เกมสมาร์ตโฟนในญี่ปุ่นตีตลาดยาก จนผู้พัฒนาต้องไปทำเกมลง ‘คอนโซล และ PC’ แทน

เกมสมาร์ตโฟนในญี่ปุ่นตีตลาดยาก จนผู้พัฒนาต้องไปทำเกมลง ‘คอนโซล และ PC’ แทน

เกมสมาร์ตโฟนในญี่ปุ่นตีตลาดยาก จนผู้พัฒนาต้องไปทำเกมลง ‘คอนโซล และ PC’ แทน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

‘ฮิซาคาสุ ฮิราบายาชิ’ (Hisakazu Hirabayashi) นักวิเคราะห์ตลาดเกมญี่ปุ่น ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้ ‘ตลาดเกมมาร์ตโฟน’ ของญี่ปุ่นหนักหน่วง จนผู้พัฒนาต้องหันไปทำเกมลงคอนโซล และ PC ผ่านเว็บไซต์ Yahoo JP ว่า

เบื้องหลังของอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นในปัจจุบัน มีทีมพัฒนาเกมสมาร์ตโฟนไม่น้อยเริ่มหันไปทำพัฒนาคอนโซล และ PC เพราะเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากตลาดเกมสมาร์ตโฟนที่เติบโตได้ยาก ฮิราบายาชิให้เหตุผลว่า จำนวนผู้เล่นเกมสมาร์ตโฟนถูกล็อกไว้อยู่แล้ว เลยทำให้ผู้เล่นใหม่เข้าถึงเกมเหล่านี้ได้ยาก กล่าวอีกนัยก็คือ แม้ว่าจะมีการเปิดตัวเกมใหม่ โอกาสที่เกมนั้นจะได้รับความนิยมมีต่ำมาก ๆ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะเอา ‘ชนะ’ ตลาดนี้

ถ้าเกมบนนั้นได้รับความนิยม ก็จะกลายเป็นเกมที่ขายดีได้อย่างยาวนาน แต่ความนิยมของเกมก็จะลดไปตามปีด้วยเช่นกัน ซึ่งข้อมูลจาก iGage เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลแอปพลิเคชันเกมจาก Game Age Research Institute เผยว่า มีเกมที่ติดอันดับ Top 500 อย่างน้อยหนึ่งครั้ง 176 เกมในปี 2020, 159 เกมในปี 2021 และ 135 เกมในปี 2022

บริษัทเกมสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่เริ่มหันมาตีตลาดคอนโซลและ PC ในปัจจุบันก็มี Cygames ผู้มีผลงานเกมสมาร์ตโฟน Uma Musume Pretty Derby และ Shadowverse ที่เคยประกาศว่าจะพัฒนาเกมให้กับคอนโซลและ PC มากกว่า 20 เกม และ MIXI ผู้พัฒนาที่สามารถตีตลาดเกมสมาร์ตโฟนด้วยเกม Monster Strike ก็กำลังสร้างเกม Asym Altered Axis เพื่อตีตลาด PC เช่นกัน

นอกจากนั้นแล้ว ต้นทุนการพัฒนาเกมสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวนี้เช่นกัน ตามข้อมูลจากตลาดอุตสาหกรรมเกมเผยว่า การพัฒนาเกมสมาร์ตโฟนระดับใหญ่ จะต้องใช้งบประมาณอย่างน้อย 1 พันล้านเยน (ประมาณ 252 ล้านบาท)

 

อัลบั้มภาพ 1 ภาพ

อัลบั้มภาพ 1 ภาพ ของ เกมสมาร์ตโฟนในญี่ปุ่นตีตลาดยาก จนผู้พัฒนาต้องไปทำเกมลง ‘คอนโซล และ PC’ แทน

ทำไมตลาดเกมสมาร์ตโฟนในญี่ปุ่นถึงหนักหน่วง จนผู้พัฒนาต้องไปทำเกมลง ‘คอนโซล และ PC’ แทน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook