หนีไป! 15 เกม PS5 ที่อย่าได้ลองของซื้อมาเล่น

หนีไป! 15 เกม PS5 ที่อย่าได้ลองของซื้อมาเล่น

หนีไป! 15 เกม PS5 ที่อย่าได้ลองของซื้อมาเล่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เครื่องคอนโซลอย่าง PlayStation 5 ก็ได้วางจำหน่ายมากว่า 2 ปีแล้ว และก็ได้มีเกมมากมายหลายเกมวางขายให้ซื้อมาเล่นกัน แต่ใช่ว่าทุกเกมจะทำออกมาโดนใจคนเล่นทุกเกม บางเกมอาจจะไม่คุ้มที่จะซื้อมาเล่นเสียด้วยซ้ำ ทางสื่อต่างประเทศได้มีการทำบทความแนะนำเกม PS5 ทั้ง 15 เกมที่คนเล่นควรหลีกเลี่ยง อย่าได้ลองของซื้อมาเล่นเพราะไม่คุ้มค่าอย่างแรง โดยจะมีเกมไหนบ้างนั้นมาดูกัน

Godfall

เมื่อมีการเปิดตัวครั้งแรกก็เหมือนจะเป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยม ทั้งภาพที่สวยงามและการต่อสู้ที่ดุดัน แต่เมื่อเกมขายจริงก็ต้องพบกับความน่าผิดหวัง ทั้งบั๊กต่าง ๆ เกมเพลย์ที่ซ้ำซาก และระบบการได้ของที่ไม่น่าสนใจ ไม่คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นเลยด้วยซ้ำ

Rustler

เป็นเกมที่เป็นการผสมผสานของธีมยุคกลางกับเกมแนวแอ็กชันที่มองจากด้านบนลงมาด้านล่างด้วยสไตล์การเล่นคล้ายเกม Grand Theft Auto แบบดั้งเดิม คอนเซปต์น่าสนใจ แต่เกมกลับมีปัญหาทุกอย่าง ทั้งการออกแบบเกมที่ไม่ดี เควสต์ที่ธรรมดา ๆ ไปจนถึงปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ แม้ว่าไอเดียของเกมนี้ดูดีมาก แต่น่าเสียดายตรงที่เกมทำออกมาได้น่าผิดหวัง

Grand Theft Auto: The Trilogy — The Definitive Edition

หนึ่งในเกมความคาดหวังของแฟนเกมหลายคนแต่ก็จบลงด้วยความผิดหวังจนแฟน ๆ สาปแช่ง ด้วยการที่ตัวเกมมีบั๊กต่าง ๆ มากมายแถมกลับทำให้เกมดูแย่กว่าเดิมเสียอีก จนถึงกับมีการทำ MOD แก้ไขเกมมาเล่นกันซะเอง แต่แน่นอนว่า MOD เอาไปเล่นใน PS5 ไม่ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นเกมที่อย่าคิดแม้แต่จะจ่ายเงินเด็ดขาด ต่อให้ลดราคาก็ตาม

In Nightmare

ปัญหาของเกมนี้ไม่ใช่ธีมหลักและพล็อตของเกม ปัญหาอยู่ที่การออกแบบพัซเซิลต่าง ๆ ที่ไม่ดี แถมชวนหงุดหงิดตลอดเวลาที่เล่น แถมเกมมีการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยน่าสนใจนัก ไม่มีทั้งการเผยพล็อตสำคัญหรือการหักมุมอะไร ทั้งหมดไม่ได้ช่วยทำให้เกมดูดีขึ้นเลย

Balan Wonderworld

หนึ่งในเกมที่เปิดตัวมาด้วยความคาดหวังแต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง แนวคิดของเกมน่าสนใจ แต่ในแง่ของเทคนิคเกมนั้นย่ำแย่ แถมประสบการณ์การเล่นเกมนี้ก็ทำออกมาครึ่งๆ กลางๆ ยิ่งเล่นยิ่งทุกข์ ดังนั้นปล่อยผ่านเกมนี้ไปเสียเถอะ

eFootball 2022

Konami พยายามรีแบรนด์ Pro Evolution Soccer มาเป็น eFootball แต่ก็ใช่ว่าเกมจะทำออกมาสมบูรณ์ ถึงเกมจะเล่นฟรีที่ชวนน่าดึงดูดแต่ก็มาพร้อมกับหายนะ ทั้งเกมเพลย์ที่ย่ำแย่ กราฟิกบั๊กของเกมราวกับจะทำเป็นเกมมีมแทนเกมฟุตบอล โหมดเกมก็ไม่หลากหลาย เรียกได้ว่าถ้าจะเล่นเกมฟุตบอลของทาง Konami จ่ายเงินซื้อเกมภาคก่อนมาเล่นยังดีกว่า

LEGO Brawls

เป็นเกมที่นำเอาตัวละครเลโก้มาตะลุมบอนต่อสู้กัน โดยปกติแล้วเกม LEGO มักจะไม่ค่อยมีปัญหาในการทำเกม ปัญหาคือเกมทำออกมาได้ค่อนข้างธรรมดาและไร้การดึงดูด ทั้งการเล่นที่ธรรมดามากจนไปถึงความก้าวหน้าของเกมที่ไม่น่าสนใจ กลายเป็นว่าเกมเหมือนทำออกมาให้เด็กเล่นกันขำ ๆ เสียมากกว่า

MX vs ATV Legends

ปกติแล้วเกมซีรีส์นี้มักจะมาพร้อมกับคำชมแต่เกมนี้กลับมีปัญหาทางด้านเทคนิคเกมและงานออกแบบที่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง น่าเสียดายอย่างยิ่งที่แฟรนไชส์เกมทำออกมาดีตลอดจนมาพลาดกับภาคนี้

Werewolf – The Apocalypse Earthblood

เกมที่คนเล่นจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วต่อสู้กับศัตรูด้วยระยะประชิดได้ แม้คอนเซปต์เกมจะน่าสนใจ แต่ก็มีปัญหาในแง่ของการออกแบบเกม ทั้งระบบการต่อสู้ที่ไม่ดีและการเล่าเรื่องสุดจะน่าเบื่อ ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งเกมอันน่าผิดหวัง

Zorro The Chronicles

ด้วยคอนเซปต์ของเกมแนวผจญภัยและลอบเร้น จึงทำให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟน ๆ คาดหวัง แต่ก็กลับหักหลังผู้เล่น ทั้งประสบการณ์การเล่นอันแสนน่าหงุดหงิด ต่อให้เป็นเกมที่เน้นเด็ก ๆ แต่ก็ควรจะทำให้เกมออกมาดีกว่านี้รึเปล่า?

Dragon Ball The Breakers

 ครั้งแรกที่ได้ยินคอนเซ็ปต์ของ Dragon Ball The Breakers ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความน่าสนุกของตัวเกม ด้วยการที่สามารถเล่นได้แบบมัลติเพลเยอร์ ซึ่งสร้างความสดใหม่ให้กับเกมจากแอนิเมชันสุดคลาสสิกเรื่องนี้ แต่พอเกมวางจำหน่าย ก็พบกับปัญหาที่มากมายของตัวเกม อาทิระบบการเล่นที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งระบบกล้องที่แสนห่วยอีกด้วย

The Last Oricru

ต่อให้เกมนี้จะมีระบบการต่อสู้แบบเดิม ๆ การเล่าเรื่องราวที่แยกย่อย เอาจริงแล้วภาพรวมของเกมนี้ไม่ได้แย่ แต่น่าผิดหวังตรงเกมมีปัญหาที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นติดขัด บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายอย่างมาก

Dungeons and Dragons: Dark Alliance

เกมแนว RPG แบบ CO-OP ที่ได้นำเอาเกมแฟรนไชส์ดังมาทำเป็นเกม และก็มีแฟน ๆ ติดตามกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย ปัญหาคือเกมนำเสนอการเล่นแบบธรรมดาไปหน่อย แถมยังมีปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ จนทำให้ความประทับใจของเกมลดฮวบอย่างรวดเร็วทันที

Matchpoint Tennis Championship

ว่าตามตรง เกมนี้ไม่ใช่เกมที่แย่ที่สุดจากในบทความนี้ เอาจริง ๆ เกมก็ถือว่าใช้ได้ เพียงแต่ว่าไม่ได้น่าดึงดูดเท่าไหร่ จนเรียกได้ว่า 2 - 3 ชั่วโมงก็ตัดสินใจได้เลยว่าจะเล่นหรือไม่เล่นต่อ เพราะเกมมีระบบการเล่นที่เรียบง่าย ไม่ได้หวือหวา และภาพก็ธรรมดา ๆ ส่วนปัญหาของเกมก็.... มีให้เห็นแน่นอน

Tennis World Tour 2 

เทียบกับเกมอย่าง Matchpoint Tennis Championship ข้างบนแล้ว Tennis World Tour 2 อาจมีภาษีที่ดูดีกว่าและได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีกว่า เพียงแต่ว่าถ้าที่คนเล่นจะสนุกกับเกมได้นั้นอาจต้องใช้เวลาสักพักในการเข้าถึง พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้ทำให้รู้สึกประทับใจทันทีที่เริ่มเล่นนั่นเอง

อย่างไรก็ตามบทความนี้เป็นเพียงความเห็นของทางเว็บไซต์ต่างประเทศ แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับคนเล่นว่า จะชอบเกมเหล่านี้รึไม่ เนื่องจากรสนิยมและแนวทางการเล่นของแต่ละคนจะต่างกัน เกมที่ในบทความบอกว่าแย่ อาจจะเป็นเกมที่สนุกของคนเล่นก็อาจเป็นไปได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook