CEO ของ Sony ยัน "เกมเนือเรื่อง" จะเป็นโฟกัสหลักของเกมจากค่ายต่อไป

CEO ของ Sony ยัน "เกมเนือเรื่อง" จะเป็นโฟกัสหลักของเกมจากค่ายต่อไป

CEO ของ Sony ยัน "เกมเนือเรื่อง" จะเป็นโฟกัสหลักของเกมจากค่ายต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น Sony ได้มีความพยายามที่จะขยายฐานการพัฒนาเกมไปสู่เกมแนว Live Service มากขึ้น เช่นเกม Concord และเกม Fairgame$ แสดงให้เห็นเกมใหม่ๆ ของทางค่าย Sony ที่พยายามสร้างเกมแนว Multiplayer มากขึ้น ซึ่งแฟนๆ ของค่ายก็อาจมีความกังวลได้ถึงอนาคตของเกม First-Party จากค่ายนี้ว่าจะทอดทิ้งเกมที่เน้นการเล่าเรื่อง เกมเนื้อเรื่องแบบเล่นคนเดียวไปเลยรึเปล่า? ซึ่ง CEO ของ Sony Interactive Entertainment คุณ Jim Ryan ออกมายืนยันแล้วว่านั่นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ตัวอย่างเกม Concord และ Fairgame$

อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของเขาในเซ็คชั่น Q&A กับนักวิเคราะห์ในช่วงปี 2022 นั้นระบุว่า เมื่อทาง Sony ถูกตั้งคำถามถึงแผนการในการสร้างเกมแนว Live Service มากถึง 10 เกมด้วยกันตลอดไปจนถึงปี 2026 โดยคาดหวังที่จะเพิ่มยอดรายรับของเกมจากค่าย Sony เองมากขึ้นถึงสองเท่านั้นจะทำได้จริงมั้ย ทางคุณ Jim Ryan ระบุว่า Sony ไม่ได้คาดหวังว่าเกมทั้งหมดนั้นจะประสบความสำเร็จ และเขายังให้คำมั่นว่าเกมที่บอกเล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้ง หรือเกมเนื้อเรื่องนั้นจะยังคงเป็นเป้าหมายหลักที่เกมจาก Playstation มุ่งมั่นสร้างต่อไป

“มันคงเป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไปที่จะบอกว่าเกมแนว Live Service กว่า 10 เกมนั้นจะประสบความสำเร็จทั้งหมด เพื่อที่จะทำให้เกมของบริษัททำกำไรได้มากขึ้นถึง 2 เท่า" Jim Ryan กล่าว "นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราวางแผนไว้ แน่นอนคำว่า 'ความสำเร็จ' ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยเพียงแค่ตัวเลขหรือฟันธงไปเลยว่าสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ และเราก็จะไม่ทอดทิ้งการพัฒนาเกมที่สร้างรากฐานและทำให้เราประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้แน่นอน เกมผู้เล่นคนเดียว เกมที่เน้นกราฟฟิคสวยงามและถ่ายทอดเรื่องราวที่ลึกซึ้งจะยังคงเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาเกมของพวกเราแน่นอน"

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระดับผู้บริหารของ Playstaion ให้คำมั่นไว้แบบนี้ เพราะในช่วงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หัวเรือใหญ่ของค่าย Playstation อย่างคุณ Hermen Hulst ก็กล่าวไว้ว่า "จะสร้างสรรค์เกมผู้เล่นคนเดียวที่เน้นการเล่าเรื่องเป็นหลักต่อไป"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook