Nikke แนวทางการจัดทีม สำหรับผู้เล่นใหม่
Goddess of Victory: Nikke เป็นเกมสไตล์ Shooting ที่เต็มไปด้วยตัวละครสาวๆ สุดน่ารักมากมาย ซึ่งการจัดทีมให้กับเหล่า Nikke นั้นก็เป็นสิ่งนึงที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ภายในเกมนี้เลยทีเดียว วันนี้ผมจะพามาดูแนวทางการจัดทีมเบื้องต้นให้กับเหล่า Nikke ของเรากันครับ
หลักการจัดทีมเบื้องต้น
โดยพื้นฐานแล้วการจัดในทีมในเกม Goddess of Victory: Nikke นั้น จะต้องคำนึงถึงการตำแหน่งและลำดับการ Burst ของแต่ละตัวละคร เนื่องจากตัวละครในเกมนี้จะถูกกำหนดลำดับการใช้สกิลเอาไว้ด้วยระบบ Burst ผู้เล่นจึงจำเป็นต้องใส่ตัวละครให้สมดุลเพื่อจะสามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการจัดทีมในเกม Goddess of Victory: Nikke นั้น มีหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงในการจัดทีม ไม่ว่าจะเป็นระบบ Burst, Element และสายของตัวละคร โดยผมจะขอเริ่มต้นด้วยระบบ Burst ก่อนครับ
ระบบ Burst
เป็นระบบที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการจัดทีม เนื่องจากในการเล่นผู้เล่นจะสามารถเก็บเกจ Burst ได้จากการจัดการกับศัตรู เมื่อเกจเต็ม ผู้เล่นจะสามารถกดใช้สกิลของเหล่า Nikke ในทีมได้ โดยค่า Burst จะถูกกำหนดไว้กับ Nikke แต่ละคนด้วยลำดับ I, II และ III โดยการกดใช้สกิลจะเรียงจาก Burst I ไปจนถึง Burst III
ในช่วงของการ Burst ผู้เล่นจะมีระยะเวลา 10 วินาที ในการกดใช้สกิล ซึ่งหากมีตัวละครที่ติดคูลดาวน์สกิลหรือกดใช้สกิลไม่ทัน ภายในระยะเวลานี้ การ Burst ก็จะจบลง และต้องเก็บเกจใหม่
ชนิดของการ Burst
โดยทั่วไปแล้ว ตัวละครที่เป็น Burst I และ II จะเป็นตัวละครสาย Supporters และ Defender ส่วน Burst III จะเป็นตัวละครสายดาเมจ และอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดทีมคือระยะเวลาคูลดาวน์สกิล Burst ของแต่ละตัวละคร เช่นถ้าใส่ตัวละคร Burst II ที่สกิลคูลดาวน์นานไว้เพียงตัวเดียวในทีม ผู้เล่นจะเกิดปัญหาติดขัดเรื่องของคูลดาวน์ Burst II ทำให้ไม่สามารถใช้สกิลได้ต่อเนื่องจากการ Burst ทุกครั้งนั่นเอง
สายของตัวละคร
นอกจากลำดับของการ Burst แล้ว ยังมีเรื่องของสายของตัวละครอีกด้วย เนื่องจากเกมนี้มีตัวละครอยู่ทั้งหมด 3 สายด้วยกัน คือ Attacker, Defender และ Supporter ซึ่งผู้เล่นก็จำเป็นต้องใส่ตัวละครแต่ละสายให้สมดุล หากมีตัว Support หรือ Defender มากจนเกินไป ก็จะขาดดาเมจ แต่ถ้าหากมี Attacker มากเกินไป ก็จะทำให้ทีมอ่อนแอลงนั่นเองครับ
ชนิดอาวุธและระยะการโจมตี
การจัดทีมให้กับเหล่า Nikke ยังต้องดูถึงระยะประสิทธิภาพของอาวุธที่เหมาะแก่การเล่นในแต่ละด่านอีกด้วย เนื่องจากในเกมนี้มีอาวุธที่หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น SG และ SMG ที่เน้นการโจมตีระยะใกล้, AR และ MG ที่เน้นการโจมตีระยะกลาง, ส่วน SR ใช้ในการโจมตีระยะไกล ทำให้บางครั้งผู้เล่นจำเป็นต้องทีม Nikke ให้เหมาะกับระยะการโจมตีของด่านนั้นๆ ครับ
ธาตุ
ภายในเกมนี้มีอยู่ทั้งหมด 5 ธาตุด้วยกันคือ ไฟ, ลม, หิน, สายฟ้า และน้ำ แต่ว่าลำดับความสำคัญของธาตุในเกมนั้นจะต่ำกว่าเมื่อเทียบ Burst และอาวุธที่ตัวละครใช้ เนื่องจากการชนะธาตุจะได้แค่โบนัสดาเมจ 10% เท่านั้นและไม่มีการลดดาเมจต่อธาตุที่แพ้อีกด้วย
การจัดทีม
ผู้เล่นสามารถจัดทีมเหล่า Nikke 5 คนเพื่อนำไปต่อสู้ได้ และถ้าหากผู้เล่นเลือกที่จะเปิดระบบ Auto Skill ที่จะให้ AI เป็นคนกดสกิล ผู้เล่นจะต้องจัดลำดับการ Burst ของตัวละครให้ถูกต้อง โดยเรียง Burst I - Burst III จากด้านซ้ายไปขวา
แนวทางการจัดทีมที่แนะนำ
1) รูปแบบ 2-1-2
- Burst I 2 ตัว
- Burst II 1 ตัว
- Burst III 2 ตัว
การจัดทีมรูปแบบนี้จะค่อนข้างเน้นไปที่ความสมดุลของทีมเป็นหลัก เนื่องจากตัวละคร Burst II มีระยะเวลาคูลดาวน์สกิลที่น้อย เพียง 20 วินาที ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้ Burst Skill ได้ทุกครั้งที่เก็บเก็จ Burst เต็ม โดยการสลับกันระหว่าง Burst I และ Burst III ที่ใส่มาอย่างละ 2 ตัวนั่นเอง
ข้อเสียของรูปแบบนี้คือผู้เล่นควรจะต้องมีตัวละคร Burst I และ Burst III ที่เก่งพอจะ Support ทีมและทำดาเมจแบกทีมได้พอสมควร อย่างละ 1 ตัว
2) รูปแบบ 1-1-3
- Burst I 1 ตัว
- Burst II 1 ตัว
- Burst III 3 ตัว
สำหรับการจัดทีมรูปแบบนี้นั้นจะเน้นไปที่การยัดตัวละคร Burst III เข้ามาเพื่อทำดาเมจ ข้อดีก็คือผู้เล่นจะสามารถทำเคลียด่านรวมถึงบอสได้ค่อนข้างไว จากการทำดาเมจที่มหาศาลของตัวละคร Burst III
แต่ว่าข้อเสียก็คือหากผู้เล่นไม่มีตัวละคร Burst I และ Burst II ที่ Support หรือ Heal ได้ดีพอ จะทำให้เล่นค่อนข้างยาก
สำหรับบทความนี้ก็คงต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้ก่อน หวังว่าเพื่อนๆ จะสามารถจัดทีมให้กับเหล่า Nikke ได้เก่งและดีมากขึ้นนะครับ และพบกันใหม่กับบทความดีๆ จากทาง Sanook Game นะครับ!