียง  Voice Command (Preview) เพื่อค้นหาและเปิดเกม, แอปฯ และการตั้งค่าได้โดยการแค่พูดอีกด้วย (รองรับเสียงภาษาอังกฤษในเวลานี้) โดยผู้เล่นสามารถไปเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน “Pro Tips” ตรง Control Center

ปรับแต่ง PS App และ PS Remote Play

ระบบ Parties จะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน PS App ทั้งการสร้าง หรือเข้าร่วม Parties ได้แล้ว และยังได้มีการปรับแต่งระบบให้สามารถค้นหาเพื่อน Parties และการส่งข้อความได้ง่ายเพื่อประสบการณ์การเล่นบน PS5 ที่ดีขึ้น

ในส่วนของ PS Remote Play ได้มีการเพิ่ม “dark mode” โดยอิงกับระบบของมือถือ สำหรับผู้เล่นชาวไทยจะเข้าถึงโหมดนี้ได้ด้วย โดยเข้าไปกดเปลี่ยนเป็นโหมดนี้ได้ตรง Setting

Variable Refresh Rate สำหรับ PS5

ไฮไลท์เด็ดของการอัปเดตในครั้งนี้ คือการเพิ่มระบบ Variable Refresh Rate (VRR) ให้กับเครื่อง PS5 โดยการเชื่อมต่อกับสาย HDMI 2.1 กับ TV และจอมอนิเตอร์ของ PC ซึ่งระบบนี้จะทำให้ภาพของเกมไหลลื่นแบบตามตรงสภาพอุปกรณ์ที่ใช้งาน (จอ TV) รวมไปถึงทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการปรับแต่ง VRR (เทคโนโลยีในการซิงโครไนซ์เฟรมเรท (fps) ของเกมกับอัตราการรีเฟรชของจอภาพ (Hz)) ที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

แต่ในกรณีที่บางเกมไม่ได้รองรับระบบ VRR ก็จะมีตัวเลือกให้สามารถกดปิดได้ อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวจะแสดงผลได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับที่ TV ที่นำมาเล่นด้วย 

ผู้เล่น PS4 และ PS5 สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook