ผลสำรวจวัยรุ่นญี่ปุ่น เมื่อคุณมีลูกจะให้พวกเขาเล่นเกมไหม?

ผลสำรวจวัยรุ่นญี่ปุ่น เมื่อคุณมีลูกจะให้พวกเขาเล่นเกมไหม?

ผลสำรวจวัยรุ่นญี่ปุ่น เมื่อคุณมีลูกจะให้พวกเขาเล่นเกมไหม?

ญี่ปุ่น ประเทศที่พูดแล้วสิ่งที่นึกถึงเป็นอย่างแรกๆคงจะเป็น การ์ตูน ,หนังสือการ์ตูน และวีดิโอเกม โดยสิ่งเรานี้บ้านเราได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยเช่นกัน และบ้านเขาเองก็มีความกังวลไม่แพ้บ้านเราคือผู้ใหญ่ในครอบครัวแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสื่อบันเทิงที่เหล่าเด็กๆได้รับ ,ประเด็นในข่าวนี้คือการตอบแบบสอบถามจากผลสำรวจความกังวลเกี่ยวพัฒนาการของเด็กในด้านอารมณ์และจิตใจเมื่อรับสื่อดังกล่าว

เว็บไซต์ญี่ปุ่น My Navi Gakusei no Madoguchi ได้ทำการสำรวจวัยรุ่นระดับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นที่เติบโตมากับครอบครัวที่ห้ามหรือเคร่งครัดในเรื่องการดูทีวี อ่านหนังสือการ์ตูน หรือเล่นวีดิโอเกมในช่วงวัยเด็กกำลังเติบโต พร้อมกับยิงคำถามว่าในอนาคตเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาจะทำแบบเดียวกันกับลูกๆของพวกเขาไหม?

แบบสำรวจนี้มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 81 คน(ชาย 34 และ หญิง 47 คน) ซึ่งคำตอบนั้นมีการแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางทั้งข้อดีและข้อเสียในการให้เด็กดื่มด่ำไปกับสื่อบันเทิง โดย 37% ของผู้ตอบคำถามได้ให้ความเห็นว่าพวกเขาวางแผนว่าจะเลี้ยงลูกของพวกเขาเหมือนกับที่พวกเขาถูกเลี้ยงมา นั่นคือเคร่งครัดในเรื่องการเสพสื่อบันเทิง

นี่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยในการปล่อยให้เด็กเสพสื่อบันเทิง โดยเหตุผลหลักๆนั้นพวกเขาเห็นว่าการเสพสื่อบันเทิงจะมีผลกระทบต่อผลการเรียนของเด็ก

“ฉันต้องการให้ลูกๆของฉันได้เข้าเรียนโรงเรียนดีดี”

“ฉันเห็นภาพของลูกๆที่ไม่ตั้งใจเรียนหนังสืออย่างมากถ้าพวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นวีดิโอเกม”

“ครั้งหนึ่งตอนที่ผมสามารถเริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนและดูการ์ตูนได้แล้ว เวลามากมายที่เคยใช้ไปกับเรียนก็ลดลง”

ด้านเหตุผลอื่นๆที่ต้องการให้เด็กอยู่ห่างจากวีดิโอเกมและการ์ตูนคือพวกเขากลัวผลกระทบในด้านการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆและการเข้าสังคมของเด็ก

“ฉันต้องการให้ลูกๆออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน เพราะเกมกับการ์ตูนนั้นจะทำให้สายตาพวกเขาแย่ลง”

“ถ้าหากพวกเขาไม่ออกไปเล่นนอกบ้านกับเพื่อนในช่วงวัยเด็ก พวกเขาจะมีปัญหาเมื่อพวกเขาโตขึ้น”

 

ส่วนความคิดเห็นอีกด้าน ,63% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการให้ลูกของพวกเขาสามารถเล่นวีดิโอเกมหรือเสพสื่อบันเทิงได้ ต่างจากความคิดเห็นด้านบน โดยฝั่งนี้เขาเกรงว่าหากลูกของเขาไม่ได้เล่นเกมก็จะคุยกับเพื่อนในห้องเรียนไม่รู้เรื่องและนั่นจะทำให้ตัวเด็กมีปัญหาในการเข้าสังคมมากกว่า

“ผมต้องการให้พวกเขามีสิ่งที่ชอบเหมือนกันและพวกเขาสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งนั้นกับเด็กคนอื่นได้”

อีกส่วนของความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการห้ามเด็กเสพสื่อบันเทิงเพราะต้องการให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการควบคุมตัวเองและการจัดการเวลา

“ผมต้องการให้ลูกๆของผมเรียนรู้ที่จะตัดสินด้วยตัวพวกเขาเองว่านี่เป็นเวลางานหรือเล่น”

“แทนที่จะห้ามพวกเขาสนุกกับสิ่งเหล่านั้น สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาคือการเรียนและรู้ด้วยตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องหยุด”

ทั้งนี้ก็มีความเห็นที่เห็นด้วยว่าไม่ควรปิดกั้นสื่อบันเทิงแก่เด็กๆชนิดว่าเสพและเรียนรู้จากมันได้เต็มที่ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นวัฒนธรรมที่สามารถแชร์หรือพูดคุยกันได้ ไม่ต่างจากฝั่งตะวันตกอย่าง Star Wars และ Lord of the Rings ซึ่งสิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากฟิคชั่นเหล่านั้นจะทำให้เด็กมีความยืดหยุ่นและมีความคิดที่เปิดกว้างมากขึ้น

“เกมและการ์ตูนคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและผมต้องการให้ลูกของผมได้รับประสบการณ์จากสิ่งเหล่านั้น”

ใครเคยมีประสบการณ์ครอบครัวที่เคร่งครัดหรือห้ามปรามในเรื่องการเล่นเกม หรือครอบครัวที่เปิดอิสระในด้านนี้ แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้ครับ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย

game