รีวิวเกม Crisis Core Final Fantasy VII Reunion รีมาสเตอร์ที่ภาพสวยแต่เกมเพลย์เชย

เป็นเรื่องปรกติที่ค่ายเกมจะขุดเอาของเก่ามาขายใหม่ทั้งแบบรีเมกที่ทำใหม่หมด และในรูปแบบรีมาสเตอร์ที่ปรับภาพเล็กน้อย ที่ส่วนใหญ่แล้วอย่างหลังจะดูเหมือนลงทุนน้อยกว่าทำให้มีให้เห็นมากกว่า แต่มันอาจจะดูเชยเพราะเป็นการปรับกราฟิกใหม่เท่านั้นไม่ได้สร้างใหม่รูปแบบการเล่นยังคงเหมือนเดิม

ล่าสุด Square Enix ได้เปิดตัว Crisis Core: Final Fantasy VII Reunion บน Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X/S รวมทั้งบน PC ด้วย ที่เป็นการรีมาสเตอร์จากต้นฉบับที่วางขายบน PSP ในปี 2007 แม้จะไม่ใช่เกมใหม่หมด แต่เนื่องจากต้นฉบับถือเป็นแนวทางใหม่ของซีรีส์ Final Fantasy ในยุคนั้นทำให้มันน่าสนใจมากพอที่จะหามาเล่น

เรื่องราวในภาค Reunion ยังคงเหมือนเดิมเพราะมันเป็นรีมาสเตอร์ไม่ใช่รีเมก ที่เราจะได้รับบทเป็น Zack ทหารที่มีความฝันจะเป็นทหารระดับสูง ซึ่งหากคุณเป็นแฟน Final Fantasy 7 จะรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่ไม่ได้ถูกเล่าในภาคหลัก เนื้อเรื่องจะเล่าโดยอ้างอิงหลายส่วนมาจากภาค 7 ทั้งตัวละครหลัก สถานที่สำคัญ และมีการผูกเรื่องราวออกมาได้ดีตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว

กราฟิกดูดีมีเซอร์ไพรส์

ในตอนแรกเห็นว่า Crisis Core: Final Fantasy VII Reunion ขึ้นหัวว่าเป็นแค่การรีมาสเตอร์ทำให้ไม่คาดหวังว่าจะเห็นภาพสวยอะไรมากมาย แต่พอได้เห็นกราฟิกแบบเต็ม ๆ ด้วยตาแล้วทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร เพราะนอกจากพื้นผิวจะปรับเปลี่ยนแล้ว ยังเพิ่มลูกเล่นแสงเงา รวมทั้งรายละเอียดของตัวละครที่อัปเกรดเข้าไปจนเรียกได้ว่าเหมือนเป็นเกมที่สร้างในยุคนี้ได้เลย ที่ชอบมากคือกราฟิกของใบหน้าตัวละครมีการเพิ่มรายละเอียดเข้าไปมากพอที่จะช่วยในการเล่าเรื่องได้ด้วย

ที่ภาพมันดูดีขนาดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ต้นฉบับบน PSP ที่ทำออกมาดีเกินหน้าเกินตาเกมในยุคนั้นมาก ทำให้แค่ปรับแสงเงากับพื้นผิวก็ดูดีขึ้นแล้ว รวมทั้งคัตซีนที่มีการปรับให้คมชัดและเพิ่มรายละเอียดด้วยเช่นกัน ส่วนเสียงพากย์ก็มีการปรับเล็กน้อย เพราะของเดิมทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องมีการใส่เพลงธีมคลาสสิกของ Final Fantasy 7 เข้าไปตลอดเรียกว่าเล่นไปต้องมีอะไรคุ้นหูผู้เล่นบ้างแน่

เกมเพลย์แอ็กชัน RPG ที่เข้าใจง่าย

รูปแบบการเล่นเราจะได้รับบทเป็น Zack ที่จะใช้ดาบฟาดฟันศัตรูทำเป็นคอมโบเป็นอาวุธหลัก ที่จุดนี้จะไม่ได้สานต่อเป็นท่าเทพ ๆ ได้เหมือนเกมแอ็กชันทั่วไป เพราะมันยังยึดแนวทาง RPG อยู่ด้วย ทำให้มีจังหวะที่ติดขัดอยู่บ้าง ต่อด้วยการใช้ท่าพิเศษผ่านลูกแก้ว Materia ที่มีทั้งท่าดาบโจมตีรุนแรง หรือเวทมนต์ในตำนานของซีรีส์ Final รวมทั้งการเพิ่มค่าในพลังก็ทำได้ด้วยระบบนี้

นอกจากนี้ผู้เล่นสามารถปรับตั้งค่าระบบ Materia เพื่อกำหนดปุ่มเพื่อเรียกออกมาใช้งานได้ตามใจผู้เล่น ทำให้กำหนดได้ว่าจะต่อสู้กับศัตรูด้วยรูปแบบไหน และมันจำเป็นอย่างมากต่อการเล่น เพราะศัตรูแต่ละตัวจะมีการแพ้ทางที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องเลือกใช้ท่าที่มันแพ้ทางถึงจะจัดการได้ง่าย เพราะตัวเกมไม่ง่ายนักศัตรูมีความโหดบางตัวโจมตีครั้งเดียวเราก็ตายแต่หากปรับแต่งให้ดีและหลบหลีกให้แม่น ๆ ก็จะผ่านไปได้

ระบบต่อสู้สนุกแต่เชยไปหน่อย

เกมจะแบ่งออกเป็นภารกิจที่เราจะเลือกเล่นได้เป็นด่าน ๆ ส่วนนี้อาจจะดูเชยไปหน่อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมยุคนี้ที่มักจะมีฉากกว้าง ๆ แต่ Crisis Core มีฉากที่ไม่ได้กว้างใหญ่แถมยังเล่นแบบเป็นเส้นตรง จริงอยู่ที่ฉากจะพอจะมีทางแยกย่อยให้เดิน แต่โดยรวมมันก็คือขนาดของฉากระดับเกมแอ็กชันทั่วไปเท่านั้น แม้ว่าจะมีภารกิจแยกย่อยมาให้เราเล่นบ้างแต่ตามก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นเพียงการรีมาสเตอร์เกมที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2007

ส่วนระบบที่ดูแปลกตาสำหรับภาคนี้คือ สล็อตแมชชีนความทรงจำ ที่จะหมุนโดยอัตโนมัติในฉากต่อสู้ ที่จะมีทั้งตัวเลขและภาพของตัวละครที่มีความทรงจำร่วมกับ Zack ที่เมื่อหมุนออกมาได้ตัวละครเดียวกัน จะส่งผลให้เกิด limit break ที่ทำให้ตัวละครปล่อยท่าไม้ตายตายเทพ ๆ ได้ ถือเป็นระบบที่แปลกและมีตั้งแต่ภาคหลัก

สำหรับการกลับมาอีกครั้งของ Crisis Core: Final Fantasy VII Reunion แม้จะขึ้นชื่อว่าแค่เป็นการรีมาสเตอร์ปรับกราฟิก แต่ก็ทำออกมาได้ดีมีหลายส่วนถูกปรับทำให้แม้จะเล่นบนหน้าจอทีวีก็ดูไม่แย่ ต้องขอบคุณกราฟิกของต้นฉบับที่แม้จะอยู่บนคอนโซลพกพามาก่อนก็ทำออกมาได้ล้ำหน้าเกินยุคสมัย ติดที่เกมเพลย์ที่อาจจะดูเชยไปหน่อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมในยุคนี้ แต่โดยรวมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ใครเป็นแฟนซีรีส์ Final 7 ยังคงคุ้มค่าที่จะหามาเล่นแม้ราคาขายจะแพงไปหน่อยก็ตาม