เทคนิคการเล่นเกมส์ Call of Duty 4
การเก็บเลเวลในเกมส์ Call of Duty 4 มีผลต่อการปลดล๊อคอาวุธกระบอกใหม่ๆรวมถึงทักษะต่างๆ เพื่อเสริมการเล่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับโหมดมัลติเพลเยอร์ที่ประเทศไทยได้เปิดส่วนใหญ่เป็นโหมด Team Deathmatch ด้วยชั่วโมงบินสูงเริ่มเล่นตั้งแต่เกมวางขาย ผมจึงขอแนะแนวกับการตะลุยเก็บเลเวลให้ถึงเลเวล 55 ภายใน 36 ชั่วโมง(ด้วยระยะเวลาการเล่น ผมใช้เวลาการเล่นประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงต่อวัน)
เลือกอาวุธที่เหมาะสมและถนัดที่สุด การเลือกใช้อาวุธมีผลต่อสภาพแวดล้อมและการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม อย่างเช่นฉากที่เป็นตรอกซอยหรือสถานที่แคบๆจะเหมาะกับอาวุธประเภท Shotgun หรือปืนกลจำพวก Sub Machine Gun ประเภทที่ไม่ส่ายกระสุนมาก หรือสถานที่โล่งกว้างที่เหมาะกับปืนกลประเภท Assault Rifle หรือ ปืน Sniper Rifle นอกจากนั้นแล้วตัวผู้เล่นก็ควรเลือกหาอาวุธที่คิดว่าเหมาะสมกับผู้เล่นและถนัดที่สุดเพื่อต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในฉากนั้นด้วย
ประเภทของอาวุธ Assault Rifle - เหมาะสมกับการเล็งระยะกลาง - ไกล Sub Machine Gun - เหมาะสมกับการเล็งระยะใกล้ - กลาง Light Machine Gun - เหมาะสมกับการเล็งระยะกลาง Shotgun - เหมาะสมกับการเล็งระยะประชิด Pistol - เหมาะสมกับการเล็งระยะประชิดกับกรณีฉุกเฉิน
หมั่นเก็บ Rank & Challenge Rank & Challenge เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นได้รับค่าประสบการณ์เร็วขึ้น ถ้าหากไม่ได้เก็บตอนนี้ ตอนหลังจะรู้สึกเสียดายหลังจากเลเวล 55 แล้ว ฉะนั้นหมั่นดู Challenge หลังจากที่จบเกมที่ได้มาและทำตามคำสั่งบ้าง
ฝึกการที่ไม่ต้องเล็ง จากโหมด Single Player ผู้เล่นส่วนมากมักเล็งปืนเพื่อความแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่ให้เห็นผลของระยะยิง หากแต่ในโหมดมัลติเพลเยอร์ อาวุธบางชนิดก็ไม่เหมาะสมกับการเล็งเป้าหมาย เพราะโหมดดังกล่าวจะเอาชนะกันด้วยเวลาการคว้าปืนมายิงเป้าหมายและทำให้เสียชีวิต จากเท่าที่สังเกตปืนประเภท Sub Machine Gun จะไม่ค่อยเห็นผลต่อการเล็ง เพราะเวลาเล็งขณะยิง เป้าจะกระตุก, กระสุนจะเบี่ยงไปทิศทางอื่น ผนวกกับความรุนแรงที่ยังเห็นผลในบางครั้งบางคราว แต่การยิงโดยไม่เล็งจะเห็นผลมากที่สุด และการรัวกระสุนจะรวดเร็วกว่าการเล็ง ขณะที่ปืนประเภทอื่นๆมักเห็นผลที่แทบนานๆครั้ง รวมถึงเรื่องโชคส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามการฝึกที่ไม่ต้องเล็ง ทำให้ผู้เล่นมีข้อได้เปรียบกับผู้เล่นคนอื่นระดับหนึ่งแล้ว
เกาะกลุ่มปะทะฝ่ายตรงข้าม การเล่นเป็นทีมเป็นหัวใจของเกมนี้เลย การบุกเดี่ยวเพียงลำพังเป็นสิ่งที่ยากต่อการเอาชนะทีมฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าจะได้อันดับที่ 1 ของทีม แต่ก็เป็นทีมที่แพ้ในอันดับ 2 ข้อดีของการร่วมมือกันเป็นทีมเพื่อปะทะฝ่ายตรงข้ามคือ ช่วยยิงสนันสนุนให้อีกแรง, คอยขว้างระเบิดกลับ, ช่วยปา Flashbang เพื่อเข้าบุก หรือ ยิงนำล่อง เป็นต้น เพียงแค่ช่วยเหลือกันน้อยนิดหรือยิงสั่วๆ ก็ทำให้คนๆหนึ่งได้เปรียบขึ้นมาแล้ว
ทีมที่แพ้ก็อาจเป็นทีมชนะก็ได้ ทีมที่แพ้ไม่ได้ถูกตีตราว่าไม่ใช่เป็นคนขี้แพ้ แต่เป็นคนที่กำลังจะชนะ ผู้แพ้ได้เรียนรู้จากผู้เล่นของคนอื่นๆด้วยเทคนิคการเล่นหรือการใส่ Skill ตัวผู้เล่นเองควรพยายามจับจุดของผู้เล่นคนอื่นบางรายว่ามาไม้ไหน และพยายามปรับการเล่นของตัวเองใหม่เพียงแก้เกม ถึงแม้ว่าเล่นแล้วแพ้ แต่ผู้เล่นได้เทคนิคการเล่นของแต่ละคนมากกว่า แม้ว่าทีมที่ชนะที่ได้ค่าประสบการณ์จากเกมแต่ก็ไม่ได้ประสบการณ์การเล่นจากคนอื่นๆถึงแนวทางการเล่นถึงการจับจุดผู้เล่นคนอื่นๆ หรือลองไปเล่นทีมชนะและสังเกตจากทีมแพ้ว่ามีข้อบกพร่องอย่างไรบ้าง
การพักเบรกชั่วครู่ การเล่นเกมเป็นเวลานาน ทำให้สายตาของผู้เล่นเหนื่อยล้า แสดงความอ่อนเพลียได้จากภายในเกมขณะเล่นเป็นเวลานาน เช่นการมองในระยะไกลจะพร่าชั่วครู่, ความตื่นตัวต่อการเล่นลดลง, การคิดวางแผนเริ่มไม่เป็นแบบแผน เป็นต้น การพักรบและหากิจกรรมทำอย่างอื่นประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ส่งผลให้อาการดังกล่าวกลับคืนมา แต่จะกลับคืนมาได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นควรแบ่งเวลาการเล่นให้ลงตัวและเหมาะสม (ตัวอย่าง ผมได้แบ่งเวลาการเล่นออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงเช้า, ช่วงบ่าย และกลางคืน ช่วงละประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าเกิดอาการเหนื่อยล้า ผมก็จะดื่มน้ำหรือไปสูดอากาศข้างนอกและให้สมองแล่นไปด้วย จากนั้นก็กลับมาเล่นใหม่อีกครั้ง)
Byline : nutn