เจาะลึก Counter Strike : Global Offensive

เจาะลึก Counter Strike : Global Offensive

เจาะลึก Counter Strike : Global Offensive
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Counter-Strike: Global Offensive

           Counter Strike : Global Offensive (CS : GO) ภาค ต่อล่าสุดของเกม Counter Strike สุดยอดเกม FPS ระดับตำนาน ซึ่งมาในภาคนี้เรียกว่าถูกอัพเกรดยกเครื่องใหม่ทั้งในเรื่องของกราฟิค, ระบบภายในเกม รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่สนับสนุนการเล่นของผู้เล่นอีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็ยังคงจุดเด่นของตัวเกม Counter Strike ดั้งเดิมบางอย่างเอาไว้ ทำให้เพื่อนๆ สามารถสนุกไปกับการเล่นเกม CS : GO ได้อย่างเต็มอรรถรสแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้ผมก็มีระบบที่น่าสนใจในเกมมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ

1.การเข้าเล่นโดยเลือกค่า Ping ที่ต้องการ

           สำหรับใน CS : GO เราสามารถเข้าไปเลือกเซิร์ฟเวอร์เพื่อเล่นกับผู้เล่นจากต่างประเทศ ได้ ซึ่งตรงนี้เราสามารถทำการเลือกโซนที่ต้องการจะเล่น รวมไปถึงเซตค่า Ping ที่ต้องการจะเล่นได้ด้วย (สามารถเลือกหาห้องที่มีค่า Ping ต่ำกว่า 50 ได้) ดังนั้นเราจึงสามารถเลือกห้องที่สามารถเล่นได้อย่างหมดกังวลเรื่องที่จะเข้า ไปเจอห้องที่มีค่า Ping สูงทำให้เล่นแล้วเสียอารมณ์เพราะแลค

 

2.โหมด และแผนที่

          แน่นอนว่า หากพูดถึงเกม FPS โหมด และแผนที่ในเกม ถือเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ ยิ่งเมื่อเป็นเกมที่เป็นภาคต่อของ Counter Strike ที่มีแผนที่อันเป็นเอกลักษณ์อยู่มากมาย Dust, Dust2 หรือ Italy แน่นอนว่าตัวเกม CS : GO ก็ไม่พลาดที่จะนำแผนที่ยอดฮิตเหล่านี้ มาเพิ่มลงในตัวเกม โดยเหล่าแผนที่สุดคลาสสิกเหล่านี้นั้นจะมีการเพิ่มรายละเอียดต่างๆ ในแผนที่ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตัวเกมยังมีโหมดต่างๆ ที่น่าสนใจอีกถึง 4 โหมด และแผนที่ประจำโหมดต่างๆ อีกด้วยครับ

 

     2.1. Arm Race
จำนวนแผนที่ : 2 แผนที่

     โหมดนี้จะมีเป้าหมายหลักคือ ผู้เล่นจะต้องทำการสังหารศัตรูฝ่ายตรงข้ามเพื่อเปลี่ยนอาวุธลำดับต่อไป ทีมใดที่สามารถเล่นอาวุธได้ครบทั้งหมด 25 ชนิดก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งเมื่อผู้เล่นผู้เล่นถูกสังหารก็จะเกิดต่อได้ทันที ดังนั้นโหมดนี้น่าจะถูกใจหลายๆ คนที่ชอบเล่นสไตล์เดินหน้าลุย บู้แหลกครับ

 

     2.2. Demolition
จำนวนแผนที่ : 6 แผนที่

     โหมดที่ผู้เล่นจะไม่สามารถซื้ออาวุธปืนได้เอง แต่จะต้องทำการสังหารศัตรูฝ่ายตรงข้ามเพื่อเปลี่ยนอาวุธลำดับต่อไป และทำตามเป้าหมายของแผนที่ให้สำเร็จ ทีมไดสามารถชนะได้ทั้งหมด 11 เกมก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ โดยจุดเด่นของโหมดนี้น่าจะอยู่ที่แผนที่ที่หากใครเคยเล่นเกม Left4Dead (ภาคแรก) มาก่อน น่าจะคุ้นเคยกับบางแผนที่ในโหมดนี้ นั้นเพราะว่าตัวเกม CS : GO ได้มีการนำบางส่วนของแผนที่ในเกม Left4Dead มาทำเป็นแผนที่ในโหมด Demolition นี้ ยกตัวอย่างเช่น Lake และ Safehouse เป็นต้น ซึ่งตัวแผนที่นั้นมีการปรับรายละเอียดบางส่วน เพื่อให้มีความเหมาะสมกับเกมแนว FPS มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดี และเล่นได้ง่ายมากขึ้นเลยทีเดียว  

 

     2.3. Casual
จำนวนแผนที่ : 8 แผนที่ 

     โหมดนี้จะเล่นทั้งหมด 10 รอบ ซึ่งผู้เล่นจะต้องเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ 6 เกมก่อนถึงจะเป็นฝ่ายชนะ โดยเงื่อนไขการชนะจะขึ้นอยู่กับแผนที่ และในโหมดนี้ผู้เล่นสามารถนำเงินจากการสังหารฝ่ายตรงข้าม มาซื้ออาวุธปืนได้ แต่รางวัลจากการสังหารจะได้แค่ ครึ่งเดียว (50%) เท่านั้น สำหรับโหมดนี้เรียกว่าเป็นโหมดแบบดั้งเดิมของ Counter Strike เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเริ่มเกมผู้เล่นจะต้องกดซื้ออาวุธเอง รวมไปถึงเงินที่ใช้ในการซื้ออาวุธนั้น ยิ่งสังหารเยอะก็ยิ่งมีเงินซื้ออาวุธดีๆ ได้ โดยโหมดนี้ก็จะมีแผนที่คลาสสิกที่คุ้นเคยอย่าง Dust, Dust2, Italy และ Train เป็นต้น

 

     2.4.Competitive
จำนวนแผนที่ : 8 แผนที่ 

     รูปแบบการเล่นของโหมดนี้จะคล้ายกับโหมด Casual แต่โหมดนี้จะเล่นทั้งหมด 30 รอบ ซึ่งผู้เล่นจะต้องเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ 16 เกมก่อนถึงจะเป็นฝ่ายชนะ (บู้กันนิ้วหงิกกันเลยทีเดียว) ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนของอาวุธนั้นผู้เล่นจะสามารถกดซื้อได้เมื่อเริ่มเกม ซึ่งเงินก็ได้จากการสังหารเป้าหมาย และเล่นให้จบเกมในแต่ละรอบเป็นหลัก นอกจากนี้ในโหมด Competitive ผู้เล่นสามารถซื้อ ชุดเกราะ และอุปกรณ์กู้ระเบิดได้ด้วย ส่วนแผนที่ก็จะมีเหมือนโหมด Casual
 ทั้งหมดครับ

 

3.คลังแสง

          มากันที่อาวุธภายในเกม CS : GO กันบ้าง สำหรับอาวุธภายในเกมนี้ มีการแบ่งจำแนกประเภทอาวุธเช่น Pistol (ปืนสั้น), Shotgun (ปืนลูกซอง), Sub Machine Gun (ปืนกลเบา), Assault  Rifle (ปืนไรเฟิลจู่โจม), Sniper Rifle (ปืนไรเฟิลซุ่มยิง), Light Machine Gun (ปืนกลหนัก), Grenade (ระเบิด) และ Tool (อุปกรณ์เสริม) ซึ่งจำนวนอาวุธ นั้นมีให้ใช้มากกว่าตัว Counter Strike ดั้งเดิมมาก ทำให้เราสามารถเลือกใช้อาวุธที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเองได้ไม่ยาก นอกจาะนี้อาวุธบางชิ้นยังมีการเพิ่มรายละเอียดบางอย่างเข้ามาเพื่อให้สมจริง มากขึ้น ยกตัวอย่าง ปืนตระกูลสไนเปอร์นั้น เมื่อทำการซูมขึ้นเป้าแล้ว หากเดิน เป้าที่ซูมก็จะเบลอทำให้มองได้ยากขึ้น แต่เมื่ออยู่เฉยๆ เป้าก็จะหายเบลอ แต่เราสามารถกดปุ่ม Shift เพื่อทำให้เป้าซูมนิ่งได้ แม้จะเดินก็ตาม แต่ข้อเสียของการกด Shift นั้น ตัวเราก็จะได้ช้าลงด้วย

 

4.ระบบซ้อมมือกับบอท (AI)

          แน่นอนว่าสำหรับผู้เล่นใหม่ หรือใครยังไม่พร้อมเผชิญหน้ารับความเจ็บปวดจากผู้เล่นจริง ตัวเกมเองก็มีระบบบอท (AI) ให้เราสามารถซ้อมมือได้ เช่นกัน โดยบอทในเกมนี้สามารถเพิ่มระดับความยากได้ถึง 5 ระดับ (ระดับแรกไม่มีบอทจึงไม่ขอนับนะครับ) ดังนี้ บอทไม่มีอันตราย, บอทระดับง่าย, บอทระดับปานกลาง, บอทระดับยาก และ บอทระดับเชี่ยวชาญ ซึ่งจากที่ทดสอบดูกับบอทตั้งแต่ บอทระดับยาก และ บอทระดับเชี่ยวชาญ นั้น ถือว่าเล่นได้ระดับเดียวกับผู้เล่นเลยก็ว่าได้ (อาจจะดีกว่าในบางจุดด้วย) แต่ก็ไม่ถึงขั้นยากจะเกินเหตุ แต่สำหรับมือใหม่แนะนำว่าให้ลองซ้อมมือกับ บอทระดับปานกลาง ไปก่อน เพื่อให้เคยชินกับตัวเกม แล้วค่อยปรับระดับขึ้นครับ

 

5.ระบบ My Accomplishments

          ตัวเกม CS : GO นั้นยังมีระบบ My Accomplishments ซึ่งตรงนี้จะมีการเก็บทั้งค่าสถิติต่างๆ ที่เราเคยเล่นไว้ไม่ว่าจะเป็น อาวุธที่ใช้บ่อย, อัตราการฆ่า, แผนที่ที่เข้าเล่นบ่อย, จำนวนรอบที่เล่น หรือจำนวนรอบที่ชนะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเก็บในส่วนของรางวัลความสำเร็จที่ซึ่งจะได้หลัง จากผ่านภารกิจที่กำหนดไว้ได้ตามเป้า และสุดท้ายคือระบบกระดานผู้นำ ซึ่งจะมีการจัดอันดับ Ranking ของผู้เล่นไว้ทั่วโลก

          จากที่กล่าวมาด้านบนนี้ ถือเป็นระบบหลักๆ ที่เพื่อนๆ จะได้พบในเกม Counter Strike : Global Offensive นี้ แน่นอน แต่นอกจากที่กล่าวมาด้านบนนี้ตัวเกมเองก็ยังมีระบบยิบย่อยที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตรงนี้หากมีโอกาส จะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันนะครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทีมงาน Goldensoft ที่อนุเคราะห์แพคเกจ Counter Strike : Global Offensive สำหรับทดสอบตัวเกมด้วยนะครับ

 

 

สนับสนุนเนื้อหา

โดย  Lafezter

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook