Mario Kart Tour โดนฟ้องร้องในข้อหา Loot Box "ผิดจรรยาบรรณ"

Mario Kart Tour โดนฟ้องร้องในข้อหา Loot Box "ผิดจรรยาบรรณ"

Mario Kart Tour โดนฟ้องร้องในข้อหา Loot Box "ผิดจรรยาบรรณ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้แต่ Nintendo เองก็ไม่สามารถเอาตัวรอดจากการต่อต้านวัฒนธรรม Loot Box ไปได้ ล่าสุดบริษัทโดนฟ้องร้องค่าเสียหายจากกรณี Loot Box ของเกม Mario Kart Tour โดยคำฟ้องระบุว่าตัวเกมมีรูปแบบการทำงานที่ล่อลวงผู้เล่นอายุน้อยให้จ่ายเงินค่า Loot Box ให้กับเกม

ตั้งแต่เปิดให้เล่นเป็นครั้งแรกในช่วงปี 2019 เกมมือถือ Free-to-play ของค่าย Nintendo อย่าง Mario Kart Tour ก็มีระบบในเกมที่เรียกว่า “Spotlight Pipes” ซึ่งเป็นชื่อเรียกเฉพาะของระบบ Loot Box ของเกม โดยจะไม่มีระบุอัตราดรอปไว้ชัดเจน ซึ่งผู้เล่นต้องใช้เงินจริงในการเปิดมัน ถึงแม้ว่า Nintendo จะนำระบบนี้ออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วนี้ แต่ทางเกมก็ยังถูกฟ้องร้องโดยคุณพ่ออเมริกันคนหนึ่งในข้อหาที่ลูกของเขาโดนเกมหลอกให้เติมเงินมากกว่า $170 หรือเกือบ 6 พันบาทไทย ไปกับเกม Mario Kart Tour ผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับตัวเกม

ในรายงานของ Axios เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาระบุเนื้อหาของคำฟ้องไว้ว่า ทางคุณพ่อรายนี้ได้เรียกร้องค่าเสียหายสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะทุกคนในสหรัฐอเมริกาที่ได้จ่ายเงินเพื่อเปิด loot box ดังกล่าวไป โดยคำฟ้องระบุรายละเอียดไว้ว่า Nintendo ได้จงใจทำให้ระบบการเติบโตในเกมมือถือของพวกเขานั้นยากลำบากมากขึ้นหากไม่จ่ายเงินให้กับ Loot Box ของเกม โดยบอกว่ามันเป็น "รูปแบบที่ชั่วร้าย" ในการหลอกลวงผู้เล่นให้เติมเงินซื้อของในเกม และระบุว่าระบบการซื้อของในเกมนั้น "ไร้จรรยาบรรณ" พร้อมกับระบุเพิ่มด้วยว่าตัวเกม "หลอกลวง" ผู้เล่น และละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐ Warshington และกฎหมายทางธุรกิจของ California

คำฟ้องยังระบุอีกว่า “กลไก loot box”  ที่ Nintendo ใช้นั้น “มุ่งหมายที่จะกระตุ้นให้ผู้เล่นเกิดพฤติกรรมเสพติด” คล้ายคลึงกับการพนัน และผู้เล่นเกมที่ยังเด็กนั้นอ่อนไหวต่อระบบเช่นนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook