Mario Kart Tour โดนฟ้องร้องในข้อหา Loot Box "ผิดจรรยาบรรณ"
แม้แต่ Nintendo เองก็ไม่สามารถเอาตัวรอดจากการต่อต้านวัฒนธรรม Loot Box ไปได้ ล่าสุดบริษัทโดนฟ้องร้องค่าเสียหายจากกรณี Loot Box ของเกม Mario Kart Tour โดยคำฟ้องระบุว่าตัวเกมมีรูปแบบการทำงานที่ล่อลวงผู้เล่นอายุน้อยให้จ่ายเงินค่า Loot Box ให้กับเกม
ตั้งแต่เปิดให้เล่นเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2019 เกมมือถือ Free-to-play ของค่าย Nintendo อย่าง Mario Kart Tour ก็มีระบบในเกมที่เรียกว่า “Spotlight Pipes” ซึ่งเป็นชื่อเรียกเฉพาะของระบบ Loot Box ของเกม โดยจะไม่มีระบุอัตราดรอปไว้ชัดเจน ซึ่งผู้เล่นต้องใช้เงินจริงในการเปิดมัน ถึงแม้ว่า Nintendo จะนำระบบนี้ออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วนี้ แต่ทางเกมก็ยังถูกฟ้องร้องโดยคุณพ่ออเมริกันคนหนึ่งในข้อหาที่ลูกของเขาโดนเกมหลอกให้เติมเงินมากกว่า $170 หรือเกือบ 6 พันบาทไทย ไปกับเกม Mario Kart Tour ผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับตัวเกม
ในรายงานของ Axios เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุเนื้อหาของคำฟ้องไว้ว่า ทางคุณพ่อรายนี้ได้เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทุกคนในสหรัฐอเมริกาที่ได้จ่ายเงินเพื่อเปิด loot box ดังกล่าวไป โดยคำฟ้องระบุรายละเอียดไว้ว่า Nintendo ได้จงใจทำให้ระบบการเติบโตในเกมมือถือของพวกเขานั้นยากลำบากมากขึ้นหากไม่จ่ายเงินให้กับ Loot Box ของเกม โดยบอกว่ามันเป็น "รูปแบบที่ชั่วร้าย" ในการหลอกลวงผู้เล่นให้เติมเงินซื้อของในเกม และระบุว่าระบบการซื้อของในเกมนั้น "ไร้จรรยาบรรณ" พร้อมกับระบุเพิ่มด้วยว่าตัวเกม "หลอกลวง" ผู้เล่น และละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐ Warshington และกฎหมายทางธุรกิจของ California
คำฟ้องยังระบุอีกว่า “กลไก loot box” ที่ Nintendo ใช้นั้น “มุ่งหมายที่จะกระตุ้นให้ผู้เล่นเกิดพฤติกรรมเสพติด” คล้ายคลึงกับการพนัน และผู้เล่นเกมที่ยังเด็กนั้นอ่อนไหวต่อระบบเช่นนี้