8 ความลับของเกมมาริโอ้ที่คุณอาจยังไม่รู้

8 ความลับของเกมมาริโอ้ที่คุณอาจยังไม่รู้

8 ความลับของเกมมาริโอ้ที่คุณอาจยังไม่รู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ก็เรียกว่าเป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คนกันล่ะครับ สำหรับเจ้าซีรี่ย์ลุงหนวดมาริโอ้ที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกและเป็นมาสคอตของทาง Nintendo ตลอดกาล แต่จริงๆ แล้วก็ยังมีเรื่องราวของมาริโอ้ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย

มาริโอ้เป็นชื่อเจ้าของสำนักงานเช่า

     จริงๆ แล้วชื่อของมาริโอ้นั้นไม่ใช่ว่าเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นชื่อเจ้าของสำนักงานเช่าที่มีขื่อว่า Mario Segale ที่ทางนินเทนโด้อเมริกาไปเช่าเพื่อพัฒนาเกม Donkey Kong นั่นเอง

มาริโอ้เผยโฉมครั้งแรกเป็นมนุษย์กระโดดในเกม Donkey Kong

     หลังจากที่ทางนินเทนโด้อเมริกาไปเช่นสำนักงานกับ Mario Segale ก็ได้สร้างตัวละครในเกมขึ้นมาที่มีชื่อว่า Mario และนำไปเป็นตัวละครในเกม Donkey Kong ที่พวกเขาพัฒนาตอนที่เช่าสำนักงานอยู่  ที่เรียกว่ามนุษย์กระโดดก็เพราะบทบาทของมาริโอ้ในเกมก็คือกระโดดหลบถังที่ เจ้า  Donkey Kong ทุ่มมาเพื่อไปช่วยแม่สาว Pauline แฟนของมาริโอ้ที่ถูกลักพาตัวไป

หน้าปกมาริโอ้ภาคแรกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เป็นรูปตอนกำลังจะตาย

     หน้าปกมาริโอ้ภาคแรกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ถ้าไม่คิดอะไรก็เป็นเหมือนกับหน้าปกเกมทั่วๆ ไป แต่ถ้าลองมองดูดีๆ มันก็คือฉากที่มาริโอ้กำลังตกลาวาตายในด่านปราสาทชัดๆ แถมปล่อยลูกไฟโชว์ 1 เม็ดก่อนม่องอีกต่างหาก

นินเทนโด้อยากให้มาริโอ้ขี่ยอสซี่ตั้งแต่สมัย Famicom แล้ว แต่ก็ใช้เวลาถึง 6 ปีถึงทำให้เทคโนโลยีรองรับ

     Shigeru Miyamoto บิดาผู้ให้กำเนิดมาริโอ้เคยอยากให้มาริโอ้ขี่ไดโนเสาร์หลังจากที่ทำเกมภาค แรกเสร็จ แต่ก็ต้องรอเป็นเวลาถึง 6 ปีด้วยกัน เพื่อให้พ้นขีดจำกัดทางด้านเทคโนโลยีในสมัยนั้น (ยังไม่สามารถสร้างสคริปต์ที่ซับซ้อนได้) แต่ในที่สุด มาริโอ้ก็ได้ขี่ไดโนเสาร์สมใจอยาก ซึ่งก็คือเจ้ายอสซี่ที่ปรากฏตัวออกมาครั้งแรกใน Super Mario World นั่นเอง ถึงจะเป็นเวลาถึง 6 ปี แต่ก็ยังได้ขี่นะ

กระโดดข้ามธงได้นะ

     ในมาริโอ้ภาคแรก ก่อนจบด่านนั้นแค่เรากระโดดรูดธงให้ได้สูงที่สุดก็ถือว่าเป็นความน่าภูมิใจ เล็กๆ แล้ว แต่จริงๆ นั้นมันสามารถกระโดดข้ามธงได้ด้วย แต่พอข้ามไปแล้วก็ได้แต่วิ่งชมทิวทัศน์ข้างปราสาทไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเบื่อแล้วกด Reset ไปเอง 

องค์กรอนุรักษ์สัตว์เคยโจมตีมาริโอ้ เพราะว่าชุดทานูกิที่มาริโอ้ใส่เป็นการส่งเสริมการทารุณกรรมสัตว์

     ข่าวนี้เคยเป็นข่าวที่ดังมากๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่นินเทนโด้ได้วางจำหน่าเกม Super Mario 3D Land บนเครื่อง 3DS ก็แน่นอนว่ามีชุดทานูกิที่ใส่แล้วจะบินได้เหมือนกับสมัยภาค 3 ซึ่งดูเผินๆ มันก็ไม่ได้มีอะไร แต่มันดันเกิดประเด็นเงิบขึ้นเมื่อ PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) องค์กรต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาล้งเล้งโวยวายกับนินเทนโด้ว่าการนำไอ้ชุดทานูกิมาให้มาริโอ้ใส่ใน เกมนั้นสื่อความหมายที่ไม่ดีให้กับเกมเมอร์ว่ามาริโอ้ทำการถลกหนังทานูกิไป ใส่ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงนั้นทานูกิเป็นสัตว์ที่มักจะโดนมนุษย์รังแก จับไปถลกหนังเพื่อทำเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนั้น PETA ยังได้ทำเกมล้อเลียนมาริโอ้ขึ้นมาด้วย โดยเป็นเกมที่ทานุกิจะต้องตามจับมาริโอ้ที่พึ่งถลกหนังของมันไปใส่หมาดๆ งานนี้ทำเอาแฟนๆ มาริโอ้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก และสุดท้าย PETA ก็ออกมากล่าวว่าเป็นแค่มุกตลกเท่านั่น - -" (ไม่เพียงเฉพาะค่ายนินเทนโดเท่านั้น แต่ยังมีค่ายอื่นมากมาย ที่ตกเป็นเป้าของทาง PETA)

เมฆกับพุ่มไม้หน้าตาเหมือนกันแป๊ะ แค่เปลี่ยนสี

     การพัฒนาเกมคอนโซลในสมัยนั้นถือว่ามีข้อจำกัดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตลับ Famicom นั้นมีความจุสูงสุดเพียงแค่ 24-320k นั้น (สมัยนี้แค่พิมพ์รายงาน ใน MS Word อย่างเดียวก็แทบเกินละ) การที่จะพัฒนาเกมให้ยัดลงตลับไปได้ก็ต้งปรับแต่งกันสุดๆ อะไรที่ไม่จำเป็นตัดได้ก็ตัดหรือใช้ซํ้า ก้อนเมฆในเกมมันก็เลยเหมือนกับพุ่มไม้ยังกะแกะ ไม่เหมือนแค่สีเท่านั้นเอง 

นินเทนโด้เคยเรียกคืนเกม Mario Party 8 จากร้านทั่วอังกฤษ จากความผิดพลาดของศัพท์แค่คำเดียว

ถือว่าเป็นเรื่องวุ่นวายกันเลยทีเดียวเมื่อปี 2007 หลังจากที่นินเทนโด้วางจำหน่าย Mario Party 8 ซีรี่ย์มินิเกมสุดบันเทิงบนเครื่อง Wii ที่อังกฤษ ก็ต้องรีบเรียกคืนแผ่นกันอย่างเร่งด่วนเลยทีเดียวเนื่องจากความผิดพลาดของคำ ศัพท์แต่คำเดียวภายในเกม นั้นก็คือคำว่า Spastic ซึ่งเป็นคำแสลงที่ค่อนข้างรุนแรงในประเทศอังกฤษ (แต่เฉยๆ ในอเมริกา)ก็คือว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของนินเทนโด้ที่ดีเลยทีเดียว

แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้มาริโอ้ เรื่องพวกนี้ก็คงรู้กันหมดอยู่แล้วล่ะเนอะ ^ ^

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook