รีวิว Apple TV มันมีอะไรดี
ซื้อดีไหม Apple TV มันมีอะไรดี มันทำอะไรได้ ติดตั้งยังไง ลองอ่านบทความง่ายๆ ของผมดู รับรองว่าใช้ได้ชัวร์จ้า
ด้วยความวู่วามส่วนตัว ผมก็ได้สอย เจ้า Apple TV มาเรียบร้อย
โดยไม่รอ Apple TV Gen4 ที่เขาร่ำลือกันแล้ว ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่าถึงมีก็คงไม่ได้รุ่นใหม่ไปกว่านี้แล้ว
บุคคลทั่วไปหลายต่อหลายท่านแม้จะมี iPod iPhone iPad หรือแม้กระทั่ง Macbook แต่น้อยคนนักในวงการที่ถามหาแล้วจะเจอ
คนมี AppleTV เหตุเพราะ มันพึ่งขายเมืองไทยไม่นานมานี้เอง พร้อมการมาของ iTunes store
หลังจากเราพ้น บัญชีดำของการละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัท Apple ได้ไม่นาน
หน้าที่หลักๆ ของ Apple มีหลายอย่าง
1. AirPlay หรือเล่นสิ่งเดียวกับที่เล่นผ่าน iPad / iPhone ของท่านเดี้ยะๆ หรือ เล่นควบคู่กับโปรแกรมต่างๆ
เช่น หากเป็นเกมเครื่องบิน ก็กลายเป็นแผงควบคุม หรือ เกมรถแข่งก็กลายเป็นพวงมาลัยรถแทนเป็นต้น
ง่ายสะดวกปลวกแดงยิ่งนัก
รูปร่าง เป็นทรงสี่เหลี่ยม ขนาด ประมาณ 10 เซ็นติเมตร (9.8)
ด้านหลังมีอะไรบ้าง
1. ช่อง HDMI เชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงไปยังทีวี(สำคัญมากต้องต่อไม่งั้นภาพไม่ขึ้น)
2. Optical audio สัญญาณเสียงล้วนๆ ต่อเข้ากับชุดขยายเสีย
3. Built-in IR receiver เป็นตัวรับสัญญาณจากรีโมตที่แถมไปกับตัวเครื่อง
4. Micro-USB (for service and support) Port USB
5. ช่องเสียบสายไฟ
อุปกรณ์ใช้งานร่วม
1. WiFi Network หรือ สาย LAN เพื่อเชื่อมต่อเข้า Apple TV
2. TV แนะนำที่มีช่อง HDMI
3. เครื่อง PC กรณีใช้ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ iPhone iPod iPad อย่างใดอย่างนึง ร่วมด้วย
และมี App Remote ให้ใช้งานร่วมกันแทนเจ้ารีโมตตัวที่ได้มาด้วย รวมไปถึงการ AirPlay
3. รีโมตที่แถมมากะกล่องแล้ว
ใช้ง่ายครับ จริงๆ ใช้งานเหมือน iPodtouch รุ่นคลาสสิกอ่ะ ขาวๆ ตรงกลางใช้กดตกลง นอกนั้นก็กดเลื่อน และ เมนูไว้กดออก
กับปุ่มเล่นไม่เล่น วัสดุเดียวกับ iPad และ Macbook จึงจับสัมผัสได้ถนัดมือมากๆ ดูหรูทีเดียวเชียว
อันนี้ถ่ายจากกล้อง The New Old iPad ผมเอง ตอนกลางคืนด้วยเพราะงั้นภาพดรอปขอโทษด้วยครับ
ขนาดกล่องและสาย กล่องสวยหรูทรง สี่เหลี่ยม ราคาซื้อที่ร้าน 3800 ฿ และซื้อสายแยกจากร้านโดยตรง ราคา 690 ฿
ภายในกล่องบรรจุ คู่มือ / ใบคุณสมบัติการใช้ / ตัวกล่อง / สายไฟ / รีโมต / และสติ๊กเกอร์ Apple ไว้ติดรถมั๊ง เหมือนอุปกรณ์อื่นๆ นั่นแหละ
หัว HDMI เป็นแบบนี้ สายแท้แพง ไม่ยาวมาก แต่ดูแข็งแรงดี
ติดตั้งเรียบร้อย เสียบสายไฟพร้อม เปิดได้
หลังจากกดเลือกภาษา กับ internet wifi (ผมไม่ได้ต่อ Lan) เข้ามาหน้าแรกจะเป็นแบบนี้
ภาพยนต์ เพลง ที่ซื้อ หลังจากกรอก iD เรียบร้อยจะปรากฎบนนี้ สามารถเล่นได้เลย ส่วนตั้งค่าเป็นตั้งการเล่น และคำสั่งเฉพาะต่างๆ
มีช่องด้านล่างด้วย ที่ดูได้เลยอย่างนึงคือ Youtube ซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากแล้ว เพราะ ความละเอียด 1080 พิกเซล ชัดเปรี๊ยๆ
งาน iTunes เฟส ที่พึ่งจัดไปก็มีให้ชมด้วย นักดนตรีดังๆ เพียบ
อันนี้ส่วน บังคับใน iPad กับบ้าง ถ้าต่อแล้ว Link เรียบร้อย สามารถใช้เป็นรีโมตได้เลย
พิมพ์เอายาก พิมพ์ค้นหาผ่านในนี้ก็ได้ สะดวกมากๆ
ถ้าไม่มีอุปกรณ์ ต้องใช้แป้นนี้ ใส่ตัวอักษร ยากอยู่
วิธีกด AirPlay ไปเปิด โหมดที่ตั้งค่าก่อน จากนั้นเมื่อเลื่อนขึ้น จะปรากฎสัญลักษณ์ AirPlay ให้ใช้งานได้ทันที กดปุ๊บ iPad หรือ อุปกรณ์ของท่านจะเชื่อมกันทันที
สำหรับเกมที่รองรับก็จะขึ้นแตกต่างกันก็ได้ เช่นเป็นปืนไว้ยิง เป็นแผงควบคุม เป็นต้น
ความคมชัดระดับ HD จริงๆ
หนัง และเพลง ของ iTunes store อาจจะยังแพงไป
คือ เช่า ประมาณ 5 เหรียญ และ ซื้อประมาณ 14-19 เหรียญ ซึ่งแพงกว่าแผ่นในบ้านเราเยอะ
เขาว่าเรทหนัง HD เช่าประมาณ 3.99$
แน่นอนว่า มี TV Show และรายการกีฬา ขายแพ็กเก็จเป็นรายเดือนด้วย (ผมไม่สนใจอะไร)
แต่แน่นอนว่าเราสามารถดูผ่าน App ได้ครับ
ถ้าหากคุณมี App แบบ Oplayer หรือ อื่นๆ ก็สามารถ โหลดหนังลง iPad แล้วให้รันขึ้นไปก็ได้ครับ
ความคมชัดไม่ตกไปแน่นอน