ต้องพรีเซนเตอร์เกมแบบนี้สิ ถึงจะตรงกับเกมส์
หากใครที่ติดตามคอลัมภ์ของกาแฟก้นแก้วที่กระผมได้นำเสนอมาตลอดคงพอจะจำ ได้นะครับว่าครั้งหนึ่งผมเคยเขียนเกี่ยวกับการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ของเกม ต่างๆ รวมถึงการเลือกตัว MC หรือพริตตี้ที่จะมาช่วยเป็นกระบอกเสียงกระจายข่าวสารของเกมนั้นๆ ให้ออกไปยังกลุ่มชนให้มากที่สุด หากใครยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปดูที่ http://game.sanook.com/952010 ซึ่งมีหลายท่านที่แสดงความคิดเห็นทั้งทางบวกและลบ ซึ่งอันนั้นมันก็สุดแล้วแต่ความคิดของตัวบุคคล ผมก็แค่แสดงความคิดของตัวเองออกไปก็เท่านั้น เพราะบางทีตัวพรีเซ็นเตอร์เองก็ช่วยกระตุ้นยอดของสินค้าได้ดีเหมือนกัน ตัวอย่างมีให้เห็นอย่างเจมส์จิ ที่ล่อซะโยเกิร์ตยี่ห้อหนึ่งกลายเป็นแรร์ไอเทม ไม่รู้ว่าเพราะอร่อยหรือบรรดาแฟนคลับแห่ซื้อกันแน่ แต่ก็ถือว่าสอบผ่านทีเดียวกับกลยุทธิ์ครั้งนี้ อะๆ นอกเรื่องเกมจนได้ ขอวกกลับครับ
ถึงตอนนี้ผมมีตัวอย่างดีๆ มาให้ดูกันบ้าง เพราะเมื่อกลางสัปดาห์ประมาณวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทางคอมพ์เกมเมอร์ได้รับเชิญจากทาง Playpark ให้เข้าร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของเกม FCM หลายคนอาจจะงงว่าเกมเปิดมาได้สักระยะแล้วทำไมเพิ่งจะมาเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ อันนี้ก็ขอบอกตามตรงเหมือนกันว่าไม่ทราบเหตุผลเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นแผนทางการตลาดอะไรประมาณนั้น อันนั้นเราไม่ขอเกี่ยว แต่ที่จะมาบอกกันนั่นก็คือการเลือกตัวผู้ที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเกม FCM จะใช้ใครเท่านั้น ซึ่งบอกกันตามตรงนะครับว่าเดี๋ยวนี้เกมส่วนใหญ่มักจะเน้นกันที่ดาราหรือแม้ แต่พริตตี้ทรงสะบึ้ม ซึ่งผมเองก็แอบคิดเหมือนกันว่า ตกลงแล้ว FCM จะใช้ใครกันแน่ หรือแค่เอาสาวมทรงโตมาใส่ชุดฟุตบอลแค่นั้น แต่ถ้าหากเรามองไปที่ตัวเกมของ FCM แล้วให้ผู้หญิงมาใส่ชุดฟุตบอลมันดูจะขัดใจสักหน่อย ถึงแม้ว่าเกมจะเป็นเกมแนว Sport ประเภทฟุตบอลก็ตาม แต่แก่นแท้ของเกม FCM คือการเน้นที่การคุมทีม ไม่ใช่เล่นเน้นการบังคับ แต่เจาะลึกไปที่แผนการทำทีม ซึ่งเปรียบเสมือนให้เราเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรนั่นแหละ เพราะฉนั้นการเอาผู้หญิงมาแต่งชุดฟุตบอลเลยกลายเป็นไม่เข้ากันไปโดยปริยาย
ดังนั้นทาง FCM เลยจับเอาสุดยอดเฮ็ดโค้ชของเมืองไทยมาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นพรีเซ็นเตอร์ ของเกม FCM มันซะเลย ซึ่งอันนี้ผมยกมือเห็นด้วย 100% เต็ม เพราะเกมเน้นการคุมทีม การเอาตัวโค้ชจากทีมต่างๆ มาเลยเป็นเหตุเป็นผลที่เห็นแล้วไม่มีอะไรจะเหมาะเท่านี้ แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ เห็นจะเป็นการรวมตัวของสุดยอดโค้ชของเมืองไทยมากกว่า เพราะแทนที่จะใช้เพียงแค่คนเดียว แต่นี่ทาง FCM กลับรวมโค้ชฝีมือดีมารวมไว้ถึง 12 ท่าน ประกอบไปด้วย โค้ชง้วน – สุรชัย จตุรภัทรพงศ์, โค้ชเฮง – วิทยา เลาหกุล, โค้ชแต๊ก – อรรถพล บุษปาคม, โค้ชเตี้ย – สะสม พบประเสริฐ, โค้ชอเล็กซานเดอร์ มาโน่ โพลกิ้ง, โค้ชอนุรักษ์ ศรีเกิด, โค้ชหนุ่ย-เฉลิมวุฒิ สง่าพล, โค้ชประจักษ์ เวียงสงค์, โค้ชธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล, โค้ชจเด็จ มีลาภ, โค้ชดุสิต เฉลิมแสน และโค้ชวรวุฒิ ศรีมะฆะ
ส่วนแขกที่เข้าร่วมงานนี้ผมค่อนข้างจะหงอยเหงาไปหน่อย เพราะสื่อที่มาไม่ใช่่สื่อเกมตามที่เคยเห็น แต่สื่อที่มาส่วนใหญ่เป็นสื่อกีฬาจากที่ต่างๆ ซึ่งตอนแรกก็ยังอดเป็นห่วงแทนว่าสื่อกีฬาเหล่านี้จะช่วยกระจายข่าวสารได้ตรง เป้าแค่ไหน หรือแค่เพียงติดตามมาทำข่าวความเคลื่อนไหว และเน้นที่ตัวโค้ชทั้ง 12 ท่านมากกว่าตัวเกม ซึ่งมีให้เห็นกันบ่อยครั้งเมื่อมีพรีเซ็นเตอร์เป็นดารา ส่วนใหญ่นักข่าวมักจะเน้นสัมภาษณ์กันที่เรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ครั้งนี้มันตรงกันข้ามจริงๆ ต้องยอมรับเลยว่าจากการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของเกม FCM นั้น มันให้แง่คิดอย่างหนึ่งเหมือนกันคือ เกมเน้นทางไหน การใช้พรีเซ็นเตอร์ที่ถูกทางมันจะช่วยดึงดูดผู้คนที่สนใจให้เข้ามาลองเล่นก็ ย่อมมีโอกาสมากกว่า ผมสังเกตเห็นจากสื่อกีฬาจากที่ต่างๆ ให้ความสนใจในตัวเกมและสอบถามทางทีมงานแล้วรู้สึกดีครับ อย่างน้อยที่เขามาก็ไม่ใช่แค่เล็งเป้าไปที่ตัวพรีเซ็นเตอร์ แต่ยังเล็งเห็นถึงตัวเกมที่ไปในแนวทางเดียวกับพรีเซ็นเตอร์ และอยากทดลองที่จะเล่น อันนี้แหละครับที่ต้องขอชมทางทีมงาน FCM เลยว่า พรีเซ็นเตอร์ทั้ง 12 ท่านนี้ จะช่วยกอบโกยยอดผู้เล่นเพิ่มอีกเพียบแน่นอน
ถามว่าทำไมผมถึงมั่นอกมั่นใจว่าการเปิดตัวโค้ชครั้งนี้จะช่วยดึงยอดผู้ เล่น เพราะขนาดนักข่าวเองยังสนใจเกมและสอบถามยังทีมงาน นั่นมันก็แสดงให้เห็นว่า การดึงคนที่มีความสนใจทางด้านหนึ่งของเกมเข้ามารับรู้ข่าวสาร มันย่อมมีแรงดึงดูดให้เขาทดลองเล่นมากกว่าการใช้คนที่ไม่ตรงสาย หมายถึง เกมแนวฟุตบอลเน้นวางแผน การดึงคนที่ชอบในกีฬาฟุตบอลเข้ามาก็ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ชัดเจน อย่างน้อยก็ชอบฟุตบอล การจะทำอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอลมันย่อมเป็นเรื่องง่าย และอีกอย่าง การกระจายข่าวเกมแนวฟุตบอลให้คนที่อ่านข่าวกีฬาฟุตบอลจึงเป็นแผนการดึงยอด ผู้เล่นที่ผมต้องขอบอกว่า มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มกับการทุ่มทุนดึงตัว 12 โค้ชมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้
กับอีกหนึ่งเกมนั่นคือการนำบัวขาวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเกม The King of Fighter Online หรือ KOF คงไม่มีใครเหมาะเท่านี้อีกแล้วจริงๆ เพราะตัวเกมดั้งเดิมก็คือเกม Fighting ถึงแม้ว่าพอมาเป็นรูปแบบออนไลน์จะกลายร่างมาเป็น MOBA 100% ก็ตาม แต่ตัวละครหนึ่งในนั้นมีแนวลักษณะคล้ายกับบัวขาว การจะเอาบัวขาวมาแต่งให้เหมือนจึงเป็นอะไรที่เหมาะเจาะอย่างถึงที่สุด บวกกับแนวเกมที่ต้องห้ำหั่นกันด้วยแล้วขอบอกว่าโดนใจ ถึงแม้ว่างานแถลงข่าวเปิดตัว KOF อย่างเป็นทางการที่เปิดไปเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน จะมีสาวทรงโตประกอบฉากบ้าง อันนั้นมันแค่งานเปิดตัวเกม แต่ใจกลางความรู้สึกของการเปิดตัวเกม KOF เขาคือบัวขาวเท่านั้น
บางคนเคยบอกว่าผมไม่มีความรู้เรื่องการตลาด การจะมาวิพากวิจารณ์อาจจะดูแล้วไม่เหมาะไม่ควร ก็ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่า ความรู้เรื่องการตลาดแทบจะไม่มี แต่ผมพูดตามที่เห็น และสามารถเข้าถึงกับตัวพรีเซ็นเตอร์ของเกมนั้นๆ โดยใช้ตัวเองเป็นหลัก หากพรีเซ็นเตอร์ทำให้ผมสนใจเกมนั้นและลองเล่นได้ อันนั้นถือว่าประสบผลจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเกมด้วยเช่นกัน ว่าสุดท้ายแล้วจะทำออกมาได้ดีเพียงใด ต่อให้ใช้พรีเซ็นเตอร์ที่ตรงแนวตรงสาย ดึงผู้เล่นที่สนใจตัวพรีเซ็นเตอร์ให้เข้าไปลองได้ก็ยังไม่ถือว่าสำเร็จ เพราะความสำเร็จที่แท้จริงคือหลังจากนั้นว่าจะทำอย่างไรให้คนที่เราดึงเข้า มาได้จากตัวพรีเซ็นเตอร์ เล่นเกมต่อไปนานๆ ไม่ใช่แค่ทดลองแล้วจากไปเท่านั้น