ผลวิจัยใหม่ชี้ ดื่มเหล้าหนัก เสี่ยงสมองเสื่อมเร็ว

ผลวิจัยใหม่ชี้ ดื่มเหล้าหนัก เสี่ยงสมองเสื่อมเร็ว

ผลวิจัยใหม่ชี้ ดื่มเหล้าหนัก เสี่ยงสมองเสื่อมเร็ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยมีรายงานข่าวผลการวิจัยที่ทำให้สายดื่มถึงกับยิ้มแก้มปริ ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจส่งผลให้อายุยืนขึ้น แต่ขอให้สร่างเมากันก่อน เพราะมีผลวิจัยใหม่ออกมาใหม่อีกแล้ว โดยการวิจัยนี้ทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างถึงกว่าหนึ่งล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นการวิจัยเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างมากที่สุด โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ผู้ที่ดื่มเหล้าหนัก มีความเสี่ยงในระดับสูงต่ออาการสมองเสื่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการสมองเสื่อมในระยะเริ่มต้น

โดยผลการวิจัยนี้ได้ตีพิมพ์ลงใน The Lancet Public Health ซึ่งผู้เขียนหลักคือ ดร. Jürgen Rehmผู้อำนวยการศูนย์บำบัดสิ่งเสพติด และสถาบันสุขภาพจิตแห่งมหาวิทยาลัยโตรอนโตเพื่อการวิจัยด้านสุขภาพจิต กล่าวว่า “เราสันนิษฐานมาแต่ต้นแล้วว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องส่งผลต่อร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไม่นึกว่าจะส่งผลมากขนาดนี้”

ดร. Rehm กล่าวว่า มีการวิจัยไม่มากนักที่ศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มตัวอย่างที่ดื่มเหล้าปริมาณมาก และแต่งานแต่ละชิ้นก็มีความขัดแย้งกัน มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งแนะนำว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันละครั้งหรือสองครั้ง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านสติปัญญาได้ แต่ก็มีงานวิจัยชิ้นอื่นที่กล่าวว่า การดื่มแม้เพียงระดับปกติก็ส่งผลร้ายต่อระบบโครงสร้างของสมองได้

เพื่อเสาะหาความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวแปรดังกล่าว ดร. Rehm และคณะ จึงศึกษาประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ใหญ่จำนวนกว่า 1 ล้านคนในฝรั่งเศส ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมระหว่างปี 2008 ถึง 2013 โดยนักวิจัยได้มองหาปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมในผู้ป่วยแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน การมีระดับการศึกษาต่ำ และผู้มีปัญหาสูญเสียการได้ยิน รวมถึงยังมองหาอาการผิดปกติที่มีสาเหตุจากการดื่มสุรา ไม่ว่าจะด้านจิตใจหรือร่างกายด้วย เช่น โรคตับ หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ

จากการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้พบว่า ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งชายและหญิง มีอาการที่บ่งชี้อย่างชัดเจนถึงภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลต่ออาการสมองเสื่อมประเภทต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญในทุกช่วงวัย ตั้งแต่อาการเริ่มแรกไปจนถึงอัลไซเมอร์

โดยจากการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยประมาณ 57,000 คน ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมก่อนอายุ 65 ปีนั้น มีถึงเกือบ 60% ที่ได้รับการวินิจฉัยว่า ความผิดปกติของสมองดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

คณะผู้เขียนงานวิจัยกล่าวว่า งานวิจัยนี้เป็นหลักฐานที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปส่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างชัดเจน และคนที่ดื่มอย่างต่อเนื่องเป็นปริมาณมากก็เสี่ยงต่ออันตรายทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน ดร. Rehm ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “อะไรมากไปย่อมไม่ดี ทุกๆ ปีมีคนกว่าสามล้านคนต้องตายด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ เห็นได้ชัดเลยว่า ทุกวันนี้เราดื่มแอลกอฮอล์กันมากเกินไปแล้ว”

องค์การอนามัยโลกกำหนดค่าการดื่มที่เกินมาตรฐานไว้ว่า 5 ดริ๊งค์ (Drink) ต่อวันสำหรับผู้ชาย และ 3 ดริ๊งค์ (Drink) ต่อวันสำหรับผู้หญิง บางคนอาจจะนึกเปรียบเทียบกับตัวเองว่า ก็ยังดื่มไม่มากซักหน่อย หรือ คนส่วนใหญ่ก็ดื่มกันประมาณนี้ทั้งนั้นแหละ “ใช่ นี่แหละเป็นสิ่งที่หลายคนคิด และมันกำลังให้หลายคนตายก่อนเวลาอันควร และอีกหลายคนกำลังพัฒนาไปเป็นภาวะสมองเสื่อม" ดร. Rehm กล่าว

อันที่จริงผลลัพธ์จากการวิจัยนี้ เพียงแค่ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์กับผลกระทบทางสติปัญญาเท่านั้น ไม่ได้เป็นเหตุและผลต่อกันโดยตรง แต่กระนั้นก็ยังเป็นที่น่ากังวลเพราะหากผลกระทบซึ่งปรากฏในงานวิจัยยังมีความรุนแรงที่สุดในระดับนี้ อาการที่รุนแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้จริงจะยิ่งรุนแรงขนาดไหน

ดร. Rehm แนะนำว่า “ประเทศอย่างฝรั่งเศสหรืออเมริกาควรจะทำอะไรมากกว่านี้ เกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบและรักษาผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการทำเช่นนี้อาจช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อมที่กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลกได้”

ดร. Rehm ยังย้ำอีกว่า “ยิ่งคุณดื่มมาก ก็ยิ่งมีโอกาสตายเร็ว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากทางสมองหรือโรคอื่นๆ อย่างเช่นมะเร็ง ทุกคนควรเริ่มตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตัวเองดื่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ว่าคุณต้องงดเหล้าหรือไม่ดื่มเลย แต่ควรลดปริมาณการดื่ม ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยจริงๆ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook