รีวิวเกม Gran Turismo Sport เกมแข่งรถระดับโลกบน PS4
เกมในซีรีส์ GT Sports ถือว่าเป็นอีกเกมที่มีแฟนๆรอเล่นทั่วโลก ด้วยยอดขายถล่มทลายหลายล้านชุด บวกทั้งกราฟิกของเกมที่จำลองรถออกมาได้สมจริงสุดๆทำให้การมาของ Gran Turismo Sport กลายเป็นที่จับตามองทันที
(ขอบคุณ NGIN และ Sony ประเทศไทยสำหรับการอนุเคราะห์)
โดย Gran Turismo Sport เป็นภาคพิเศษ ที่ตามชื่อคือเน้นการแข่งขัน e-sport ที่จะมีการจัดการแข่งอย่างเป็นทางการและได้หน่วยงานมารับรองผลกันจริงจัง อย่างไรก็ตาม การนำเสนอของเกมยังคงมาแนวหรูหราอลังการ ไปกับกราฟิกที่สามารถสร้างรถออกมาได้สมจริงและเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน แม้ว่าทุกวันนี้กราฟิกระดับนี้อาจจะไม่ได้ดีที่สุดแล้วแต่ก็ดูสบายตาและเกมเพลย์ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด แน่นอนว่ารถในเกมยังคงเป็นชนเท่าไรก็ไม่พังเหมือนเดิม เช่นเดียวกับเสียงประกอบในเกมที่แค่เสียงฟังเครื่องยนต์ก็ทำให้คอเกมฟินแล้ว ส่วนเพลงประกอบมีการนำเพลงดังๆมาประกอบเกม แต่ส่วนใหญ่ผู้เล่นจะอินกับเสียงประกอบที่เหมือนกับเราอยู่ในสนามแข่งจริงๆมากกว่า
ก่อนอื่นประเด็นแรกที่ต้องพูดถึงก่อนคือเกมต้องออนไลน์ตลอดเวลาเพื่อเล่นเกมในเกือบทุกโหมด เพราะหากไม่ต่อ อินเทอร์เน็ตแล้วคุณจะเล่นได้แค่โหมด อาเขต แถมยังไม่สามารถ Save ได้ด้วย จริงอยู่ที่ทุกวันนี้คนมี PS4 เกือบ 100% ก็ออนไลน์ตลอดเวลากันอยู่แล้ว แต่หาก อินเทอร์เน็ต หลุดหรือ Server ของเกมมีปัญหา เราก็จะเล่นได้แค่โหมดอาเขต อย่างไรก็ตามหลังจากได้ลองเล่นหลายสิบชั่วโมงยังไม่พบกับปัญหาเท่าไร มีการปิด Server เพื่อแก้ Bug เล็กน้อยเท่านั้น
ต่อด้วยการควบคุมบังคับที่ถือเป็นหัวใจของเกมขับรถโดยเฉพาะซีรีส์ Gran Turismo ที่ในภาค Sport ถือว่าทำออกมาได้ดี มีการเลือกควบคุมรถได้หลากหลายและปรับแต่งได้ละเอียดมาก และแน่นอนว่าการบังคับด้วยจอยพวงมาลัยในเกมนี้ก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิม ส่วนเทคนิคการขับขี่ก็ยังคงเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สมจริงตาม Concept ของเกม ผู้เล่นต้องกะจังหวะการเหยียบคันเร่งและเบรกกันให้ดี ซึ่งหากเราไม่ฝึกฝนจนชำนาญแล้วก็ยากที่จะชนะในสนามแข่งได้ ซึ่งเกมก็สร้างโหมดฝึกสอนเพื่อมารองรับเพียบ
ส่วนโหมดในเกมที่ต้องเล่นคือโหมด อาเขต ที่เป็นโหมดเดียวที่ไม่ต้องออนไลน์ก็เล่นได้ โดยมันจะมีทั้ง Single Race ที่ไว้ขับคนเดียวแข่งกับ com ,โหมด Time Trial ไว้แข่งทำเวลา , โหมด Drift และยังมีโหมดเล่นกับเพื่อนแบบแบ่งหน้าจอได้ด้วย และมีโหมดที่ไว้ใช้กับ PSVR ด้วย ซึ่งโดยรวมก็เหมือนกับโหมดในเกมทั่วๆไป แต่ก็เล่นได้เพลินๆและได้เครดิตไว้ซื้อรถและเก็บเลเวลตัวละครได้เช่นเดียวกัน
ต่อด้วยโหมด Campaign ที่เหมือนเป็นโหมดฝึกสอนและทำภารกิจ เพราะมีทั้ง Driving School ที่เหมือนเป็นโหมดฝึกสอนที่เราต้องทำตามที่เกมกำหนดที่มีตั้งแต่พื้นฐานเช่นการเบรครถ ไปจนถึงวิ่งในสนามสุดโหดที่ห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว แถมยังมีเวลาจำกัด เรียกว่ากว่าจะจบผู้เล่นต้องหัวร้อนกันเป็นแถว แต่เมื่อผ่านได้ก็จะได้รับรถคันใหม่เป็นของรางวัลนอกจากนี้ในโหมด Campaign ยังมี Mission Challenge ที่ตามชื่อที่เราต้องทำตามมิชชั่นที่เกมกำหนด และ Circuit Experience ที่เราจะได้ท่องไปในสนามแข่งจริง ที่เราเลือกได้ว่าจะวิ่งแข่งในบางช่วงของสนาม หรือจะแข่งทั้งสนามได้ ส่วนสนามแข่งที่หลากหลาย มีสนามจริงที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาให้ร่วมแข่ง และมีสนามแบบแรลลี่ ด้วย
และมาถึงจุดเด่นของเกม GT Sports คือโหมด Sport ซึ่งก็คือโหมดออนไลน์เล่นกับเพื่อนได้ทั่วโลกนั้นเอง โดยในโหมดนี้หลักๆก็จะเรียบง่ายแค่เข้าไปหาเพื่อนเล่นด้วย ที่จะมีการจัดการแข่งขันทุกวัน ที่เราสามารถเข้าไปร่วมแข่งได้ โดยในโหมดนี้จะมีการแบ่งเป็นระดับ ที่มีตั้งแต่ E,D,C,B,A โดยนักแข่งทุกคนจะเริ่มที่ E เท่ากันหมด แล้วจะค่อยๆอัพเกรดขึ้น เพื่อเข้าร่วมกับการแข่งขันที่ท้าทายมากขึ้น และยังมีการแข่งแบบ Champion ship อย่างไรก็ตามในโหมด Sports มีกฎระเบียบในการขับขี่ ซึ่งเราต้องเข้าไปกดชมวีดีโอก่อนถึงจะสามารถเข้าไปร่วมโหมด Sportsได้ ซึ่งเป็นการลดขั้นตอนเข้าร่วมแข่งลงไปมาก โดยในการเข้าร่วมแข่งออนไลน์ระหว่างรอเราสามารถเล่นอุ่นเครื่องกับสนามจริงได้ด้วย โดยเกมมี เลเวลของผู้ขับ และยังมีค่า DR (Driver Rating) และค่า SR หรือค่า Sportsmanship Rating ที่ค่า SR จะถูกหักหากเราขับรถชนคู่แข่งในโหมด Sports เรียกว่าเกมนี้หากจะเก็บให้สมบูรณ์เราต้องรักษามารยาทในการขับขี่ด้วย
ส่วนการจัดแข่งอย่างเป็นทางการจะเริ่มในวันที่ 4 เดือน พฤศจิกายน นี้ ที่เป็นการแข่งที่มีการรับรองจาก FIA โดนมีชื่อการแข่งเป็นทางการว่า GT Sport FIA Championship ซึ่งจะมีการจัดแข่งไปตลอดปีไปจนถึงสิ้นปี 2018 โดยผู้สร้างยืนยันว่าจะมีการจัดการแข่งแบบยุติธรรม โดยรถที่เข้าทำการแข่งจะมีแรงม้าเท่ากันหมดต่อให้ปรับมาแค่ไหน ทำให้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน
ส่วนข้อเสียอีกข้อนอกจากต้องออนไลน์ตลอดเวลาแล้วรถยนต์ใน GT Sports ยังถือว่าน้อยไปหน่อยเพราะในเบื้องต้นมีมาให้เลือกซื้อหรือปลดล็อกประมาณ 160 คัน แต่ในอนาคตทีมงานได้บอกว่าเตรียมอัพเดทคันใหม่ๆมาเพิ่มอีกแน่นอน โดยภาคนี้จะปรับแต่งสี ลายรถ และอัพเกรด เพิ่ม แรงม้า กับปรับ น้ำหนักรถ แม้จะไม่สามารถปรับได้เท่ากับภาคหลัก แต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่มีเลย
ต่อด้วยโหมดถ่ายภาพที่ยังคงโดดเด่นที่เราสามารถปรับแต่งภาพได้ละเอียดมาก เพื่อมาประกอบกับวิวทิวทัศน์ จากสถานที่จริง(เป็นภาพถ่ายจริง) แล้วเอารถของเรามาโชว์ได้ ปิดท้ายกับโหมด Lobby ที่เราสามารถสร้างห้องไว้แข่งกับเพื่อนได้ตามใจ แถมยังกำหนดกฎกติกาในการแข่งได้บางส่วนด้วย แน่นอนว่าเราจะสามารถจอยกับ Lobby อื่นได้ด้วยเช่นกัน
เกม Gran Turismo Sport ไม่ใช่แค่เกมแข่งรถ แต่มันคือการทำให้ความฝันของคนที่อยากได้รถในฝันเป็นจริง เพราะในชีวิตจริงอาจเป็นไปไม่ได้ แถมภาคนี้ทำให้เราสามารถเป็นนักแข่งรถระดับโลกได้ด้วย และมีการจัดการแข่งขึ้นมาจริงๆแบบที่มีองค์กรยอมรับ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่คนเป็นเจ้าของ PS4 ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ไม่พลาดข่าวสดใหม่ กดไลค์เพจแบไต๋เลย [รีวิวเกม] Gran Turismo Sport เกมแข่งรถระดับโลกบน PS4 was first posted on ตุลาคม 21, 2017 at 4:00 pm.©2017 "เว็บแบไต๋". Use of this feed is for personal non-commercial use only. If you are not reading this article in your feed reader, then the site is guilty of copyright infringement. Please contact me at beartaihitech@gmail.com