Dota 2 ยกเครื่องการแข่ง ใช้ระบบคะแนน Qualifying Points
Dota 2 ยกเครื่องการแข่ง ใช้ระบบคะแนน Qualifying Points
อีกเพียงแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น สำหรับทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีของ Dota 2 อย่าง The International 2017 (ที่ในขณะนี้เงินรางวัลรวมได้ทะลุ 20 ล้านดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) ล่าสุด Valve ได้ออกมาประกาศถึงระบบทัวร์นาเมนต์รูปแบบใหม่ สำหรับการค้นหาทีมที่จะเข้าร่วมงาน The International 2018 ซึ่งจะเริ่มใช้ในฤดูการแข่งขัน 2017-2018 นี้
ยกเลิกงาน “Major” โดย Valve เปิดตัวทัวร์นะเมนต์ระดับ “Major” และ “Minor”
ต่อจากนี้ไปจะไม่มีงานระดับ Major ที่จัดขึ้นโดย Valve เองอีกแล้ว โดย Valve เลือกใช้วิธีเป็นสปอนเซอร์ให้กับผู้จัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ภายนอกแทน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
- Major งานแข่งขันที่มีเงินรางวัลรวมอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลสนับสนุนเพิ่มจาก Valve อีก 500,000 ดอลลาร์
- Minor งานแข่งขันที่มีเงินรางวัลรวมอย่างน้อย 150,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลสนับสนุนเพิ่มจาก Valve อีก 150,000 ดอลลาร์
สำหรับข้อบังคับของทัวร์นาเมนต์ที่จะได้รับสถานะ Major และ Minor นั้นคือ จะต้องมีการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อหาตัวแทนทีมอย่างน้อย 1 ทีมจาก 6 โซนหลักคือ อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, SEA, จีน, ยุโรป และ CIS รวมถึงต้องมีการจัดงานแข่งรอบ LAN Final เพื่อให้ทีมจากโซนต่างกันได้มาแข่งขันในสถานที่เดียวกัน
ทั้งนี้ ตารางสำหรับงานแข่งขัน Major และ Minor จะถูกจัดการโดย Valve เพื่อไม่ให้มีช่วงเวลาที่ทับซ้อนกัน
เปิดตัว Qualifying Points แต้มสะสมชิงสิทธิ์ได้รับเชิญงาน The International 2018
ผู้เล่นที่เข้าแข่งขันในงานระดับ Major และ Minor จะได้รับ Qualifying Point หรือ QP (ยิ่งจบการแข่งขันในอันดับที่สูงก็จะยิ่งได้ QP มาก) ซึ่งจะมาเป็นตัวแปรใหม่เพียงตัวแปรเดียวสำหรับการพิจารณาการได้รับเชิญเข้าแข่งขันในงาน The International 2018 โดยคะแนน QP นี้จะติดตัวไปกับผู้เล่น ไม่ใช่ทีม
คะแนน QP ที่จะได้จากแต่ละทัวร์นาเมนต์จะแตกต่างกันไป โดยจะพิจารณาจากจำนวนเงินรางวัลรวมที่ยิ่งสูง QP ที่จะได้รับก็จะยิ่งมาก (งาน Major จะได้คะแนนต่อเงินรางวัลมากกว่า เมื่อเทียบกับงาน Minor) นอกจากนี้ คะแนน QP รวมของทัวร์นาเมนต์จะสเกลตามช่วงเวลาของทัวร์นาเมนต์นั้นๆ ด้วย โดยทัวร์นาเมนต์อยู่ใกล้งาน The International จะได้รับแต้ม QP รวมมากขึ้น
สำหรับช่วงเวลาสับเปลี่ยนลงทะเบียนผู้เล่นหรือ Roster Lock Period นั้นจะยังคงมีอยู่ดังเดิม โดยผู้เล่นที่ย้ายทีมในช่วงนี้จะยังคงสิทธิ์ในการรักษาคะแนน QP ของตัวเองเอาไว้ได้ และเพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นที่อาจจะเกิดขึ้น การคิดคะแนน QP รวมของทีมจะคิดจากผลรวมคะแนน QP ของผู้เล่นในทีมที่มีคะแนนสูงสุด 3 คนแรก
สุดท้าย เพื่อความตื่นเต้นและให้แฟนๆ สามารถติดตามผลการแข่งขันได้อย่างใกล้ชิด Valve จะมีตารางคะแนนที่จะแสดงคะแนน QP ของผู้เล่นรายบุคคล และคะแนน QP รวมของแต่ละทีมให้แฟนๆ ได้เข้าไปเช็คกันได้ตลอดเวลา
ที่มา: Dota 2 Blog
สนับสนุนเนื้อหาโดย geekjuggler