ASUS RT-N12HP เร้าท์เตอร์กำลังส่งสูงเพื่อการใช้งานภายในบ้านและออฟฟิศส่วนตัว

 

กรุงเทพฯ (10 มกราคม 2555) – “เอซุส” ผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งยุคดิจิตอล นำเสนอผลิตภัณฑ์เร้าท์เตอร์ตัวแรงใหม่ล่าสุด “ASUS RT-N12HP wireless-N300 High-power” พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อผู้ที่ต้องการใช้งานเครือข่ายไร้สายภายในบ้านหรือออฟฟิศที่กว้างกว่าเดิม มาพร้อมกับตัวเสาสัญญาณขนาด 9dBi ที่สามารถถอดออกได้ และฮาร์ดแวร์ขยายสัญญาณทรงพลัง (Signal power amplifier) ที่ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้แรงกว่าเดิมถึง 300% รวมฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ 3-in-1 ไว้ในอุปกรณ์เดียวอย่างครบครันคือ ทำหน้าที่เป็นเราท์เตอร์ อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ (Access point) และอุปกรณ์ขยายสัญญาณ (Range extender) มาพร้อมหน้าจอปรับแต่งใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายที่สามารถสร้างเครือข่ายไร้สายได้ถึง 4 เครือข่าย เอื้อประโยชน์ให้ผู้ใช้งานปรับแบนด์วิธและประสิทธิภาพในการเข้าถึงเครือข่ายตามต้องการ

 

 

เทคโนโลยี High-power ส่งสัญญาณไกลขึ้น 300%

เร้าท์เตอร์ ASUS RT-N12HP มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์พิเศษที่ช่วยเพิ่มการรับส่งข้อมูลไร้สายสัญญาณ เสาสัญญาณขนาด 9dBi ที่ถอดออกได้ช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณ และตัวขยายสัญญาณเครือข่ายแยก ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มขอบเขตสัญญาณไร้สายตามมาตรฐาน 802.11n ถึง 300% เมื่อเทียบกับเราท์เตอร์ N300 ทั่วไป ในขณะเดียวกับเร้าท์เตอร์รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยอุปกรณ์ที่ทนทานเพื่อการส่งสัญญาณที่คงที่ เร้าท์เตอร์ RT-N12HP นี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านหรือออฟฟิศส่วนตัวที่ต้องการขอบเขตสัญญาณไร้สายที่กว้างขวางขึ้นภายในอุปกรณ์ชิ้นเดียว

 

 

EZ Switch ยืดหยุ่นควบคุมง่ายใน 3 โหมด: เราท์เตอร์, อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ (access point) และอุปกรณ์ขยายสัญญาณ (range extender)

ด้วยโปรแกรม EZ Switch ที่มีหน้าจอใช้งานง่ายช่วยสลับการทำงานใน 3 โหมดของเราท์เตอร์ RT-N12HP เพียงกดครั้งเดียวก็สามารถเลือกใช้งานเราท์เตอร์ตามปกติ เปลี่ยนเป็นตัวปล่อยสัญญาณ (ส่งสัญญาณ Wi-Fi ให้กับโมเด็มหรือเราท์เตอร์ที่มีอยู่) หรือทำงานเป็นตัวขยายสัญญาณที่ช่วยขยายขอบเขตสัญญาณให้เราท์เตอร์ตัวอื่น

 สร้างหลายเครือข่ายด้วยเราท์เตอร์เพียงเครื่องเดียว แยกการตั้งค่าสัญญาณสำหรับเครือข่ายรอง

เร้าท์เตอร์ ASUS RT-N12HP สามารถรองรับเครือข่าย (ชื่อเครือข่ายหรือ SSID) แยกได้ถึง 4 เครือข่ายด้วยกัน โดยผ่านระบบใช้ Dynamic bandwidth allocation ที่ช่วยให้ผู้ดูแลควบคุมการเข้าถึงเครือข่ายแต่ละเครือข่าย รวมถึงโควต้าแบนด์วิธที่สามารถใช้งานได้ นั่นหมายถึงเครือข่ายหลักสามารถทำงานได้พร้อมๆ กับเครือข่ายรองโดยที่ความเร็วจะช้าลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าให้ผู้ใช้งานชั่วคราว หรือแขกเข้ามาร่วมใช้เครือข่ายและอินเตอร์เน็ตได้ตามระดับความปลอดภัยและสิทธิ์ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์หลัก/เครือข่ายหลักสามารถใช้งานสิทธิ์และแบนด์วิธอย่างเต็มที่ ในขณะที่เครือข่ายรองจะใช้งานได้จำกัด ส่วนการตั้งค่าที่ยืดหยุ่นคือไม่ต้องแชร์พาสเวิร์ด ผู้ดูแลมีสิทธิ์ควบคุมการตั้งค่าทั้งหมดอย่างง่ายดายผ่านทางหน้าจอ ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการก็ตั้งค่าเครือข่ายได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ