บรรยากาศงานฉลอง 25ปี Final Fantasy วันสุดท้าย

ก่อนจะเข้าสู่ข่าววันสุดท้าย ขอท้าวความข่าวของเมื่อวานก่อนสักนิดหนึ่ง เนื่องจากทางแฟมิซือได้อัพเดทข้อมูลจากเดโมเกม Lightning Returns -Final Fantasy XIII- มาให้อ่านกันแล้ว

Lightning Returns -Final Fantasy XIII-

งานเปิดตัวเกม Lightning Returns -Final Fantasy- เมื่อวานนี้ ทาง Nico Nico Video ไม่ได้ออกอากาศในส่วนของเกมเพลย์ของเกมดังกล่าวให้ดูกัน ทั้งนี้เพราะหลังจากที่ทีมงานไดเออกมาพรีเซนต์แนะนำตัวเกมกันเสร็จแล้ว ทาง Square Enix ก็ได้ปิดกล้องถ่ายทอดไป แล้วขอให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนทำแบบเดียวกัน จากนั้นทีมงานก็เปิดเทรลเลอร์ของเกมให้ได้รับชม แล้วก็ตามด้วยสาธิตการเล่น

ตัวเทรลเลอร์ดังกล่าวนั้นได้แนะนำโลกของ เกมพร้อมกับระบบเวลา ในเหตุการณ์ช่วงหนึ่งตัวเกมมีการนับเวลาถอยหลังไว้ที่ตัวเลข 00/02:54:23 ซึ่งแฟมิซือคาดเดาไว้ว่าเมื่อผ่านเควสต์ได้ ตัวนับเวลาถอยหลังดังกล่าวก็จะเพิ่มมากขึ้น

อีกช่วง หนึ่งก็เป็นการโชว์ไลท์นิ่งในชุดแต่งกายใหม่ กำลังตามจับคนร้ายในเหตุฆาตกรรม เธอก็ติดตามกลุ่มคนที่น่าสงสัยไป แล้วก็แสดงการใช้ระบบ Cover เช่นหลบหลังกำแพง คุณโทริยามะบอกว่าผู้เล่นสามารถทำการซ่อนตัวได้ด้วยการกดง่ายๆ

ในส่วนของตัวอย่างการเล่น ซึ่งเล่นให้ดูกันสดๆ บนเครื่อง PlayStation 3 นั้น ก็ เห็นว่าผู้เล่นสามารถปรับแต่งอาวุธ โล่ เครื่องแต่งกาย และอบิลิตี้ของไลท์นิ่งได้ เราสามารถบันทึกรูปแบบการปรับแต่ง แล้วเปลี่ยนรูปแบบไปมาระหว่างการต่อสู้ได้ โดยการปรับแต่งในแต่ละแบบมันก็จะมีชื่อเฉพาะของมัน เช่น Blast Witch หรือ Holy Liberator ซึ่งพอกดเปลี่ยนรูปแบบแล้วเราก็จะเห็นกายแต่งกายที่เปลี่ยนไปทันที ทางแฟมิซือเห็นว่าแนวคิดการสับเปลี่ยนรูปแบบการเซตติ้งตัวละครนั้น ก็คล้ายกับระบบ Optima หรือ Paradigm Shift ที่เอามาอัพเกรดขึ้นมา กล่าวคือพอสับเปลี่ยนรูปแบบแล้ว นอกจากบทบาทการเล่นจะเปลี่ยนไป ยังเปลี่ยนทั้งอาวุธ โล่ เครื่องแต่งกายไปด้วยเลย

ส่วนการ ต่อสู้นั้นยังคงมีเกจ ATB เหมือนเดิม แต่ตัวเกมมีความเป็น Action มากขึ้นตอนนี้เราสามารถเซ็ตสกิลต่างๆ ไว้กับปุ่มแต่ละปุ่มได้แล้ว อีกทั้งยังมีปุ่มหลบการโจมตีอีกด้วย

ศัตรูตัวใหญ่ๆ ที่ปรากฏในเดโมนั้น เช่น เบฮีมอธ จะมีสภาวะ Break หรือ Stagger หลายระดับ โดยระดับแรกสุดนั้นเรียกว่า Knockdown ซึ่งพอเข้าสู่สภาวะนี้แล้วไลท์นิ่งจะสามารถขโมยของจากศัตรูที่ล้มไปแล้วได้ ส่วนสภาวะ Break ระดับสุดท้ายเรียกว่า Overclock ซึ่งทำให้เวลาหยุดลง ทำให้ศัตรูหยุดนิ่ง แต่ไลท์นิ่งยังคงสามารถฟันงัดศัตรูขึ้นไปบนอากาศแล้วกระหน่ำโจมตีใ่สได้

ตัวเดโมที่เอามาโชว์นั้นยังเป็นเพียงงานใน ระดับ Alpha (ตัวเกมพึ่งเริ่มสร้างเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา) จึงยังไม่มี Texture และเสียงพากย์ (แต่ทีมงานก็ช่วยพากย์สดให้แทน)

ทางแฟมิซือบอกว่า จะลงบทสัมภาษณ์ทีมงานไว้ในแฟมิซือฉบับวันที่ 6 กันยายนนี้
(วางจำหน่ายประมาณวันอังคาร-พุธ)

รายงานสั้นๆ จากเวทีรำลึก 25 ปี Final Fantasy VII

งานนิทรรศการครบรอบ 25 ปีซีรียส์ Final Fantasy วันสุดท้าย เริ่มต้นอีเวนต์แรกด้วยเวทีรำลึก 15 ปีแห่ง Final Fantasy VII ซึ่งก็เริ่มขึ้นเมื่อตอน 9.30 น. ของวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยในงานนั้นก็มีผู้พากย์เสียงให้ตัวละครหลายท่านไปร่วมงานด้วย ซึ่งทีมงานทุกฝ่ายต่างก็เห็นถึงความสำเร็จในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา และรู้สึกว่าตัวเกมพึ่งจะฉลองครบรอบ 10 ปีไปได้ไม่นานเอง

ตัวคุณเท็ตสึยะ โนมุระนั้นได้ไปร่วมงานนี้ด้วย แล้วคุณโนมุระกับทีมงานผู้สร้าง FFVII ก็ช่วยกันเซ็นชื่อลงในแผ่น FFVII -Advent Children- (Serial Number 8) แล้วมอบให้กับแขกผู้โชคดีท่านหนึ่ง

ทั้งนี้ตัวผู้เข้าร่วมงานทุกคนต่างก็ได้รับผ้าขนหนูชินระ และสายคล้องของเทิร์คติดมือกลับบ้านไปด้วย

รายงานจากเวทีเสวนาเรื่อง อนาคตของ FInal Fantasy

ภายในงานครบรอบ 25 ปี Final Fantasy วันสุดท้าย Square Enix ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง "อนาคตของ Final Fantasy" ซึ่งในการเสวนานี้ก็มีการบันทึกเสียงเพื่อนำไปออกอากาศทาง Square Enix Channel ในวันที่ 13 กันยายน ในรายการก็เป็นการตอบคำถามจำนวนมากที่ส่งมาถาม e-mail ซึ่งเหล่าบุคลากรคนสำคัญของทางค่ายก็เป็นผู้มาตอบ

ทีมงานที่เข้าร่วมเวทีเสวนาดังกล่าวด้วยได้แก่

- ฮาจิเมะ ทาบาตะ (ผู้กำกับ Crisis Core -FFVII-, The 3rd Birthday และ FF Type-0)
- ยูซึเกะ นาโอระ (ผู้กำกับศิลป์)
- โยชิฮิสะ ฮาชิโมโตะ (ประธานฝ่ายเทคนิคของค่าย)
- มิตสึนาริ ทาคาฮาชิ (ผู้กำกับ Dissidia 012 -Final Fantasy-)
- โมโตมุ โทริยามะ (ผู้กำกับ FFX, FFX-2, FFXIII, FFXIII-2 และ Lightning Returns -FFXIII-)
- อิซามุ คามิโคคุเรียว (ผู้กำกับศิลป์ The 3rd Birthday, FFXII, FFXIII, FFXIII-2 และ Lightning Returns -FFXIII-)

ในส่วนของการตอบคำถามที่แฟนๆ ส่งมานั้น คำถามแรกถามว่า มีความเป็นไปได้มั้ยที่มอนสเตอร์ใน Final Fantasy จะมีคล้ายคลึงกับมอนสเตอร์ใน Dragon Quest คุณนาโอระตอบว่าในประสบการณ์การทำงาน 20 ปีที่บริษัทของเขานั้น ผลงานมอนสเตอร์ที่ได้ออกมาก็จะเป็นแบบนี้ ว่าแล้วเขาก็โชว์ภาพ sprite ของมอนสเตอร์ในอดีตขึ้นมา ส่วนคุณโยชิฮิสะก็เอามอนสเตอร์จาก Agni's Philosophy มาให้ดูกัน แล้วบอกว่าถ้าสร้างมอนสเตอร์ให้ FF ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ก็จะได้มอนสเตอร์ออกมาหน้าตาประมาณนี้ ส่วนคุณทาคาฮาชิก็บอกว่าแบบนี้น่าจะให้แบร์เร็ตตอนหนุ่มเป็นตัวเอกไปบู๊ด้วย แล้วล่ะ

คำถามต่อมา แฟนคนหนึ่งบอกว่า FF ภาคใหม่ๆ ในปัจจุบันนี้ได้รับอิทธิพลจากทางตะวันตกและความเป็นไซไฟเข้ามามาก แล้วแนะนำว่าถ้าทำเป็น FF สไตล์แบบญี่ปุ่นมันก็น่าจะดี คุณนาโอระเห็นด้วยกับความคิดนี้ คุณทาบาตะก็ไปหยิบภาพออกมาให้ดูว่าถ้าสร้าง FF แบบญี่ปุ่นออกมาแล้วมันจะเป็นยังไง แล้วคุณอิซามุก็มาช่วยออกความเห็นด้วย

จากที่กล้องถ่ายทอดสดนั้นไม่ยอมซูมไปยัง ภาพที่คุณทาบาตะหยิบมา จึงเชื่อกันว่าตัวภาพดังกล่าวนั้นถูกตั้งใจบล็อคไม่ให้ผู้ชมผ่านทางอินเตอร์ เน็ตได้เห็น จึงเห็นได้เฉพาะผู้ที่ไปเข้าร่วมงานเท่านั้น ถึงกระนั้น... จากภาพที่ถ่ายทอดสดนั้น เราจะเห็นตากล้องคนหนึ่งหันกล้องไปทางภาพที่คุณทาบาตะหยิบมา แล้วเราก็เห็นภาพดังกล่าวผ่านทางมอนิเตอร์เล็กๆ ของกล้องตัวนั้น ซึ่งหลังจากตากล้องคนดังกล่าวรู้ตัว เขาก็รีบปิดมอนิเตอร์ทันที

หลังจากแนะนำภาพกันเสร็จแล้ว คุณทาบาตะก็บอกว่าเขาเห็นว่าถ้าสร้าง FF แบบญี่ปุ่นด้วยภาพที่คุณภาพทัดเทียมกับ Agni's Philosophy ได้ก็คงจะดี

ต่อมาคำถามที่ 3 มาจากคนที่ส่งข้อความมาว่าเขาไม่เคยเล่นมาก่อน แต่เขาคงอยากเล่นถ้าทำ FF เป็นเกมจีบหนุ่มออกมา ซึ่งพอทุกคนได้ฟังก็หัวเราะกัน แต่คุณทาบาตะบอกว่าเขาให้ทีมงานลองไปออกแบบกันมาเล่นๆ ว่าถ้าทำ FF Type-0 แบบเป็นเกมจีบหนุ่มออกมาแล้วมันจะเป็นยังไง ปรากฏว่าทีมงานก็ทั้งออกแบบและไปวางแผนกันมาอย่างซับซ้อนทีเดียว ตามที่เห็นได้จากภาพและคลิปด้านล่างนี้

 

หลังจากนั้นคุณโทริยามะและคุณอิซามุก็ขึ้น มาบนเวทีด้วย พวกทีมงานก็คุยถึงเรื่องฉากที่ชื่นชอบที่สุดใน FF คุณทาบาตะบอกว่าเขาชอบฉากจบ Crisis Core -FFVII- มากที่สุด คุณโทริยามะกับคุณทาคาฮาชิบอกว่าเขาชอบฉากเปิดเกม FFVI คุณนาโอระบอกว่าเขาชอบฉากจบ FF Type-0 และคุณโยชิฮิสะบอกว่าชอบ FFI

คำถามสุดท้ายก็คือ "คิดว่าจ็อบไหนสเน่ห์แรง? ประมาณว่าเนื้อหอมที่สุด ประสบความสำเร็จมากที่สุด" ทางทีมงานก็เลยจัดทำสำรวจกันซะตรงนั้น คุณทาบาตะตอบว่า "โซลเยอร์เฟิร์สคลาส" แม้ว่ามันจะไม่ใช่จ็อบปกติของซีรียส์ก็ตาม คุณนาโอระตอบว่านักเลียนแบบ คุณโทริยามะตอบว่าอัศวินหัวหอม ส่วนคุณอิซามุก็ตอบว่าสลัดอากาศ ขณะที่คุณโยชิฮิสะบอกว่าจอมเวทย์ดำ แล้วคุณทาคาฮาชิก็บอกว่าโจร

สำหรับผู้ชมนั้น โหวตไนท์กันมา 20% จอมเวทย์ขาว 15% ตามด้วยโจร จอมเวทย์ดำ อัศวินแห่งความมืด กวี และนินจาที่ได้รับเสียงโหวตไป 7.5%

เวทีเสวนาก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปิดท้ายด้วยคลิปประวัติศาสตร์ผลงานของทีม Visual Works ทีมผู้สร้าง CGI ให้กับค่ายตั้งแต่ FFVII จนมาถึง FFXIII-2 ที่พึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

 

จากนั้นคุณทาบาตะก็พูดทิ้งท้ายว่า "Final Fantasy Versus XIII ยังคงพัฒนาอยู่ คุณโนมุระฝากมาบอกว่า เขาจะแสดงอนาคตของ Final Fantasy ให้เห็นกันในไม่ช้านี้" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคุณโนมุระหมายถึง FF Versus XIII หรือหมายถึงอย่างอื่น