เกมส์ Pangya ข้อมูล Treasure Hunt ล่าสมบัติ

Treasure Hunt ล่าสมบัติมหากาฬ สวัสดีครับ วันนี้ผมก็ยังอยู่กับเกม Pangya Season 4 Delight ก็แพตช์นี้มีการอัพเดตมาให้เพียบขนาดนี้ วันนี้ผมเลยจะมาพูดถึงอีก 1 ระบบที่ต้องทำให้การเล่นสนุก และมันส์เพิ่มขึ้นอีก นั่นก็คือระบบ Treasure Hunt เรามาเริ่มล่าสมบัติกันดีกว่า เตรียมตัวล่าสมบัติ Treasure Hunt เป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Season 4 นี้ โดยผู้เล่นที่เล่นจบในแต่ละสนามจะได้รับกล่องสมบัติมา 1 กล่อง โดยแต่ละกล่องจะมีไอเทมที่แตกต่างกันไป และมีจำนวนไอเทมที่ได้รับไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับ Point ที่เราได้รับตอนเล่นจบสนาม โดย Point ที่เราได้รับจะคิดแต่ละหลุมที่เราตีจบ รวมคะแนนไปเรื่อยจนจบการแข่งขัน ซึ่งหากเราตีไม่มีเสีย ไม่มีเด้งหลุด ค่า Ratio ของผู้เล่นก็จะสูงขึ้น หากสูงในระดับที่กำหนด ก็จะได้รับกล่องสมบัติมาหลังแข่งเสร็จแต่ละสนาม โดยกล่องสมบัติจะมีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งของในแต่ละกล่องก็จะต่างกันไป ผู้เล่นจะได้กล่องสมบัติแต่ละแบบตามระดับค่า Treasure Point ที่ทำได้ ถ้าทำได้สูงก็ได้กล่องที่ดีสุด ทำไมถึงต้องเล่น -ระบบที่ทำให้เพื่อนๆ ได้สนุกกับการเล่นในทุกๆ สนามมากขึ้น โดยเฉพาะสนามที่มีความยากหรือความนิยมต่ำ เพราะเมื่อคนเล่นน้อย เราก็จะมีค่าคูณที่สูงขึ้น -เพื่อนๆ จะได้รับไอเทมจากระบบนี้เท่าๆ กันไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะก็ตาม ยกเว้นใน Tournament Mode -เพื่อนๆ จะออกกลางเกมน้อยลง เพราะหากเล่นจนจบจะได้ไอเทมเพิ่มอีก ออกก่อนก็อดนะจ๊ะ -เพิ่มเติมความสนุก ความน่าค้นหา เพราะเราไม่ทราบได้เลยว่าจะได้รับไอเทมอะไรบ้าง -การ์ดบางใบก็สามารถหาได้จากระบบนี้ด้วย ทำให้เราต้องเล่นเพื่อตามล่ามัน Treasure Point มันมายังไง แน่นอนครับว่า Treasure Point มันมีที่มา จะมาไก่กาสุ่มมั่วกันตามอารมณ์ก็ใช่ที่ เมื่อมันมีที่มา ผมก็เลยจะนำระบบการคิดคำนวณมาบอกกล่าวให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน เพราะเป็นระบบที่ง่ายๆ ไม่ต้องนั่งคิดหาแคลคูลัส ยกกำลัง ถอดสแควร์รูท ให้มันยุ่งยากครับ ค่า Treasure Point แต่ละหลุมคิดจาก = (Treasure Point + Extra Drop Rate) * (Multiplier + Addition Multiplier) ซึ่งค่าแต่ละตัวมีที่มาดังนี้ Treasure Point ค่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราเอง ยิ่งตีได้ลบเยอะๆ ก็จะได้แต้มเพิ่มมากขึ้น Extra Drop Rate ค่านี้จะได้มาจากเช่น การใส่ไอเทมเพิ่มอัตราการดรอปไอเทม Multiplier ค่านี้แต่ละสนามจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความนิยมในการเล่นของสนามนั้นๆ ยิ่งถ้าคนเล่นสนามไหนเยอะมากๆ ค่าก็จะต่ำลง และสนามไหนที่คนเล่นน้อยๆ ก็จะค่าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ถ้าเราเล่นสนามที่ไม่ค่อยมีคนเล่นก็จะได้ช่วยให้ได้ค่า Point เพิ่มมากขึ้นด้วย Addition Multiplier ค่านี้ขึ้นอยู่กับความยากของสนามต่างๆ ยิ่งสนามยากมากเท่าไหร่ค่าที่ได้ก็จะมากขึ้นด้วย เมื่อเรารู้ค่าต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาดูตัวอย่างการคำนวณกันดีกว่า โดยสมมุติว่า -เราตีสนาม Deep Inferno ซึ่งมี 5 ดาว เราก็จะได้ค่า Addition Multiplier อยู่ที่ 0.5 -สนาม Deep Inferno นี้ คนไม่เล่นเลย มีค่า Treasure Gauge อยู่ที่ 100 จึงมีค่า Multiplier อยู่ที่ 1.5 -หลุมที่ 1 เราตีได้ Par จึงได้ค่า Treasure Point อยู่ที่ 10 -และตอนเล่นเราใส่ Angel Wing ด้วย จึงได้อัตราการดรอปอีก 10% เมื่อเอามาเข้าสูตรการคำนวณที่ว่า =(Treasure Point + Extra Drop Rate) * (Multiplier + Addition Multiplier) =(10 + 1) * (1.5 + 0.5) =22 สรุปว่าเราได้ค่า Treasure Point ของหลุมนี้เท่ากับ 22 เราก็เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ จนจบการแข่งขัน เราก็จะได้คะแนนรวมออกมา จากนั้นเราก็จะมาดูว่าได้คะแนนเท่าไหร่ ยิ่งได้คะแนนมาก เราก็จะมีสิทธิ์รับไอเทมมากขึ้นด้วย เป็นไงครับระบบสุดยอดอย่างนี้ ทำให้อยากไปออกรอบกันไวๆ เลยทีเดียว ถ้างั้นอย่ารอช้าไปกันเลยดีกว่า เพราะผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน

สนับสนุนเนื้อหาโดย